SGP คาดผลงาน Q1/58 มีโอกาสพลิกเป็นกำไร แถมบอร์ด ใจดี ปันผลเป็นเงินสดอีกหุ้นละ0.20บ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 13, 2015 16:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--IR PLUS SGP ส่งสัญญาณ ผลงานไตรมาส 1/58 มีโอกาสพลิกเป็นกำไร ภายหลังราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.และมี.ค.ต่อเนื่อง “จินตณา กิ่งแก้ว” บอสใหญ่มั่นใจราคาก๊าซ LPG ผ่านจุดต่ำสุดในเดือน ม.ค. เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ส่งผลบวกต่อธุรกิจในช่วงต่อจากนี้ พร้อมตั้งเป้ายอดขาย LPG ปีนี้ที่ 2.57 ล้านตัน และมีรายได้กว่าหกหมื่นล้านบาท จากการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจในประเทศเน้นขยายปั๊มก๊าซ LPG เป็น 45 ปั๊มในปีนี้ ควบคู่กับคุมต้นทุนให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ด้านบอร์ด บริษัทฯ ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีกในอัตราหุ้นละ 0.20 บ. และมีกำหนดจ่าย 14 พ.ค. นี้ นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2558 มีแนวโน้มดีขึ้น และมีโอกาสพลิกมีกำไร จากผลประกอบการที่ขาดทุนในงวดปี 2557 และงวดไตรมาส 1/2557 เนื่องจากทิศทางราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 465 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากเดิมในช่วงเดือนมกราคม ราคาตลาดลงไปทำจุดต่ำสุดที่กว่า 447.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จึงทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในปี 2558 โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโตขึ้น ในปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ SGP แบ่งออกเป็น รายได้จากการขายก๊าซแอลพีจีในต่างประเทศร้อยละ 60 และในประเทศร้อยละ 40 ซึ่งบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการเปิดตลาดลูกค้ารายใหม่ๆ ในต่างประเทศ ทั้งแบบค้าส่งขนาดใหญ่ผ่านเทรดเดอร์รายใหญ่ในภูมิภาค และแบบค้าปลีกผ่านทางบริษัทย่อยในแต่ละประเทศที่บริษัทได้จัดตั้งไว้ เพราะมองว่าโอกาสและความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีในต่างประเทศยังมีอีกมาก ส่วนธุรกิจก๊าซแอลพีจีในประเทศ ยังคงมีแนวโน้มเติบโตที่ดี ถึงแม้ว่าภาครัฐจะมีการปรับราคาให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงแล้วก็ตาม เนื่องจากก๊าซแอลพีจีถือเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน ในส่วนของการลงทุนในปี 2558 บริษัทฯวางแผนขยายสถานีบริการก๊าซในประเทศเพิ่มอีก 5 แห่ง จากสิ้นปี 2557 อยู่ที่ราว 40 แห่ง รวมทั้งลงทุนในส่วนของเครื่องจักรสำหรับผลิตถังก๊าซให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการที่จะช่วยสนับสนุนยอดขายบริษัทฯ ให้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย พร้อมตั้งเป้าหมายผลงานในปี 2558 จำหน่ายก๊าซแอลพีจี 2.57 ล้านตัน คาดจะมีรายได้กว่าหกหมื่นล้านบาท และมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการของปี 2557 ที่มีผลขาดทุน 514.30 ล้านบาท “ในปี 2557 ที่ผ่านมาเราประสบปัญหาขาดทุนจากสต็อคก๊าซแอลพีจีพอสมควร หลังจากที่ราคาแอลพีจีในตลาดโลกปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง สอดคล้องกับราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มราคาแอลพีจีปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งถือเป็นผลบวกต่อธุรกิจค่อนข้างมาก ประกอบกับบริษัทฯ ยังขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติมอีก จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลงานในไตรมาส 1/2558 พลิกกลับมามีกำไรได้ ” นางจินตณา กล่าว อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นให้จัดสรรกำไรเพื่อจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด จากงวดดำเนินงานครึ่งปีหลัง ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท จะเป็นเงินปันผลที่จ่ายในปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท คิดเป็นเงินรวม 321.63 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 9 มีนาคม 2558 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 11 มีนาคม 2558 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ สำหรับผลประกอบการปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 61,758.82 ล้านบาท จากงวดปี 2556 อยู่ที่ 65,021.34 ล้านบาท ลดลง 5.02% และขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 514.30 ล้านบาท ลดลง 132.10 % จากปี 2556 มีสาเหตุหลักมาจากราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) ปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนมกราคมของปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีของบริษัทฯในต่างประเทศนอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากการลดลงของกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในธุรกิจดังกล่าว “ผลการดำเนินงานปี 2557 ขาดทุนอยู่ที่ 514.30 ล้านบาท จากราคาก๊าซแอลพีจีที่ปรับลดลงไปต่ำกว่าที่คาด และเชื่อว่า ราคาได้เลยจุดต่ำสุดมาแล้ว บอร์ดบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มเติมอีก 0.20 บาท รวมปันผลทั้งปีเป็น 0.35 บาท เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา” นางจินตณา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ