กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--เนชั่น กรุ๊ป
ตามที่มีกลุ่มบุคคลนำโดย นายดิษเดช หิรัญจิรคุณ และ น.ส. ประทุม เรืองสุด อ้างว่า เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บมจ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป และได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จึงต้องการไปยื่นเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ตรวจสอบการซื้อขายหุ้นเนชั่นเป็นกรณีพิเศษในวันนี้ (18 มี.ค.) จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทในเครือเนชั่นทั้ง 3 บริษัทย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน ไม่ปรากฎชื่อของ นายดิษเดช หิรัญจิรคุณ และ น.ส. ประทุม เรืองสุด แต่อย่างใด
ดังนั้น ทางเครือเนชั่นจึงไม่มั่นใจในเจตนารมณ์ของกลุ่มดังกล่าวว่ามีเป้าหมายใด อีกทั้งในขณะนี้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ SLC หรือ NEWS ต่อเครือเนชั่นในลักษณะต่างๆ เช่น การฟ้องร้องผู้บริหารบริษัท การปล่อยข่าวเพื่อสร้างความแตกแยกของผู้บริหารเนชั่น จึงทำให้บริษัทมีข้อสงสัยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความแตกแยกในผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่เนชั่น เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมาก
“เราไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มดังกล่าวดังกล่าว และไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริง แต่พิจารณาแล้ว อาจเป็นไปได้ที่มีการต้องการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริหาร
เราขอยืนยันว่า บริษัทดำเนินการต่างๆ อยู่ในกรอบของกฎหมายทุกประการ และหากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่แท้จริง เราก็พร้อมปกป้องสิทธิให้” รายงานข่าวจากเนชั่น กรุ๊ป ระบุ
ทั้งนี้ ข้อสังเกตของบริษัทต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อ้างตนว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย NMG มีดังนี้
1.จากการตรวจสอบของ NMG พบว่า รายชื่อที่ระบุเป็นแกนนำในความเคลื่อนไหวไม่ปรากฏเป็นผู้ถือหุ้นของ NMG ณ วันที่ตรวจสอบได้แต่อย่างใด จึงมีมูลเหตุให้สงสัยในเจตนาของการเคลื่อนไหวของบุคคลกลุ่มดังกล่าว
2. พิจารณาจากเหตุการณ์ตลอดสัปดาห์ จะพบว่า มีความเคลื่อนไหวอย่างเป็นกระบวนการของกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเข้าครอบงำกิจการของ NMG จึงอาจอนุมานได้ว่า กลุ่มผู้อ้างตัวเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย NMG อาจเป็นส่วนหนึ่งใน กระบวนการสร้างความแตกแยก เพื่อหวังช่วงชิงเสียงข้างมาก ในการประชุมผู้ถือหุ้น NMG ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน
3. หากกลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยเนชั่นจริง และต้องการให้กำลังใจแก่ นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการ เนชั่น กรุ๊ป เมื่อได้รับแจ้งว่า นายสุทธิชัยเดินทางไปต่างประเทศ ก็น่าจะเลื่อนการเข้าพบ แต่กลุ่มดังกล่าวกลับยืนกรานที่จะเดินทางมาเนชั่น จึงบ่งชี้ว่า เป็นการกระทำที่หวังผลในด้านของการสร้างกระแสในสังคมมากกว่า.