กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
นางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT เปิดเผยว่า จากนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลจำเป็นต้องมีการผลักดันให้เกิดผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง หรือ CIO ในภาครัฐให้มากขึ้น โดยในปี 2557 ที่ผ่านมาทางสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA ได้เข้ามาดำเนินการผลิตบุคลากร 2 รุ่น จำนวน 72 คน โดยทั้งสองรุ่นได้ผ่านการอบรมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันและอนาคต การออกแบบสถาปัตยกรรมองค์กรและกระบวนการทำงานร่วมกัน การบริหารจัดการเทคโนโลยีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล มาตรฐานการบริหารจัดการ การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการประชาชน ซึ่งทำให้ภาครัฐมีผู้บริหารที่พร้อมจะขับเคลื่อนฝั่งดิจิทัลภาครัฐอย่างเต็มที่
“นอกจากความรู้ที่ทาง EGA มอบให้กับ CIO ในแต่ละรุ่น ซึ่งล่าสุดเป็นรุ่นที่ 26 แล้ว จุดหลักที่ ICT ต้องการคือ ต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ร่วมกัน ให้เกิดขึ้น เพราะจะทำให้การบูรณาการทางด้านไอซีทีภาครัฐทำได้ง่ายขึ้น” นางเมธินี กล่าว
กลุ่ม CIO ที่ผ่านการอบรมในครั้งนี้จะต้องทำงานสอดคล้องกับนโยบายสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายให้มีการส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัล และวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งจะทำให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ ทั้งด้านการผลิต และการค้าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโดยตรง และการใช้ดิจิทัลให้รองรับการให้บริการของภาคธุรกิจการเงินและธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคสื่อสาร และบันเทิง ตลอดจนการใช้ดิจิทัลรองรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สำหรับแนวทางขับเคลื่อนมีกรอบยุทธศาสตร์ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามแผนภาพจะประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์คือ
1) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Hard Infrastructure) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต่อไปจนถึงเป้าหมายการครอบคลุมทุกพื้นที่ การมีขนาดที่พอเพียงกับการใช้งาน มีเสถียรภาพที่มั่นคง เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การต่อยอดกิจกรรมการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
2) การสร้างความมั่นคงปลอดภัย และความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Soft Infrastructure) รัฐจะเร่งทบทวน ปรับปรุง ยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลทุกฉบับ โดยมีกฎหมาย กฎระเบียบด้านการลงทุนและกำกับดูแลด้านโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตที่ทันสมัย
3) โครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการให้บริการ (Service Infrastructure) มีโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการที่ครอบคลุม และมีมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมบริการผ่านระบบดิจิทัลต่างๆ ของทั้งภาครัฐ และเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงมาก
4) ส่งเสริมและสนับสนุนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ (Digital Economy Promotion) รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลอย่างครบวงจร ที่มีผู้ประกอบการดิจิทัล (Digital Entrepreneur) เกิดใหม่จำนวนมาก และปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในด้านต่างๆ
และ 5) ดิจิทัลเพื่อสังคมและทรัพยากรความรู้ (Digital Society) การพัฒนาสังคมดิจิทัลที่มีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาข้อมูลข่าวสาร และบริการของรัฐต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อคนทุกระดับ คำนึงถึงผู้ด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่างทั่วถึง เท่าเทียมกัน
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EGA เปิดเผยว่า การอบรม CIO ในสองรุ่นล่าสุดนั้นสอดคล้องกับการที่รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ICT ของหน่วยงานรัฐขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่การผลักดันระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อทำให้การสร้างแอปพลิเคชัน หรือบริการทางด้านดิจิทัลใหม่ๆ ทำได้ง่ายขึ้น ความพยายามลดต้นทุนการบริหารด้านไอซีทีให้น้อยลง ด้วยการนำระบบดาต้าเซ็นเตอร์มารวมศูนย์เข้าสู่ส่วนกลางมากขึ้น และนำไปสู่การบูรณาการข้อมูลภาครัฐ ทั้งการเปิดเผยและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งแนวโน้มความเข้าใจของผู้บริหาร ICT ภาครัฐนั้นได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก
สำหรับทางด้านเทคนิคนั้น EGA นอกจากจะทำให้ CIO ภาครัฐตระหนักเรื่องการวางสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ของหน่วยงานตนเองให้ดีรองรับในส่วนของเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้ว ยังเน้นหนักเรื่องการวางแผนทางด้านความปลอดภัย และการสร้างมาตรฐานการบริการทางด้านไอซีทีขึ้น ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ในองค์กรและประชาชนสามารถไว้วางใจในระบบไอซีทีของภาครัฐในอนาคตได้ ซึ่งในรุ่นต่อๆ ไป ก็จะเพิ่มน้ำหนักในการอบรมด้านนี้เพิ่มเติม