กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--บ้านพีอาร์
หลักทรัพย์บัวหลวงเผยเดือนก.พ. ดัชนีหุ้นทำนิวไฮ นักลงทุนแห่เก็งกำไร Call DW หุ้นรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้างคึกคัก ดักรัฐลุยโครงการลงทุน คาดยังดึงดูดนักลงทุนต่อเนื่อง ส่ง DW ชุดใหม่ 23 ตัว เสิร์ฟ 9 มี.ค. นี้ ชูอิงหุ้นได้ผลดีโครงการรัฐพรึ่บ ส่วน TRUE ยังแชมป์ซื้อขายสูงสุด
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant: DW) ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นักลงทุนเข้าเก็งกำไรซื้อขาย DWประเภทสิทธิในการซื้อ หรือ Call DW ในสัดส่วนสูงถึง 82.8% ของปริมาณการซื้อขาย DW ทั้งหมดที่เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,026.8 ล้านบาท คิดเป็น 1.9% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ ทั้งนี้ เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมีที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยสามารถทำระดับสูงสุดในรอบ21 เดือนที่ 1,619.77 จุด
สำหรับ DW ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร สัดส่วน 22.5% กลุ่มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 19.5% กลุ่มพลังงาน 16.8% โดย DW อ้างอิงหุ้นรายตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีสัดส่วนการซื้อขายสูงสุด 9.7% อันดับสองหุ้น บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) มีสัดส่วนการซื้อขาย 9.3% และอันดับสามหุ้น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) มีสัดส่วนการซื้อขาย 8.5% โดยหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นที่มีความผันผวนของราคาสูงและมีปัจจัยบวกสนับสนุน ทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนใน Call DW จำนวนมาก ในขณะที่ดัชนี SET50 ยังเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดเช่นเดิม
ส่วนกรณีของหุ้น TRUE ยังมีประเด็นเตรียมรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TRUEIF ในเดือนมี.ค. 58 สำหรับTPIPL เตรียมรับรู้รายได้จากยอดขายปูนซิเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงประโยชน์จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการลงทุนโครงการขนาดใหญ่และ ITD ซึ่งมีงานในมือและกำลังจะเซ็นสัญญารวมกันกว่า 3 แสนล้านบาทและมีโครงการเข้าร่วมประมูลในโครงการภาครัฐอีกมาก
นายบรรณรงค์ กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนใน DW เดือนก.พ. 58 พบว่านักลงทุนมีการปรับกลยุทธ์การซื้อขาย DW ตามสถานการณ์ตลาด โดยเข้าเก็งกำไร Call DW ในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเช่น IRPC, PTT, PTTEP ตามทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทำนิวไฮ แต่เมื่อตลาดเริ่มมีความไม่แน่นอนเช่นการรอดูผลการเจรจาหนี้ระหว่างกรีซกับสหภาพยุโรปที่ต้องมีข้อยุติก่อนแผนการช่วยเหลือทางการเงินของกรีซสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ. 58 รวมถึงแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ภายหลังเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ ระหว่าง 1,590 – 1,620 จุด ส่งผลให้นักลงทุนปรับกลยุทธ์อีกครั้งโดยหันเก็งกำไรใน Call DW ที่อ้างอิงกับหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกในประเทศเป็นหลัก อย่างหุ้น ITD และTPIPL
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนก.พ. ดัชนีหุ้นไทยกลับมาผันผวนอีกครั้งหลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งรายงานผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงกระแสข่าวการเลื่อนประมูล 4G ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร DW ประเภทสิทธิในการซื้อ (Put DW) ที่อ้างอิงกับหุ้นกลุ่มสื่อสารเป็นหลัก เช่น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค (DTAC) และ
บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) รวมถึงเข้าซื้อ Put DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 เพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนอีกด้วย
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ก.พ. 58 มี DW ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งสิ้น 889 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 706 รุ่นและ Put DW 183 รุ่น ครอบคลุมหลักทรัพย์อ้างอิง 100 ตัว โดยหลักทรัพย์บัวหลวงมีจำนวน DW สูงสุดในระบบ คิดเป็น 18.56% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดและมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 47.4% มียอดการถือครองDW โดยนักลงทุนสูงสุดเช่นกัน รวมทั้งยังเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1
นายบรรณรงค์กล่าวเพิ่มเติมว่าหลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน โดยวันที่ 9 มี.ค. นี้ จะออก DW ชุดใหม่จำนวน 23 ตัว เข้าซื้อขายพร้อมกันในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ทั้งประเภท Call และ Put อ้างอิงหุ้นBDMS, BLAND, ITD, PTTGC. QH, SCC, TCAP, THCOM, TMB, TPIPL, VGI รวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ประเภทCall อ้างอิงหุ้น BH โดย DW ทั้งหมดมีอายุประมาณ 6-7 เดือน
“DW ชุดใหม่นี้ออกมารองรับชุดเก่าที่กำลังจะหมดอายุ และบางตัวยังไม่หมดอายุแต่ออกมาเป็นทางเลือกให้นักลงทุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ ITD และ TPIPL ที่คาดว่ายังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่อง จากการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐ รวมถึงหุ้น SCC ที่น่าจะได้รับความสนใจเช่นกัน”นายบรรณรงค์ กล่าว
นอกจากนี้หลักทรัพย์บัวหลวงยังได้ให้ความสำคัญในการให้ความรู้ความใจแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยจะจัดสัมมนาครั้งต่อไปในวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558 เวลา 13.00-15.00 น. ณ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง สาขาอินเวสเมนต์สเตชั่น ในหัวข้อการสัมมนา“Bualuang iAlgo ช่วยเทรด DW ได้อย่างไร” โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนที่ www.bualuang.co.th