คอมเซเว่นฯ ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต. คาดเทรดใน SET ครึ่งหลังปี 58 เสนอขายหุ้น 300 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายสาขา-เงินทุนหมุนวียน-ชำระคืนเงินกู้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 12, 2015 11:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--IR PLUS “คอมเซเว่นฯ” แต่งตั้ง “เอเซียพลัส” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 300 ล้านหุ้น พาร์ 0.25 บาท/หุ้น เข้าจดทะเบียนใน SET นำเงินระดมทุนใช้ขยายสาขา-เงินทุนหมุนเวียน-ชำระคืนเงินกู้ “สุระ คณิตทวีกุล” แม่ทัพใหญ่ ระบุ เดินหน้าขยายสาขาในทุกช่องทาง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile , iStudio, iBeat, uStore By Comseven โดยกลุ่มสินค้าที่บริษัทฯ ทำการจัดจำหน่าย ได้แก่ กลุ่มสินค้าแบรนด์ Apple สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ และ แอสเซสซอรี่ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในวันที่ 10 มีนาคม 2558 เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยแต่งตั้งบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้กลุ่มบริการและพาณิชย์ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอทีประเภท คอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค ประกอบด้วย 1. BaNANA IT ร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 2. iStudio, iBeat, uStore By Comseven และ iCare ร้านจำหน่ายสินค้า ศูนย์ซ่อมและบริการสินค้าแบรนด์ Apple 3. BaNANA Mobile, Samsung Shop และMango Mobile ร้านจำหน่ายสินค้าประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริม ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มีร้านค้าปลีกและศูนย์บริการ จำนวน 324 สาขา ครอบคลุม 50 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น BaNANA IT 133 สาขา iStudio 36 สาขา iBeat 62 สาขา uStore 3 สาขา iCare 18 สาขา BaNANA Mobile 35 สาขา Samsung Shop 3 สาขา และ Mango Mobile 34 สาขา นายสุระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2558 บริษัทมีแผนขยายการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการขยายสาขาเป็นหลัก ซึ่งแผนการดำเนินงานเตรียมขยายสาขา BaNANA IT จำนวน 38 สาขา งบลงทุน 148 ล้านบาท และมีแผนปรับปรุงสาขา iStudio จำนวน 12 สาขา งบลงทุนประมาณ 72 ล้านบาท นอกจากนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ mangoshoping.com ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2558 งบลงทุน 20 ล้านบาท ขณะเดียวกันได้ทำการทดสอบตลาดไปยังกลุ่มภูมิภาคอาเซียน โดยมีสาขาในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นรูปแบบการให้สิทธ์ใช้แบรนด์ BaNANA IT จำนวน 2 สาขา ทั้งนี้บริษัทให้ความสำคัญในการไปลงทุนยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนแต่ต้องศึกษาการลงทุนอย่างรอบคอบ “ปี 2558 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ Com 7 เพราะจะก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรายังคงแผนการเข้าซื้อขายตามกรอบเวลาเดิมคือช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ส่วนผลประกอบการของบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 57 ที่มียอดขายประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผลมาจากสินค้าที่สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งไอโฟน 6 ที่ออกมากระตุ้นตลาดได้ดี และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯได้เริ่มลงทุนพัฒนาระบบ e-commerce หรือการสั่งซื้อออนไลน์ซึ่งในอนาคตจะสร้างยอดขายให้กับบริษัทฯ โดยตั้งเป้าปี 2560 จะมียอดสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ” นายสุระ กล่าว สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,102.46 ล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 159.97 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 206.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.86 ด้านดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวในฐานะตัวแทนของที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ว่า ขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ไฟลิ่ง) เพื่อขออนุญาตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มบริการและพาณิชย์ โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 1,200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 225 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญ 900 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีกลุ่มนายสุระ คณิตทวีกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วนรวมทั้งสิ้นร้อยละ 59.6 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย สำหรับเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำไปใช้ขยายธุรกิจ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ