กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. จับมือมหาวิทยาลัยโตไกแห่งประเทศญี่ปุ่น โชว์ศักยภาพสถาบันผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับประเทศ ที่มีความร่วมมือกันยาวนานกว่า 50 ปี โดยจัดโครงการ “การเดินเรือฝึกงานทางทะเล ครั้งที่ 46 (46th Overseas Educational Cruise)” ซึ่งเป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยโตไก ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถเข้ามาฝึกงานโดยการล่องเรือไปยังชาติต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมชองชาตินั้นๆ นอกจากนี้ ที่ผ่านมามีการร่วมกันจัดหลักสูตร “ทวินนิ่งโปรแกรม” ซึ่งเป็นหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อมหาวิทยาลัยโตไก รวมถึงยังมีกิจกรรมความร่วมมืออีกจำนวนมาก อาทิ โครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน ค่ายอาสา การศึกษาวิจัยร่วมกัน เป็นต้น การร่วมมือดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับสถาบันไปสู่การเป็นสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีจุดเด่นในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ภายใต้แนวคิด “รากฐานนวัตกรรมสร้างชาติ: The Nation of Innovation” และก้าวสู่สถาบันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ดีที่สุด 1 ใน 10 ของอาเซียน ในปี 2563
ศาสตราจารย์ ดร. โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า สจล. และมหาวิทยาลัยโตไก ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ จึงได้ร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ กับมหาวิทยาลัยโตไก เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาและบูรณาการองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ โดยการนำเอาจุดแข็งของ สจล. และมหาวิทยาลัยโตไก มาผนวกเข้าด้วยกัน โดยที่ผ่านมาได้มีการจัดหลักสูตร “ทวินนิ่งโปรแกรม” ซึ่งเป็นโปรแกรมความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโตไก ได้เรียนรู้ทักษะการอ่าน เขียน สนทนา และไวยากรณ์ ภาษาญี่ปุ่น ให้อยู่ในระดับที่สามารถตอบโต้ได้ เพื่อนำไปใช้ในการสอบคัดเลือกและสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยโตไก โดยจะแบ่งเป็นการศึกษาหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นที่ สจล. เป็นระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน หากสอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับการสนับสนุนให้ไปศึกษาต่อที่สถาบันภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยโตไกอีกไม่น้อยกว่า 1 ภาคเรียน เพื่อเรียนทั้งภาษาญี่ปุ่น และวิชาเฉพาะในการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีต่อไป นอกจากนี้ ยังมีโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน ค่ายอาสา การศึกษาวิจัยร่วมกัน เป็นต้น ซึ่งถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของระบบการศึกษาไทย ที่พร้อมเปิดกว้างให้ผู้เรียนมีอิสระในการเปิดรับองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยโตไกเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น และมีความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี มีสำนักงานมหาวิทยาลัยโตไกแห่งภาคพื้นเอเชียประจำอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปัจจุบันมีคนไทยที่จบจากมหาวิทยาลัยโตไกประมาณ 150 คน ทั้งนี้ การร่วมมือดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับสถาบันสู่การเป็นสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีจุดเด่นในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ภายใต้แนวคิด “รากฐานนวัตกรรมสร้างชาติ: The Nation of Innovation” และก้าวสู่สถาบันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ดีที่สุด 1 ใน 10 ของอาเซียน ในปี 2563 ซึ่งการที่เราจะก้าวไปเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของอาเซียนหรือในระดับโลก เราจำเป็นต้องมีการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยศึกษาจากประเทศที่พัฒนาแล้วว่ามีการพัฒนาด้านการศึกษาไปในทิศทางใด และทาง สจล. มีจุดแข็งอะไรที่จะสามารถดึงออกมาใช้ในการพัฒนาการศึกษาให้ทัดเทียมต่างประเทศ ศาสตราจารย์ ดร. โมไนย กล่าวสรุป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จินดา เจริญพรพาณิชย์ รักษาการแทนรองอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และผู้รับผิดชอบส่วนกิจการนักศึกษา กล่าวว่าสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยโตไก ประเทศญี่ปุ่น มีความร่วมมือกันมานาน โดยในปี 2558 ได้จัด โครงการ “การเดินเรือฝึกงานทางทะเล ครั้งที่ 46 (46th Overseas Educational Cruise)” โครงการแลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมระหว่างนักศึกษาไทย – ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยโตไก ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารเข้ามาฝึกงานโดยการล่องเรือไปยังชาติต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมชองชาตินั้นๆ ตลอดจนเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองสถาบัน ซึ่งนับเป็นปีที่ 46 ที่มหาวิทยาลัยโตไกได้จัดทำหลักสูตรนี้ขึ้นมา แต่ถือเป็นปีที่ 2 ที่มีการนำคณะนักศึกษาญี่ปุ่นล่องเรือ โบเซมารุ (Boseimaru) มาสัมผัสวัฒนธรรมของประเทศไทย โดยเรือดังกล่าวนำอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา จำนวน 154 คนออกเดินทางแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ของเกาะอิชิงากิ จังหวัดโอกินาว่า ประเทศบรูไน ประเทศไต้หวัน และประเทศไทย
สำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปผู้สนใจโครงการ ฯ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2329-8111 หรือคลิกเข้าไปที่ www.pr.kmitl.ac.th