กรุงเทพ--25 ก.ค.--กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
นางรัชนี เอมะรุจิ รักษาการผู้อำนวยการกองสารสนเทศ และหัวหน้าฝ่ายระบบสารสนเทศ กองสารสนเทศ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้จัดแถลงข่าวแก่ผู้แทนสื่อมวลชนเกี่ยวกับการนำอินเตอร์เนตมาใช้งานด้านสิ่งแวดล้อม ดังนี้
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ได้พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานและจัดเก็บข้อมูลด้านการบริหารของ กรมฯ
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีภาระกิจหลักประการหนึ่งคือ การรวมรวมจัดทำและให้บริการข้อมูลข้อสนเทศด้านสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ในฐานะศูนย์ข้อมูล ข้อสนเทศด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นนับตั้งแต่การก่อตั้งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมเมื่อปี พ.ศ. 2535 กรมส่งเสริมฯ โดยกองสารสนเทศสิ่งแวดล้อมก็ได้มีแผนพัฒนาระบบสารสนเทศสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการรวบรวมจัดเก็บ และให้บริการข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อม มีเครือข่ายข้อมูลกับแหล่งข้อมูลทั้งระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับประเทศทั่วโลก
ปัจจุบันกรมส่งเสริมฯ ได้พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลเฉพาะเรื่อง เริ่มมีการนำเข้าข้อมูลและสามารถให้บริการค้นข้อมูลได้ 3 ฐานข้อมูล คือ 1. ฐานข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำ ที่ประกอบด้วยข้อมูลด้านป่าไม้และสัตว์ป่า ข้อมูลคุณภาพน้ำ ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลใช้ที่ดิน ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม ข้อมูลอุทกวิทยา 2. ฐานข้อมูลมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3. ฐานข้อมูลกฎหมายสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมฯ ยังได้จัดสร้างโฮมเพจเพื่อเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลสิ่งแวดล้อมผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต ซึ่งมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งมีข้อมูลด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สืบค้นได้ อาทิ ข้อมูลมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม รายชื่อ NGO ด้านสิ่งแวดล้อม รายชื่อบริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม รายชื่อผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม ดัชนีกฎหมายสิ่งแวดล้อม ข่าวสารต่าง ๆ
และในปีนี้ กองสารสนเทศสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินการเพื่อจัดสร้างฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลไทย เพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชายฝั่งและเพื่อดำเนินการแล้วเสร็จฐานข้อมูลเรื่องนี้จะมีการเผยแพร่ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต และจัดทำสำเนาเป็น CD-ROM เพื่อแจกจ่ายให้หน่วยงานและสถานศึกษาได้ใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งคาดว่าฐานข้อมูลนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จในปลายปี พ.ศ. 2541--จบ--