กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--มหาวิทยาลัยแม่โจ้
จบแล้วจะทำอะไร... เข้าเรียนต่อแม่โจ้ ใช่มั้ย ?” ชาวแม่โจ้ต่างรู้สึกปลาบปลื้ม ซาบชึ้ง เมื่อได้ยิน พระสุรเสียงของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงเปล่งออกมาตรัสถามนักศึกษา ระดับ ปวส. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ เรื่องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีโดยทรงนึกถึง แม่โจ้ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.)ครั้งที่ 36 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแม่โจ้หลายอย่าง ดังนี้
แม่โจ้...ก่อเกิด อกท…องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย เกิดขึ้นครั้งแรกที่แม่โจ้ เมื่อปี พ.ศ. 2504
ในปี พ.ศ.2503 กรมอาชีวศึกษาจัดให้มีการอบรมผู้บริหารเรื่องโครงการเกษตรภายใต้การนิเทศ โดยจัดทุนให้โรงเรียนเกษตรกรรมโรงเรียนละหนึ่งแสนบาท เพี่อใช้ปรับปรุงพื้นที่ให้นักเรียนทำโครงการเกษตร จึงถือว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการก่อตั้งองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยขึ้น โดยอาจารย์สุรพล สงวนศรี และอาจารย์ประสงค์ วรยศ ซึ่งขณะนั้นสอนอยู่ที่โรงเรียนเกษตรกรรมเชียงใหม่ (มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในปัจจุบัน) ได้ร่วมกันร่างธรรมนูญและแนวทาง เพื่อจัดตั้งองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.) โดยอาศัยรูปแบบของ FFA ?ของประเทศสหรัฐอเมริกาผสมผสานกับ FFP ของประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก เมื่อมีเอกสารคู่มือแล้วก็ได้ประชุมนักศึกษาเพื่อชี้แจงความมุ่งหมาย อุดมการณ์และวิธีการของ อกท.แล้ว อกท.หน่วยแม่โจ้ จึงได้ทำการจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2504 ในยุคนั้นจัดว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม ?เพราะผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ (เดิมเป็นโรงเรียนเกษตรกรรมเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้) สมัยนั้นคือ อาจารย์วิภาต ?บุญศรีวังซ้าย ที่เคยไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับ ?FFA มีความเข้าใจในอุดมการณ์ขององค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยเป็นอย่างดี
และได้เจริญรุดหน้าเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการขององค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.)หน่วยแม่โจ้ ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ.2515
และเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่เปรียบมิได้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงเยี่ยม อทก.หน่วยแม่โจ้ อีกครั้งหนึ่งที่วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์แม่โจ้ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2516 ณ หอประชุมวิทยาลัยฯ (อาคารแผ่พืชน์ในปัจจุบัน)
แม่โจ้...สานต่อความฝัน….นักศึกษาระดับ ปวส.ด้านเกษตรทั่วประเทศ ใฝ่ฝันเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่แม่โจ้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดโอกาสให้กับผู้จบการศึกษาทางสายวิชาชีพ ระดับ ปวส. เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เป็นการเปิดโอกาสพิเศษ เพิ่มทางเลือกให้กับนักศึกษาเรียนดีในส่วนภูมิภาคให้สามารถเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของรัฐบาลและเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีชื่อเสียงทางด้านการเกษตร ดังนั้น “แม่โจ้” จึงเป็นเหมือนสถาบันในฝันของ นักศึกษาระดับ ปวส.ด้านการเกษตรทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิก อทม. ที่หวังว่าจะเข้ามาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี พิเศษไปกว่านั้นชาวแม่โจ้ได้รู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนักเมื่อได้ยิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปภัมภ์องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ที่ทรงนึกถึงแม่โจ้ เป็นสถาบันการศึกษาต่อของนักศึกษา ระดับ ปวส. โดยพระองค์ได้ตรัสถามถึงแนวทางการศึกษาต่อของ นางสาวนุจรี หรี่เรไร นักศึกษาระดับ ปวส.1 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ ว่า “จบแล้วจะทำอะไร..ศึกษาต่อที่ไหน..เข้าแม่โจ้ใช่มั้ย?” และถามถึงแนวทางการเทียบเข้าศึกษาต่อในปัจจุบันจากระดับ ปวส.ต่อเนื่องเป็นปริญญาตรี
แม่โจ้...ผลักดันสู่ความสำเร็จ….เป็นสถาบันการศึกษาที่ มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา อดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรม และจริยธรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันการศึกษาด้านการเกษตรที่สำคัญของประเทศ มีวิสัยทัศน์เป็น “มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีความเป็นเลิศทางการเกษตรในระดับนานาชาติ” เปิดสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2477 จาก “โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ” ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งยกฐานะและเปลี่ยนชื่อเป็น “มหาวิทยาลัยแม่โจ้” เมื่อ ปี พ.ศ. 2539 จวบจนปัจจุบัน ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติจำนวนมาก ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา อดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรม และจริยธรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน ซึ่งอัตลักษณ์ที่ชัดเจนของบัณฑิตแม่โจ้ คือ “เป็นนักปฏิบัติที่เชี่ยวชาญและทันต่อการเปลี่ยนแปลง”
และในงานประชุมวิชาการระดับชาติ อกท.ครั้งที่ 36 ได้มีศิษย์เก่าแม่โจ้ ซึ่งเป็นสมาชิก อกท. เฝ้าถวายรายงานต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 3 ท่าน ได้แก่
คุณชนินทร์ วงษ์แสง ศิษย์เก่าแม่โจ้รุ่น 47 สมาชิกศิษย์เก่า อกท.ดีเด่น ระดับชาติ ประจำปี 2557 เป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต เคยรับราชการครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จ.ชัยภูมิ และเป็นผู้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ 100% ตราทับทิมทอง โรงงานแม่โจ้การเกษตร เป็นเจ้าของรีสอร์ท รีสอร์ท ภูสะแกราช อ วังน้ำเขียว จ นครราชสีมา?และยังประกอบธุรกิจอีกหลายประเภท
คุณชิน เถียรทิม ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 52 สมาชิก อกท.ดีเด่น จากหน่วยนครสวรรค์ ประสบความสำเร็จในชีวิต ประกอบการด้านวิจัยพันธุ์พืช ผลิต และส่งออก จีน อินโดนีเซีย ไต้หวัน กลุ่มลูกค้าพืชสวน
คุณบัญชา ฉานุ ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 55 สมาชิก อกท.ภาคกลาง ประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นผู้ริเริ่มเกษตรปลอดสารพิษ เลี้ยงสุกร ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ?สาขาอาชีพทำสวน ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2557 Smart Farmer ด้านการเพาะเห็ดฟาง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แทนเกษตรกรในหน่วยงานต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เช่น คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานเห็ดฟาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์Smart Farmer ต้นแบบ ด้านการเพาะเห็ดฟาง ที่ปรึกษากระบวนการผลิตพืชปลอดภัย (GAP เห็ดฟาง) ได้รับรางวัลที่ 1 เกษตรกร GAP ดีเด่นระดับจังหวัดปี พ.ศ.2555
“แม่โจ้” จึงเป็นสถาบันการศึกษาที่มากกว่าแค่การเรียนการสอน แต่เป็นสถาบันที่มีเรื่องราว มีประวัติศาสตร์ด้านการเกษตรที่ได้ริเริ่ม และเกิดขึ้นที่แม่โจ้ เป็นสถาบันที่ต่อเติมฝันให้เยาวชนได้มีแหล่งศึกษาระดับอุดมศึกษาของรัฐ เป็นสถาบันที่ได้ผลักดัน สนับสนุนนักศึกษา สร้างนักศึกษาที่มีอัตลักษณ์ชัดเจน ได้ผลิตบัณฑิตคุณภาพออกไปรับใช้สังคมมาตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า
แม่โจ้...ก่อเกิด อกท.
แม่โจ้...สานต่อความฝัน
แม่โจ้...ผลักดันสู่ความสำเร็จ.
ข้อมูลเพิ่มเติม.. http://www.fft.or.th/fft55/index.php?name=aboutus&file=history