กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คาดปี 2558 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวจากปีก่อนหน้าค่อนข้างชัดเจน โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP น่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.5-3.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีการขยายตัวเพียงร้อยละ 0.7 และถึงแม้ว่าการบริโภคภาคครัวเรือนภายในประเทศยังคงถูกกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือน และยังไม่มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ชัดเจนก็ตาม แต่การเร่งรัดการใช้จ่ายและโครงการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 ของปี คาดว่าจะเห็นการลงทุนที่ชัดเจนขึ้นนั้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นอาจมีการปรับฐานบ้างในบางช่วง ซึ่งนักลงทุนเองยังคงต้องมีความระมัดระวังในการลงทุน เพื่อให้ทันต่อทิศทางของตลาดในแต่ละช่วง แต่อย่างไรก็ตาม ทาง บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จึงยังคงมีมุมมองต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในเชิงบวก จากสภาพคล่องการซื้อขายหลักทรัพย์ในบ้านเรายังค่อนข้างสูง โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีโอกาสขยับตัวขึ้นไปทดสอบที่ 1,700 จุด จึงแนะนำให้เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีผลประกอบการโดดเด่นเมื่อเทียบกับภาพรวมของตลาด และนอกจากนี้ บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังมองว่ากองทุน Trigger fund ยังมีความน่าสนใจ ซึ่งทางบริษัทมีแผนที่จะออกกองประเภท Trigger fund ในเร็วๆ นี้เช่นกัน
นายมนรัฐ กล่าวว่า ทาง บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีการปรับกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนหุ้นให้สอดคล้องกับภาวะและทิศทางการลงทุนในปัจจุบัน และเน้นให้ความสำคัญต่อการวิเคราะห์เชิงรุก (Active Strategy) เพื่อเลือกสรรหุ้นที่มีแนวโน้มผลตอบแทนสูงภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ ซึ่งกองทุนเปิด แอล เอช โกรท (LHGROWTH) ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงในระยะปานกลาง ถึงระยะยาว กองทุนนี้จึงน่าจะตอบโจทย์ของนักลงทุนซึ่งแสวงหาผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผลตอบแทนการลงทุนในกอง LHGROWTH-A (ประเภทชนิดสะสมมูลค่า) ย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี จากตัวเลข ณ 27 กุมภาพันธ์ 2558 นั้น อยู่ที่ประมาณร้อยละ 9.09 ร้อยละ 12.11 และ ร้อยละ 33.95 ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) อยู่ที่ประมาณร้อยละ -0.43 ร้อยละ 1.63 และร้อยละ 19.74 ตามลำดับ ส่วนกอง LHGROWTH-D (ประเภทจ่ายปันผล) สามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ถึงร้อยละ 10.17 ในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้น ต้องยอมรับว่าเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนด้านราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ เนื่องจากราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามภาวะของตลาดหุ้นตลอดเวลา หากนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทย และรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้ แต่ไม่มีความชำนาญด้านการลงทุน อาจเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นที่บริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทจัดการที่ผู้ลงทุนไว้ใจ พร้อมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวน และผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรตระหนักว่า ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน