กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--Syllable
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผลักดันการจัดตั้ง “คณะบริหารแหล่งท่องเที่ยว” ระดับชุมชน เพื่อให้การบริหารและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อขานรับปีท่องเที่ยววิถีไทย เร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม
ว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้วางแนวทางในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เพื่อรองรับปีท่องเที่ยววิถีไทย โดยวางแนวทางให้ชุมชนท่องเที่ยวแต่ละแห่ง จัดตั้ง คณะบริหารแหล่งท่องเที่ยว ของท้องถิ่นขึ้นมาทำหน้าที่ในการกำหนดทิศทาง วางแผนในการบริหารจัดการ และดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของตนเอง เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวที่สื่อถึงอัตลักษณ์และวิถีชีวิตชุมชนของไทยและป้องกันผลกระทบที่จะเกิดจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวที่ไร้ทิศทางและไม่มีคุณภาพ เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
สำหรับการจัดตั้งคณะบริหารแหล่งท่องเที่ยว จะเชิญชุมชนท่องเที่ยวจากทั่วประเทศซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว มาร่วมหารือถึงการจัดตั้ง คณะบริหารแหล่งท่องเที่ยวระดับชุมชน ในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งจะต้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เข้ามาร่วม โดยภาครัฐประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล รวมทั้งหน่วยงาน เจ้าของแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กรมศิลปากร ส่วนภาคเอกชน จะมีผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ร้านอาหาร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนซึ่งผลิตและจำหน่วยสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน เพื่อให้แต่ฝ่ายส่งตัวแทน โดยคณะบริหารแหล่งท่องเที่ยวนี้จะมีบทบาทสำคัญในการนำและประสานงานในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ทั้งในด้านปัจจัยพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก มาตรการด้านความปลอดภัย การตลาด การประชาสัมพันธ์ และการสร้างจุดขายให้กับแหล่งท่องเที่ยว
“เชื่อว่าปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่การท่องเที่ยวของไทยเฟื่องฟูอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นปีที่ถูกประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทยแล้ว จากการประเมินแนวโน้มสถานการณ์การท่องเที่ยวยังพบว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยในปีนี้จะขยายตัวจากปีที่ผ่านมา ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงผลกระทบที่จะตามมาจาก จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว และปรับจากที่ภาครัฐและเอกชนเคยทำงานแยกส่วนกันมาเป็นบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขับเคลื่อนไปได้”
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งคณะบริหารแหล่งท่องเที่ยว ในแต่ละท้องถิ่น ไม่จำเป็นว่าคณะบริหารดังกล่าวจะต้องมีหน้าตาเหมือนกันแต่ให้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแหล่งท่องเที่ยว เช่น แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อาจประกอบด้วย ตัวแทนจากกรมศิลปากร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ธุรกิจท่องเที่ยว ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ อาจจะประกอบด้วย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และองค์กรภาคเอกชน ส่วนคณะบริหารแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อาจประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงาน
การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เจ้าของแหล่งท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้ทิศทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแต่แห่งสอดคล้องกับความเป็นจริงและเกิดประโยชน์สูงสุด