กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข เร่งปราบโรคคอพอกใน 6 จังหวัดภาคเหนือเตือนชาวบ้านให้ระวังอย่าบริโภคเกลือเร่ขายที่ไม่ใช่เกลือเสริมไอโอดีน เพราะอาจทำให้สมองเสื่อม ปัญญาทึบ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็กที่กำลังเจริญเติบโต
เช้าวันนี้ ที่จังหวัดหนองคาย นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดสำนักงานสาธารณาสุขอำเภอโซ่พิสัยและเปิดโรงผลิตเกลือไอโอดีน ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอโซ่พิสัย เพื่อผลิตเกลือไอโอดีน แจกจ่ายให้โรงเรียนในโครงการด้วยรักและห่วงใยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ตั้งอยู่ในอำเภอโซ่พิสัยจำนวน 40 แห่ง รวมทั้งเพื่อแก้ปัญหาการขาดสารอาหารไอโอดีนของประชาชนในจังหวัดหนองคาย ให้หมดไป
นายรักเกียรติ ได้กล่าวถึงนโยบายในการแก้ปัญหาการขาดสารไอโอดีนในประเทศไทยว่า โรคขาดสารไอโอดีนยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก จากการสำรวจครั้งล่าสุดองค์การควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนระหว่างประเทศได้ประมาณว่ามีประชากรกลุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคขาดสารไอโอดีนถึง 1,000 ล้านคนในจำนวนนี้ 211 ล้านคนเป็นโรคคอพอก และอีก 5.7 ล้านคนสมองพิการแต่กำเนิดเพราะขาดสารไอโอดีนอย่างรุนแรง ปัญหาดังกล่าวจะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชะลอตัวลงด้วย
สำหรับประเทศไทยในภาพรวมนั้นกล่าวได้ว่าเป็นประเทศที่ดำเนินการควบคุมโรคนี้ได้เป็นผลสำเร็จต่ำกว่าเป้าหมายที่องค์การอนามัยโลกตั้งไว้คือไม่เกิน 10% ตั้งแต่พ.ศ.2539 โดยล่าสุดนี้คนไทยมีอัตราโรคคอพอกร้อยละ 4.3 แต่หากแยกเป็นรายภาค ภาคที่มีอัตราคอพอกสูงสุดได้แก่ ภาคเหนือ เฉลี่ยร้อยละ 6.33 รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลี่ยร้อยละ 5.14 นอกนั้นมีอัตราต่ำกว่าร้อยละ 3 จังหวัดที่ยังมีปัญหาคอพอกสูงเกินร้อยละ 20 มี 6 จังหวัด 14 อำเภอได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงราย จ.พิษณุโลก จ.น่าน และจ.ตาก โดยพื้นที่มีอัตราคอพอกสูงสุดอันดับ 1 ได้แก่กิ่งอำเภอบ่อเกลือ จ.น่าน ร้อยละ 30.13 รองลงมาคือกิ่งอ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ร้อยละ 27
นายรักเกียรติกล่าวต่อไปว่า มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการต่อไปตั้งแต่ พ.ศ.2541 เป็นต้นไป จะเน้นหนักที่ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้ประชาชนบริโภคเกลือเสริมไอโอดีน โดยเร่งการตรวจสอบสถานที่ผลิต แหล่งบรรจุเกลือ โดยกำหนดให้ต้องเสริมไอโดดีนไม่ต่ำกว่า 30 มิลลิกรัมต่อเกลือบริโภค 1 กรัมตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2537
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะแจกสารโปแตสเซียมไอโอเดทให้ฟรี ปัจจุบันมีผู้ผลิตเกลือเสริมไอโอดีนจำนวน 145 แห่ง ผลิตเกลือไอโอดีนทั้งเกลือสินเธาว์และเกลือทะเลปีละประมาณ 2.6 แสนตัน อย่างไรก็ดีปัญหาเรื่องเกลือไม่ได้คุณภาพก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะการผลิตเกลือบริโภครายย่อย ที่ไม่ได้เสริมไอโอดีนแล้วนำมาเร่ขายตามหมู่บ้าน ซึ่งจำหน่ายราคาถูกกว่า ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กอาจทำให้ลูกสมองพิการ สติปัญญาทึบได้ เพราะร่างกายขาดสารไอโอดีน ดังนั้นจึงขอให้ผู้ผลิตรายย่อยควรเปลี่ยนมาขายเกลือเสริมไอโอดีน เพื่อทำให้ผู้บริโภคไม่เป็นโรคขาดสารไอโอดีนสำหรับพื้นที่ที่มีอัตราคอพอกสูงเกินร้อยละ 20 จะใช้ยุทธวิธีโดยให้ยาเม็ดไอโอดีนชนิดแคปซูลขนาด 200 มิลลิกรัม แจกฟรีทุก 6 เดือน เน้นหนักที่ 3 กลุ่มเป้าหมายได้แก่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หญิงวัยเจริญพันธ์ และเด็กนักเรียน--จบ--