กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์’ หรือ BRR มั่นใจปี 58 ผลการดำเนินงานเติบโตได้แข็งแกร่ง รับธุรกิจพลังงานทดแทนหนุนการเติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไร หลังภาครัฐปรับเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT ดันราคาขายไฟเพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อหน่วย ส่วนธุรกิจโรงงานน้ำตาลยังเติบโตดีจากปัจจัยการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำหนุนกำไรเพิ่ม หลังปี 57 ทำกำไรพุ่ง 23% และจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.20 บาทต่อหุ้น
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลทรายขาวสีรำส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ และนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายไปต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เปิด เผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ มองว่าเป็นปีที่มีผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมาจากปัจจัยของธุรกิจพลังงานทดแทนที่ BRR ได้เริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 และพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 8 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ Feed-in-Tariff หรือ FiT ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ การจำหน่ายไฟฟ้าในรูปแบบ FiT ส่งผลดีต่อโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 2 ของ BRR ที่มีโอกาสสร้างรายได้จาการจำหน่ายไฟเพิ่มขึ้น เนื่องจากการจำหน่ายไฟฟ้าในรูปแบบดังกล่าว ทำให้ราคาจำหน่ายไฟฟ้าต่อหน่วยให้แก่ภาครัฐปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.53 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่ 3.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อหน่วย ส่งผลต่อภาพรวมรายได้ของธุรกิจพลังงานทดแทนในปีนี้เพิ่มเป็น 450 ล้านบาทหรือ คิดเป็น 10% ของรายได้รวม และทำสัดส่วนกำไรเพิ่มเป็นกว่า 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 20%
ส่วนธุรกิจโรงงานน้ำตาลทราย ในปีนี้คาดว่าจะรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบได้ 2.2 ล้านตันอ้อย ผลิตเป็นน้ำตาลทรายได้ประมาณ 2.5 แสนตัน เทียบปีก่อนที่ผลิตได้ 2.08 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนตัน ซึ่งมาจากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำและยังทำกำไรเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีผลพลอยได้ที่เป็นกากน้ำตาลเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเพิ่มเป็น 80,000 ตันจากปีก่อนที่มีปริมาณอยู่ที่ 70,000 ตันอีกด้วย
“เรามั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่ BRR เติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งมาจากฐานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่เรามีผลผลิตน้ำตาลทรายที่มากขึ้นและต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง อีกทั้งยังสามารถสร้างเม็ดเงินรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจพลังงานทดแทนอีกด้วย” นายอนันต์ กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2557 (มกราคม-ธันวาคม 2557) บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาลและกากน้ำตาล 3,328 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิของธุรกิจรวมทำได้ 241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 196 ล้านบาท โดยการเติบโตมีปัจจัยจากความสามารถในการสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจน้ำตาลได้มากขึ้นหลังมีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง นอกจากนี้ ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 1 สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจเต็มปี รวมถึงยังนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปชำระหนี้คืนทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง จึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตในปีนี้ที่ผ่านมาเติบโตได้อย่างดี
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบการดำเนินงานปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท หรือคิดเป็น 56% ของกำไรสุทธิ โดยบริษัทฯ กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 นี้