กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ชี้ตลาดอสังหาฯ ชะอำ-หัวหิน มีอัตราเติบโตดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ อัตราการตอบรับการขาย 73% สะท้อนดีมานด์ด้านที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เป็นที่ต้องการสูง ราคาขายเฉลี่ย 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร คาดการณ์ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ชะอำ-หัวหิน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง จากสถานการณ์การซื้อขายในรอบเดือนที่ผ่านมา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ยังทยอยเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง อาทิ บริษัท แอล พี เอ็น จำกัด (มหาชน) มีผลตอบรับที่ดีจากการเปิดโครงการใหม่ที่ชะอำ โดยสามารถทำยอดขายได้ถึง 70% ขณะที่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สามารถทำลายสถิติสร้างยอดขายได้ 600 ล้านบาท ภายใน 2 วัน จากการขายโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในทำเลชะอำ-หัวหิน ของ บมจ. แสนสิริ ในงาน Joy of Hua Hin ที่สยามพารากอน ซึ่งนับเป็นยอดขายที่ดีเกินความคาดหมาย
“จากตัวเลขยอดขายดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ดีมานด์ของตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลชะอำ-หัวหิน พุ่งขึ้นสูงกว่าดีมานด์ในภูมิภาคอื่นๆ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางกระแสโอเวอร์ซัพพลายของตลาดคอนโดมีเนียมตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ในต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก หรือภาคอีสาน ทำให้เกิดคำถามว่า ตลาดคอนโดมีเนียมในต่างจังหวัดจะเกิดภาวะฟองสบู่หรือไม่ และในฐานะของผู้บริโภคเราควรจะซื้อเพื่อเป็นเจ้าของหรือลงทุนเมื่อไหร่”
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดเมื่อปลายปี 2557 พบว่า อัตราการขายและการดูดซับโครงการคอนโดมีเนียมในกรุงเทพฯอยู่ที่ 71% ในขณะที่มีอัตราการอยู่อาศัยสูงถึง 81% ดังนั้นความต้องการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่เองหรือการเช่ายังคงมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากกรุงเทพฯ แล้วตลาดอสังหาฯ ในทำเลชะอำ-หัวหิน เป็นเพียงไม่กี่หัวเมืองในประเทศที่มีอัตราการขายและการดูดซับโครงการคอนโดมีเนียมที่ดีกว่ากรุงเทพฯ โดยชะอำ-หัวหิน มีอัตราการตอบรับการขายที่ 73% จากโครงการระหว่างขายริมทะเล (ด้านซ้ายของถนนเพชรเกษม) จำนวน 29 โครงการ โดยในพื้นที่มีอุปทานรวมทั้งหมดประมาณ 14,100 ยูนิต และมีอุปสงค์ทั้งหมดประมาณ 10,400 ยูนิต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองนี้ยังมีอยู่ เนื่องจากหัวหินเป็นเมืองที่เงียบสงบสำหรับการพักผ่อนของครอบครัว สามารถเดินทางไป-กลับได้สะดวก คุณภาพหาดทรายของหาดหัวหินมีความขาวและละเอียดของเม็ดทรายสูง น้ำทะเลสะอาด หาดทรายกว้างและทอดยาว ถือเป็นหาดที่สวยที่สุดหาดหนึ่งในฝั่งอ่าวไทย จึงเป็นทำเลที่มีดีมานด์สูงทั้งในด้านการซื้อเพื่ออยู่อาศัยกับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือปิดเทอม หรือด้านการซื้อลงทุนเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งตลาดเช่าคอนโดมิเนียมจะคึกคักมากในช่วงหน้าหนาว โดยภาพรวมการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมในทำเลหัวหิน พบว่า กลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป โดย 3 อันดับประเทศแรก ได้แก่ รัสเซีย 29% สวีเดน 11% และฟินแลนด์ 10% โดยมีระยะเวลาในการเข้าพักอาศัยโดยเฉลี่ย 1-3 เดือน
ปัจจุบันหัวหินนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 5 ของสถานที่ท่องเที่ยวไทย โดยมีการพัฒนาสวนน้ำ 3 แห่ง ตลาดน้ำ 3 แห่ง ฟาร์มแกะ สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เช่น เพลินวาน ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สนามกอล์ฟ และสปอร์ต คอมเพล็กซ์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว และสามารถรองรับกิจกรรมของครอบครัวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีจะเสนอแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพ-หัวหิน ซึ่งถ้าได้รับการพิจารณาเห็นชอบแล้วจะส่งผลบวกกับเมืองท่องเที่ยวนี้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
“คาดว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของชะอำ-หัวหิน จะได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นอีกในช่วงปิดเทอมนี้ ทั้งจากผู้ซื้ออยู่อาศัยเอง และนักลงทุน โดยเฉพาะเดือนเมษายนและพฤษภาคม ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายช่วง ตั้งแต่วันจักรี วันสงกรานต์ วันแรงงานแห่งชาติ และวันฉัตรมงคล จึงเป็นโอกาสทองในการเลือกซื้อหรือเลือกลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ เนื่องจากสามารถมีเวลาเยี่ยมชมโครงการที่สร้างเสร็จและได้เห็นสถานที่จริง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการก่อสร้างจากโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จได้ โดยราคาขายเฉลี่ยของพื้นที่นี้อยู่ 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอีก 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้การกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยง่ายขึ้นและมีภาระการผ่อนชำระลดลง” นายภูมิภักดิ์ กล่าว