กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--สตูดิโอ แมงโก้
"สวัสดีค่ะ เชิญชมโครงการ”น้ำเพื่อชีวิต”ทางนี้ค่ะ หนูกับเพื่อนๆทำเองเลยค่ะ " เสียงแจ้วๆ ของเด็กน้อยวัยอนุบาลเชิญชวนให้ชมโครงงานที่เด็กๆ นำมาจัดแสดงภายในงานมหกรรมวันการศึกษาเอกชนจังหวัดนนทบุรี ในโครงการ คลองสวยน้ำใส ถวายในหลวงประจำปี พ.ศ. 2558 ภายใต้แนวความคิด รักษ์โลก...รักเรา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรีซึ่งจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในจังหวัดนนทบุรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ มีโรงเรียนเอกชนกว่า 100 โรงเรียน และเยาวชนกว่า 3,000 คนเข้าร่วมงาน
ภายในงาน น้ำหมักชีวภาพ ยังคงเป็นพระเอกของงานด้านการรักษาทรัพยากรน้ำ หลายโรงเรียน นำน้ำหมักชีวภาพมาต่อยอดผลิตเป็นน้ำยาเอนกประสงค์ ใช้สำหรับล้างจานชามในโรงอาหาร ผสมน้ำถูพื้นห้องเรียน หรือแม้กระทั่งล้างห้องน้ำ ด.ช. ธเนศ ปลั่งปรีชา นักเรียนชั้นประถม 5 จากโรงเรียนบางบัวทองราษฎ์บำรุง เล่าว่า ตนเองและเพื่อนๆได้ลองทำน้ำยาอเนกประสงค์ที่ใช้ซักล้าง โดยทดลองเปลี่ยนวัตถุดิบไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นมะนาว มะกรูด สัปปะรด มาผสมกับน้ำหมักชีวภาพและสารจากไขมะพร้าว และค้นพบว่า วัตถุดิบที่ต่างกัน ก็ให้ผลการใช้งานที่ต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือ น้ำเน่าเสียภายในคูและท่อระบายน้ำโรงเรียนไม่มีกลิ่นเหม็น ห้องน้ำก็สะอาดและไม่มีกลิ่นสะสม ยุงในโรงเรียนน้อยลง เช่นเดียวกับเด็กๆ ชั้นประถม 6 จากโรงเรียนรัตนบัณฑิตวิทยา ซึ่งทำโครงงานเรื่องน้ำหมักชีวภาพมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถมปีที่ 3 และช่วยขยายผลประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ชุมชน เพื่อได้ใช้ประโยชน์จากน้ำหมักชีวภาพ, EM ball และน้ำยาอเนกประสงค์จากธรรมชาติ โดยเริ่มที่นำไปให้คุณแม่และญาติๆ ใช้ เมื่อเห็นผลดี ก็ช่วยกันปากต่อปากจนเพื่อนบ้านในชุมชนก็หันมาใช้เช่นกัน ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า น้ำเน่าเสียบริเวณรอบโรงเรียนลดน้อยลง คลองที่ผ่านบริเวณชุมชนไม่ดำเหม็นเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งพวกเราดีใจมากที่เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่วีธีการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ
นอกจากน้ำหมักชีวภาพและน้ำยาเอนกประสงค์แล้ว ในปีนี้ได้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ ครีมขัดรองเท้าจากกากกาแฟ ผลงานจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนศรีสังวาลย์ โดย ด.ช. เอกพันธ์ ทรงวิเชียร ตัวแทนนักเรียน เล่าถึงการทำโครงงานว่า ปัจจุบันคนดื่มกาแฟสดกันเยอะมาก กากกาแฟเป็นของเหลือใช้ที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งสามารถเอาไปขัดผิว หรือตากแห้งแล้วใช้โรยในรองเท้าเพื่อดับกลิ่น จึงลองคิดค้นสูตรการทำครีมขัดรองเท้าหนังสีดำจากกากกาแฟ และทดสอบสัดส่วนการผสมจนนำไปใช้ได้จริง ซึ่งก็ได้ครีมขัดรองเท้าที่ทำให้ขึ้นเงา มีกลิ่นหอม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในอนาคตจะลองคิดสูตรที่ใช้กับเครื่องหนังอื่นๆ อีกด้วย
ด้านพี่ๆ ระดับ ปวช. ปวส. ก็ไม่น้อยหน้ารุ่นน้อง วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ส่งโครงการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์มาเป็นไฮไลท์ น้องๆ เล่าที่มาของโครงการว่า จากการทำโครงการปลูกผักปลอดสารพิษ ทำให้ทราบว่าปัจจุบันแร่ธาตุในดินไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยจึงจะได้ผลผลิตที่ดี แต่ปุ๋ยในปัจจุบันมีสารเคมีผสมอยู่เยอะและมีราคาแพง ประกอบกับเห็นว่า ไส้เดือนสามารถย่อยสลายขยะตามธรรมชาติได้ และได้มีการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อการเกษตรทั้งในและต่างประเทศ จึงได้ทดลองทำโครงการเพาะเลี้ยงไส้เดือนขึ้น โดยใช้ถังเพาะเลี้ยงและใช้เศษผัก ผลไม้ หรือแม้กระทั่งกระดาษเป็นอาหารของไส้เดือน ซึ่งผลผลิตจะได้ทั้งมูลไส้เดือนที่เป็นปุ๋ยแห้ง และปุ๋ยแบบน้ำ สามารถนำไปใช้สำหรับแปลงผักปลอดสารพิษได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ปลอดสารเคมีตั้งแต่ระบบการใส่ปุ๋ยเลยทีเดียว
นายอุดร ระโหฐาน ผู้อำนวยการกองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีเปิดเผยว่า “โครงการคลองสวยน้ำใส ถวายในหลวง ได้ดำเนินงานขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ตามนโยบายของ พ.ต.อ. ดร. ธงชัย เย็นประเสิรฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี โดยในปีนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ร่วมกับสมาคมผู้บริหารการศึกษาเอกชนนนทบุรี จัดมหกรรมวันการศึกษาเอกชนจังหวัดนนทบุรีขึ้น ภายใต้แนวความคิด รักษ์โลก...รักเรา นับเป็นการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการจัดงาน เพื่อปลูกจิตสำนึกในการดูแลและแก้ไขปัญหาน้ำเสีย สร้างเยาวชนในจังหวัดนนทบุรีให้เป็นศูนย์กลางของการเป็นผู้นำในการดูแลและอนุรักษ์น้ำ บ่มเพาะนิสัยรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นการแสดงพลังให้ผู้ใหญ่เห็นถึงความตั้งใจของเด็กๆ ที่จะอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มความสามารถ และขับเคลื่อนขยายผลต่อยอดเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ คู คลอง และแม่น้ำอย่างยั่งยืน “
ด้านนางนปภา นิลน้อย นายกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษาเอกชนนนทบุรี กล่าวถึงผลสัมฤทธิ์ในการจัดงานว่า “การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในทุกโรงเรียนเล็งเห็นและตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำมาอย่างต่อเนื่องตลอด 9 ปีนั้น นอกจากเด็กๆ จะได้พัฒนาทักษะทั้งทางด้านวิชาการแล้ว ยังสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ต่างๆ บูรณาการการเรียนรู้ด้วยกัน เกิดประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ และขยายสู่ชุมชนให้ตระหนักและเข้าใจถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างดียิ่ง การจัดงานในปีนี้ ได้เน้นย้ำถึงการส่งเสริมและหมุนเวียนทรัพยากรให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นให้น้อยที่สุด โดยใช้หลักการของ 3Rs คือ Reduce, Reuse, Recycle”
ด้านคุณทิษฏยา สุจริตกุล เซเลปชื่อดัง ผู้เข้าร่วมชมงาน กล่าวว่า “ปกติจะชอบพาลูกชายวัย 6 ขวบ ไปเยี่ยมชมงานนิทรรศการการศึกษาต่างๆ เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะลูกชายชอบ โดยเค้าจะได้เห็น ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆจากงานเหล่านี้อยู่เสมอ และเป็นการศึกษานอกห้องเรียนที่สนุกสนานอย่างยิ่งสำหรับครอบครัว และในงานนี้ น้องพีท ( เด็กชายพีทาพัฒน์ สุจริตกุล) ตื่นตาตื่นใจกับรถแข่งประหยัดพลังงานของพี่ๆ จากโรงเรียนกองทัพบกอุปภัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. ที่นำมาจัดแสดงเป็นพิเศษ เพราะเป็นเด็กที่ชอบและสนใจในเครื่องยนต์กลไกอยู่แล้ว ส่วนตัวก็รู้สึกทึ่งในความสามารถของน้องๆ ที่เพาะเลี้ยงไส้เดือนและผลิตปุ๋ยเพื่อการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากขอชื่นชมจากใจจริงค่ะ”
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น หากได้ปลูกหัวใจรักษ์สู่จิตสำนึกและความตระหนักรู้ให้แก่เยาวชนแล้ว ย่อมเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับพลังแห่งความรักของมนุษย์ทุกคน