กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(รมว.พม.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวิชาการสร้างความเป็นเลิศ “พัฒนาคนเพื่อพัฒนางาน” เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สามารถสนองความต้องการของประชาชนโดยมีผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ และหัวหน้าหน่วยงาน จำนวนทั้งสิ้น ๒๕๐ คน เข้าร่วมอบรมณ ห้องราชา ๑ – ๒ โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า การพัฒนาคนหรือบุคลากรมีความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่ง องค์กรจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับ “คน” เป็นลำดับแรก ดังนั้น ภาครัฐจึงต้องพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานในทุกระดับ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีความสามารถในการปรับตัว ปรับแนวคิด และวิธีการปฏิบัติงาน ให้สอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตน์ที่ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล และความต้องการอย่างแท้จริงของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) ได้กำหนดให้ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ เป็นปีแห่งการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาข้าราชการพลเรือนที่มุ่งพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงทุกระดับในองค์กร ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายซึ่งนำไปสู่ความสามารถเป็นผู้นำตนเอง ผู้นำทีมงาน ผู้นำองค์การ และผู้นำเครือข่าย จึงได้กำหนดจัดมหกรรมวิชาการสร้างความเป็นเลิศ “พัฒนาคนเพื่อพัฒนางาน” ครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นที่จะยกระดับเป็นองค์กรที่ทันสมัยและสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด ของ SMART Organization เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ใน ๔ มิติ ประกอบด้วย
๑) SMART Services การเป็นเลิศด้านการบริการ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
๒) SMART Networkการเป็นเลิศด้านการสร้างเครือข่ายโดยสร้างพันธมิตรกับทุกภาคส่วน
๓) SMART Office การเป็นเลิศด้านภาพลักษณ์สถานที่ทำงาน โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน
และ ๔) SMART Look การเป็นเลิศด้านภาพลักษณ์บุคลากร โดยสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับโดยทั่วไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ผู้เข้าร่วมอบรมทุกคนในฐานะผู้นำองค์กรรุ่นใหม่ ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ และช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกันคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อรับมือกับสิ่งท้าทายที่องค์กรจะต้องเผชิญในอนาคต อีก ๕ หรือ ๑๐ ปีข้างหน้า ย่อมทำให้การบริหารองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆให้เกิดขึ้นได้จริง นั่นคือ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนและสังคมอย่างแท้จริง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีให้กับประเทศไทยต่อไป
“การพัฒนาบุคลากรในทุกระดับ จะสามารถสร้างภาวะผู้นำขององค์กรที่ดี มีความรู้ ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนทักษะด้านการบริหารที่สามารถก้าวทันต่อสถานการณ์สังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและเป็นนักบริหารมืออาชีพที่มีวิสัยทัศน์สามารถขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล สู่การปฏิบัติอย่างสัมฤทธิ์ผลและถูกต้อง โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย