กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--Extravaganza PR
บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) เผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2557 ประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ บริษัทฯ มียอดรายได้รวม 9,625 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 54% จากปี 2556 มีผลกำไรสุทธิส่วนของบริษัทอยู่ที่ 395 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 219 ล้านบาท กำไรเติบโตขึ้นกว่า 125% ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2558 ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ยู ดีไลท์ และคอนโด ยู” ทั้งหมด 3 โครงการ รวมทั้งเตรียมจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2557 ประสบความสำเร็จตามแผนที่วางไว้ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 9,625 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่วางไว้เดิมที่ 9,000 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 395 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่า 125% จากปี 2556 โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 6,486 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของรายได้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า 1,273 ล้านบาท คิดเป็น 13 % ของรายได้ และจากกลุ่มธุรกิจสังกะสีออกไซด์ 1,243 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของรายได้
“ธุรกิจสังกะสีออกไซด์มีแนวโน้มตลาดยังคงไปได้ด้วยดี มีการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศอินโดนีเซียจากตลาดเดิมที่สิงคโปร์และเวียดนาม โดยมีรายได้จากธุรกิจนี้ 1,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,056 ล้านบาท สอดคล้องกับปริมาณการขายเพิ่มขึ้นเป็น 17,309 ตัน จากจำนวน 16,727 ตันในปีก่อน”
“เพื่อให้บริษัทมีการเจริญเติบโตที่ต่อเนื่อง สัดส่วนการลงทุนสำคัญคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งในแนวราบและแนวสูง โดยปี 2557 บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการแนวสูง 3,414 ล้านบาท จาก 6 โครงการ คือโครงการ ยู ดีไลท์ 3 ประชาชื่น – บางซื่อ, โครงการ ยู ดีไลท์ เรสซิเดนซ์ พัฒนาการ – ทองหล่อ, โครงการ ยู ดีไลท์ @หัวหมาก สเตชั่น, โครงการ ยู ดีไลท์ รัตนาธิเบศร์, โครงการคอนโด ยู วิภา – ลาดพร้าว และโครงการคอนโด ยู รัชโยธิน และในปี 2558 บริษัทวางแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “ยู ดีไลท์และคอนโด ยู” ทั้งหมดจำนวน 3 โครงการ มูลค่าไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งตามแนวคมนาคมหลักเช่นเดิม การออกแบบห้องชุดให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่าตรงใจลูกค้า เราจึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย” นายวรวรรตกล่าว
“ทั้งนี้หลังการควบรวมกิจการของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ (GOLD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ กับบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน (K LAND) มีผลทำให้รายได้ของบริษัทฯ ในปี 2558 จะเปลี่ยนเป็นมาจากโครงการแนวราบเป็นหลัก โดยแผนธุรกิจปีนี้บริษัทวางแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นของ GOLD จำนวน 11 โครงการและ K LAND จำนวน 2 โครงการ ดังนั้นเมื่อรวมรายได้จากแนวสูงและแนวราบบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถขยายการเติบโตของธุรกิจ และทำรายได้ตามเป้าที่วางไว้ได้”
นายวรวรรต กล่าวเสริมว่า ส่วนอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าในปี 2557 สร้างรายได้รวม 1,273 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของรายได้ โดยรายได้ค่าเช่าหลักมาจากอาคารสำนักงานเกรดเอ ปาร์คเวนเจอร์ – ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ จำนวน 313 ล้านบาท มีอัตราการเช่าเต็ม 100% ของพื้นที่ให้เช่า และมาจากโครงการสาทร สแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ 515 ล้านบาท ที่มีอัตราการเช่าที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับทิศทางและแผนการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวม 15,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จากปี 2557 โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประมาณ 12,000 ล้านบาท คิดเป็น 80% โดยมาจากโครงการแนวสูง 5,000 ล้านบาท และมาจากโครงการแนวราบ 7,000 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าประมาณ 1,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน10% ของรายได้ และธุรกิจสังกะสีออกไซด์มีมูลค่า 1,400 ล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้และธุรกิจอื่นๆ มูลค่า 100 ล้านบาท คิดเป็น 1% ของรายได้
“การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8,200 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ในการจัดตั้งกองทุนนี้คือ โครงการสาทร สแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านบาท และอาคารปาร์คเวนเจอร์ – ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,700 ล้านบาท” นายวรวรรตกล่าวตอนท้าย