กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--IR network
บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) ปิดงบปี”57 กวาดรายได้รวม 4,581 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,003 ล้านบาท เหตุรับรู้รายได้จากโครงการ Petrobras , Roy Hill และ APLNG มากขึ้น หลังจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้บริหาร “มร.ยู ยูน” แจกข่าวดีผู้ถือหุ้น!!! บอร์ดไฟเขียวแตกราคาพาร์จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.25 บาท หวังเพิ่มสภาพคล่องหมุนเวียนในการซื้อขายหุ้น พร้อมจ่ายเงินปันผลทั้งหุ้นและเงินสด โดยจ่ายเป็นหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผลและจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท/หุ้น (คำนวณจากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท) พร้อมเดินหน้าลุยเจรจางานใหม่กับเจ้าของโครงการโดยตรง หวังผลักดันรายได้กระฉูด มั่นใจรายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า 15%
นายยู ยูน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (BJCHI) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิต และการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมตามแบบและขนาดที่ลูกค้ากำหนด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2557 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 4,581 ล้านบาท เทียบกับปี 2556 ที่มีรายได้รวม 3,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากงานโครงการใหม่มากขึ้น เช่น โครงการของ Petrobras และ Roy Hill และโครงการ APLNG ที่เป็นโครงการต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านจึงส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท
“ในปี 2557 บริษัทมีสัดส่วนการรับรู้รายได้จากผู้รับเหมาโครงการหลัก (EPC) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้จากโครงการต่อเนื่องจากปี 2556 นอกจากนี้ ในปี 2557 บริษัทยังคงมีการเข้าไปเปิดตลาดใหม่ในแถบทวีปอเมริกาใต้โดยเฉพาะที่ประเทศบราซิลรวมทั้งการเข้ามาแข่งขันที่มากขึ้นของผู้ประกอบการจากประเทศจีน ทำให้การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรในปี 2557 ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 ทั้งนี้ บริษัทจึงได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มคุณภาพของสินค้าและบริการรวมไปถึงเพิ่มความปลอดภัยในการสภาพแวดล้อมการทำงาน โดยมีการลงทุนในเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ประมาณ 500 ล้านบาท พร้อมทั้งนำนโยบายการลดต้นทุนมาใช้ เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ และสามารถสร้างอัตรากำไรให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ ในปี 2558 ตั้งเป้าการรับงานผ่านเจ้าของโครงการโดยตรงเพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีการเจรจางานผ่านเจ้าของโครงการโดยตรงมากขึ้นแล้วในแถบประเทศออสเตรเลีย และด้วยงานส่วนใหญ่เป็นงานที่บริษัทเคยทำมาก่อนแล้ว จึงมีความเชี่ยวชาญพิเศษ และมีความพร้อมที่จะรับงานนั้นๆ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยบวกผลักดันให้เจ้าของโครงการส่งคำสั่งซื้อเข้ามาโดยตรง และทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้”
เขากล่าวต่อว่า BJCHI ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2558 อยู่ที่ 15% จากปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันได้มีการทยอยรับรู้งานในมืออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะงานของ PETROBRAS ที่เริ่มรับรู้ไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 และยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลงานประมูลโครงการ High Potential Projects ที่มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานอีกมูลค่า 8,000 ล้านบาท อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสในการเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศ เช่น ประเทศบราซิลและประเทศออสเตรเลียรวมไปถึงในภูมิภาคอื่นๆด้วย โดยเฉพาะที่ประเทศบราซิลและประเทศออสเตรเลียที่บริษัทมองว่ายังมีโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซอย่างต่อเนื่อง เพราะยังคงมีแหล่งก๊าซธรรมชาติเหลวอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ทำให้เชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (Par) จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิม 320,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นจำนวน 1,280,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 80,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 320,000,000 บาท เป็นจำนวน 400,000,000 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลสำหรับสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 ให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเงินปันผลทั้งหุ้นและเงินสด เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น โดยจะจ่ายเป็นหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท/หุ้น (คำนวนจากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท) ซึ่งวัตถุประสงค์ดังกล่าวถือเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นของบริษัทแก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ มติดังกล่าวจะถูกนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
“ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ บริษัทจึงพิจารณาเลือกจ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มาจากกำไรสะสมในส่วนของกำไรจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ดังนั้น ผู้ถือหุ้นจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%”
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีในวันที่ 27 เมษายน 2558 และกำหนดให้วันที่ 13 พฤษภาคม 2558 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในการรับเงินปันผล และจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในตะวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2558