กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--Work Link da Agency
HPT ประกาศเตรียมความพร้อมลงสนาม เอ็ม เอ ไอ หลังยื่นไฟลิ่งให้ ก.ล.ต.แล้ว ระดมทุนขยายธุรกิจ แต่งตั้งมือโปรของวงการ “แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มั่นใจธุรกิจดี พื้นฐานแน่นปึ้ก โชว์จุดขายสินค้ามีคุณภาพ ลูกค้าต่างชาติให้การยอมรับ
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ของบริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ (HPT) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า (Fine China) เพื่อใช้บนโต๊ะอาหารและเป็นเครื่องใช้ในครัว สำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือร้านอาหาร ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนกับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ HPT ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า (Fine China) ที่มีชื่อเสียง ด้วยคุณภาพและความสวยงามของสินค้า ทำให้สินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีโดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ จนกระทั่งกลายเป็นที่รู้จักแพร่หลายสำหรับลูกค้ากลุ่มต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป ทวีปออสเตรเลีย ทวีปเอเชีย และตะวันออกกลาง
ขณะที่ HPT เป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น ทั้งด้านการเติบโตที่ดีในอนาคตและปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เสริมศักยภาพทางธุรกิจ ช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้กลายเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า (Fine China) เพื่อใช้บนโต๊ะอาหารและเป็นเครื่องใช้ในครัว สำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือร้านอาหาร เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งบริษัทได้ทำการแต่งตั้งให้บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อการเตรียมบริษัทเข้าจดทะเบียน ซึ่งหากได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้นดังกล่าวในขั้นตอนต่อไป
โดยวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายช่องทางการตลาดและพัฒนาธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบครันและครอบคลุม โดยเฉพาะในต่างประเทศ อาทิ กลุ่มประเทศอเมริกาเหนือ กลุ่มประเทศในยุโรป สแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
สำหรับธุรกิจของบริษัท บริษัทสามารถผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า (Fine China) ภายใต้ตราสินค้าของผู้สั่งผลิต รวมไปถึงบริษัทยังมีการทำการตลาดภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง อาทิเช่น ฮาร์ทแอทโฮม (Heart @ Home), วัน (One), โฮเทลแอนด์ฮาร์ท (Hotel&Heart) และเพทาย (PETYE) สำหรับการจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราของบริษัทเองบริษัทได้เริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างตราสินค้าเพทาย (PETYE) ให้เป็นที่รู้จักตั้งแต่กลางปี 2556 เป็นต้นมา ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างตราสินค้าดังกล่าวให้เป็นจุดแข็งสำหรับตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าของบริษัทในอนาคต
“กลุ่มลูกค้าของบริษัท บริษัทได้มุ่งเน้นลูกค้าต่างประเทศเป็นสำคัญ และจะเน้นลูกค้าในกลุ่มโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง (Niche market) ซึ่งทางบริษัทได้พิจารณาแล้วว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและมีอัตรากำไรที่ดีกว่ากลุ่มลูกค้าประเภทอื่น" นายนิรันด์ กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานในอนาคตของ HPT ตั้งเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะเน้นการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ กลุ่มประเทศอเมริกาใต้ และ เอเซีย ทั้งนี้บริษัทค่อนข้างมีความได้เปรียบผู้ดำเนินธุรกิจรายอื่น ด้วยความเชี่ยวชาญในงานเครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากการผลิตเซรามิคประเภทอื่นๆในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายในปี 2555 – 2557 เท่ากับ 118.42 ล้านบาท 134.45 ล้านบาท และ 131.04 ล้านบาท ตามลำดับ