กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยจับมือเอไอเอส เกาะกระแสเทรนด์โลก ร่วมพัฒนานวัตกรรมชำระเงินแบบใหม่รับเศรษฐกิจดิจิทัล หนุนอีคอมเมิร์ซที่โตปีละกว่า 30% ชี้ธุรกรรมผ่านมือถือมาเร็ว มาแรง จุดเด่นสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตั้งเป้าเป็นผู้นำระบบชำระเงินดิจิทัลต่อเนื่อง
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญธุรกิจด้านดิจิทัล แบงกิ้งมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การจัดการด้านการเงินด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างโอกาสการซื้อขายและต่อยอดทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่คาดว่าปี 58 จะมีการเติบโต 35-40% จากปี 57 ที่เติบโต 30-35% เนื่องจากประชาชนเริ่มคุ้นเคยการทำธุรกรรมออนไลน์ รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่เริ่มหันมาเน้นธุรกรรมค้าปลีกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันการค้าบนระบบดิจิทัลได้ขยายไปสู่โมบายคอมเมิร์ซ และโซเชียลคอมเมิร์ซที่มีการขายของผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ซึ่งจะสนับสนุนธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้ง ร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือเอไอเอส ผู้นำด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และบริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ (mPay) จำกัด ผู้ให้บริการ Electronic Wallet & E-Commerce Platform จับมือเป็นพันธมิตรเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่สถาบันการเงินกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้า อีคอมเมิร์ซได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยีระดับโลก
ทั้งนี้ ธนาคาร ฯ และเอไอเอส จะร่วมพัฒนาระบบในการรับชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้ซื้อสินค้า อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกให้ผู้รับเงินโอน ในกรณีที่มีการโอนเงินจาก K Mobile Banking PLUS ให้ผู้รับปลายทาง สามารถรับเงินได้ที่ตัวแทนของ mPay ซึ่งอยู่ในแหล่งชุมชนที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ต่อยอดการพัฒนาระบบชำระเงิน NFC (Near Field Communication) บนบัตรเครดิตเพย์เวฟ ไปสู่ระบบชำระเงินบนโทรศัพท์มือถือ NFC Mobile Pay Wave Credit Card ที่ลูกค้าสามารถใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
นายปรีดี กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำธุรกรรมการเงินผ่านดิจิทัล แบงกิ้ง มีการเติบโตอย่างรวดเร็วถึงปีละ 70% ในขณะที่อีคอมเมิร์ซก็มีการเติบโตกว่า 30% ต่อปี ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงต้องพัฒนานวัตกรรมทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยและปลอดภัยยิ่งขึ้นมารองรับอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถแข่งขันได้ทั้งระดับ AEC และระดับโลก ซึ่งการจับมือกับเอไอเอส จะช่วยให้ธนาคาร ฯ บรรลุเป้าหมายในการให้บริการด้วยคุณภาพ และเป็นอันดับหนึ่งของดิจิตอล แบงกิ้งในประเทศไทย
ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า “เอไอเอสมีความพร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจร่วมกันกับธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างนวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของเอไอเอส ที่ตั้งเป้าเป็น “ผู้สร้างสรรค์บริการดิจิทัลเพื่อคนไทย” โดยมุ่งผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกกลุ่ม ร่วมกันพัฒนาบริการดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านให้กับลูกค้าและประชาชน ซึ่งวันนี้ดิจิทัลแบงกิ้ง ได้เริ่มก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย ดังนั้น เอไอเอส จึงเห็นความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และตั้งใจที่จะวางบทบาทตัวเองเป็น Digital Banking Enabler ในฐานะผู้สนับสนุนกระบวนการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อก้าวไปสู่ Mobile Banking และ Mobile Commerce อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และ Infrastructure ของระบบสื่อสารไร้สาย ที่วันนี้เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาในทุกด้านอย่างเต็มที่ทั้ง Wireless และ Fixed Broadband เพื่อให้คนไทยได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัยในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินบนมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา เอไอเอสเชื่อมั่นว่าการผสานความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า และคนไทย รวมถึงช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่มีกลไลทางการเงินเป็นตัวจักรสำคัญให้ก้าวหน้า พร้อมแข่งขันได้อย่างเต็มภาคภูมิต่อไป” นายสมชัยกล่าว