กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--
หลังจากวันที่ได้เจอกัน...ประสานมือกันครั้งแรก หัวใจของชาว “อูรีบิน” ก็เต้นไม่เป็นส่ำ พร่ำแต่คำว่าคิดถึง “คิมอูบิน” เพื่อไม่ให้การรอคอยเสียเปล่า บริษัท อี-อินเทนน์ จำกัด (E-Intent Co., Ltd.) ผู้จัดอีเว้นท์ที่เคยสร้างปรากฎการณ์ในแฟนมีตติ้ง E-INTENT PRESENTS 2014 KIM WOOBIN THE 1st FAN MEETING IN THAILAND ‘LOVE AT FIRST SIGHT’ เมื่อปีก่อน ได้จับมือผนึกกำลังกับ บริษัท ไซดัส เอชคิว (sidusHQ) ต้นสังกัดของ “คิมอูบิน” เพื่อมอบความสุขให้กับชาวอูรีบิน สาขาไทยแลนด์อีกครั้ง ในงานแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 E-INTENT PRESENTS 2015 THE MOMENT OF KIM WOO BININ THAILAND “LET’S MAKE EYE CONTACT” แฟนมีตติ้งปีที่แล้วได้รับคำชมว่าฟินอย่างไร... ครั้งนี้จะต้องให้ฟินเว่อร์วังอลังการมากขึ้นไปอีก จากที่เคยได้ใกล้ชิด ได้สัมผัส แต่ครั้งนี้จะได้สบตา เผยความในใจ ที่กล้าจัดให้แบบเต็มแม็ก ก็เพื่อตอบแทนความรักที่แฟนๆ มีให้กับ คิมอูบิน อย่างไม่เสื่อมคลาย และแทนคำขอบคุณ ที่ไว้วางใจ “อี-อินเทนน์” ในฐานะผู้จัดอีเว้นท์คุณภาพอีกครั้ง
กลับมาครั้งนี้ การันตีว่า “คิมอูบิน” ยังคงเป็นฮันรยูสตาร์ หรือดาวรุ่งแห่งฟากฟ้าเกาหลี ที่ครองใจแฟนคลับไทยไม่เสื่อมคลาย เพราะแม้จะไม่มีผลงานซีรีส์มากว่า 1 ปี แต่กระแสตอบรับจากแฟนๆ ยังคงอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่แพ้ช่วงที่เขาฮอตสุดๆ จากบท “ชเวยองโด” ในซีรีส์ The Heirs ด้วยเหตุนี้เมื่อค่ำคืนวานในงานแถลงข่าว ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ ทุกพื้นที่และทุกชั้น 2-3-4 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯถึงกับคับแคบไปถนัดตา เมื่อถึงเวลา 19.00 น. คิมอูบิน ก็ไม่ปล่อยให้ความคิดถึงของแฟนๆ ทำงานหนัก ปรากฏตัวตรงเวลาเป๊ะๆ โปรยยิ้มหวานเรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ เจ้าตัวเผยความในใจว่า เพิ่งลงจากเครื่องบินสดๆ ร้อนๆ อากาศเมืองไทยร้อนตับแลบ แต่ต่อให้ร้อนแค่ไหน ก็ไม่เท่าความคิดถึงที่มีให้หรอก เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้อีกระลอกใหญ่ๆ
ไม่ได้มาเมืองไทยเกือบหนึ่งปี เมื่อถามถึงความทรงจำที่ยังคงตกค้างจากแฟนมีตติ้งครั้งก่อน หนุ่มขายาวของแฟนๆ ก็เปิดประเด็นอ้อนทันที “ผมว่าแฟนคลับประเทศไทยมาให้กำลังใจผมเยอะที่สุดแล้วล่ะครับ เพราะอย่างนั้นผมเลยอยากรีบกลับมาเจอทุกคน” เจอลูกอ้อนอย่างนี้ไป ... สาวๆ รายไหนก็ต้องหลง ต่อด้วยคำถามเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ชื่อ TWENTY ที่มีคิวลงจอเกาหลีเร็วๆ นี้ กระแสเรื่องนี้มาแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว เพราะนอกจากจะได้ร่วมงานกับ 2 หนุ่มฮอต “จุนโฮ 2PM” และ “คังฮานึล” แล้ว อูบิน ต้องพลิกบทบาทจากแบดบอยเจ้าเสน่ห์ มาเป็นผู้ชายธรรมด๊า...ธรรมดา หลงตัวเอง แถมยังตกงานอีกด้วย เพราะเป็นงานคอมาดี้เรื่องแรกของ เขา ทำให้ผู้คนพากันจับตามอง อูบิน อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “TWENTY เป็นเรื่องราวของเพื่อนซี้ 3 คนครับ ผู้ชมที่ยังอยู่ในวัย 20 ดูแล้วคงจะบ้าบอไปกับเราด้วย ส่วนใครที่อายุเกิน ดูแล้วก็จะหวนคิดถึงความทรงจำตอนที่ตัวเองอายุ 20 น่ะครับ”
บทบาทในภาพยนตร์ คิมอูบิน ต้องแสดงเป็นวัยรุ่นอายุ 20 ทั้งที่อายุจริงตอนนี้ 27 ปีแล้ว ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถามถึงความทรงจำในวัย 20 ปีของเขา “ตอนอายุ 20 บางคนก็เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยใช่มั้ยล่ะครับ แต่สำหรับผมอายุ 20 เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีวันลืม เพราะเป็นช่วงที่เริ่มต้นการเป็นนายแบบ เป็นงานที่ผมใฝ่ฝัน และอยากเรียนรู้อยู่แล้วครับ เพื่อนที่รู้จักกันตอนอายุ 20 ก็เป็นเพื่อนที่สนิทมากที่สุด และเจอกันบ่อยที่สุด” และสำหรับแฟนๆ ที่รอคอยผลงานละครเรื่องใหม่ของเขา ก็ขอให้อดใจรอเพราะคิมอูบินเผยว่า “ตอนนี้ผมอยากรีบเอาบทละครมาอ่านเลยล่ะครับ ซึ่งก็กำลังพิจารณาอยู่นะ แต่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มเรื่องไหน ต้องขอเวลาดูอีกหน่อยนะครับ”
สัมภาษณ์วกกลับเข้ามาถึงคอนเซ็ปต์แฟนมีตติ้ง E-INTENT PRESENTS 2015 THE MOMENT OF KIM WOO BININ THAILAND “LET’S MAKE EYE CONTACT”อยากรู้ว่า คิมอูบิน เห็นด้วยหรือเปล่า กับสำนวนที่ว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” ได้คำตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า “แน่นอนอยู่แล้วครับ! ว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ระหว่างผมกับแฟนคลับไทย อาจพูดกันคนละภาษา แต่ทุกคนอาจจะได้รับข้อความที่ผมสื่อสารจากดวงตาไปยังหัวใจของพวกเธอก็ได้” ว่าแล้ว VJเอก-เอกชัย พิธีกรของงานก็ขอส่งสาส์นท้า ให้ส่งข้อความจากสายตาถึงแฟนๆ อูบินก็ก้มหน้าเมื่อเงยหน้าก็มองไปกล้องทีวีที่ยิงขึ้นจอ แต่แล้วก็ออกอาการเขินมาก “ผมเขินมากเลยครับ แต่ขอบอกว่าทุกซอกทุกมุม ที่ผมกวาดสายตาไป ... ผมมองพวกคุณด้วยความรักนะครับ” จากนั้นก็กวาดสายตาไปทั่วฮออล์ย้ำคำพูดตัวเอง... หวานซะ
เมื่อส่งความรักผ่านดวงตาได้เก่งขนาดนี้ จึงอดถามไม่ได้ว่า ถ้าหากเจอผู้หญิงที่ถูกใจ คิมอูบิน จะเป็นฝ่าย Make Eye Contact กับเธอก่อน หรือรอให้เธอเป็นฝ่ายเข้าหา คำตอบมาพร้อมลูกอ้อนเช่นเคย “ผมจะเข้าหาเธอก่อนเลยครับ จะได้ไม่คิดเสียดายทีหลัง เหมือนตอนที่ผมสบตาทุกคนเมื่อกี้ ผมก็พยายามเต็มที่จะได้ไม่ต้องเสียดายยังไงล่ะครับ” ไม่พูดเปล่า ยังมองกวาดสายตาไปถึงชั้น 4 พร้อมยิ้มเขิน ว่าแต่เห็นภายนอก คิมอูบิน เป็นหนุ่มแบดบอยนิ่งๆ แต่ความจริงแล้วเป็นคนฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งมากกว่าที่คิด ชอบส่งอีโมติคอนให้คนรอบข้าง “ก็เวลาส่งข้อความ ตัวหนังสืออย่างเดียวมันอาจไม่พอนี่ครับ ผมเลยส่งอีโมติคอนติดไปด้วย ที่ส่งไปบ่อยๆ ก็คือแก๊งเพื่อนสนิท แล้วก็เพื่อนที่แสดงภาพยนตร์ด้วยกัน อย่างจุนโฮ และคังฮานึล ครับ”
มุมหนึ่ง คิมอูบิน ดูเหมือน แบดบอย (Bad Boy) แต่อีกมุมหนึ่งก็อ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษ (Gentleman) สุดๆ เมื่อให้เลือกตัวตนระหว่าง 2 อย่างนี้ อูบินก็บอกว่า “ขึ้นอยู่กับสถานการณ์มากกว่า เหมือนอย่างตอนนี้ที่ผมกำลังแสดงออกเต็มที่เพื่อมอบความรักให้ทุกคน” ส่วนฉายา “ฮันรยูสตาร์” และตำแหน่งที่คนยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “4 จตุรเทพนักแสดงชั้นนำเกาหลีของยุคนี้นั้น” คิมอูบิน กล่าวอย่างถ่อมตัว “ผมคิดว่าตัวเองยังดีไม่พอ เมื่อเทียบกับความรักที่ได้มาอย่างท่วมท้น อย่างไรก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มอบให้มาครับ สัญญาว่าจะตอบแทนกลับไปเยอะๆ”
ท้ายสัมภาษณ์ คิมอูบินยังเผยถึงงานอดิเรกที่ชอบทำในเวลาว่าง เป็นต้นว่า ดูภาพยนตร์ วาดรูป และออกไปพบเพื่อนๆ ส่วนวันพรุ่งนี้ 8 มีนาคม 2558 ซึ่งเป็นงานแฟนมีตติ้ง “อยากให้ทุกคนมาด้วยความรู้สึกสบายๆ เหมือนมาเจอเพื่อน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการที่เราได้เจอกันแล้ว อยากให้มา Make Eye Contact ด้วยกัน ใช่เพียงแต่แฟนๆ รอคอยเขาแต่ คิมอูบินเองก็รอคอยอยากเจอทุกคนมานานมาก อยากให้แฟนคลับได้เก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ กลับไปบ้านด้วย จากนั้นก็ส่งท้ายงานด้วยการถ่ายรูปกับผู้บริหาร สปอนเซอร์ใจดี คาลวิน ไคลน์ และทเวลพลัส จากนั้นก็ต่อด้วยการแจกลายเซ็นบนโปสเตอร์พร้อมสัมผัสมือกับแฟนคลับผู้โชคดี 50 คน นี่แค่งานแถลงข่าวก็ยังฟินกันขนาดนี้ เอาเป็นว่าใครที่ยังฟินไม่พอก็ไปต่อกันได้วันนี้ ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ใครที่ยังไม่มีบัตรก็คงต้องรีบไปซื้อกันได้ทาง ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร. 02-262-3456 หรือเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com หรือถ้าไม่อยากให้ลาดมาซื้องานได้เลยอย่าช้าเพราะว่าบัตรใกล้จะหมดแล้วจ้า