กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
เมื่อวันที่ 9-11 มีนาคม 2558 สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เดินทางเข้าร่วมนำเสนองานวิจัย ในโครงการประชุมวิชาการการประชุมใหญ่โครงการส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษา ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “ประทีปถิ่น ประเทืองไทย สร้างคุณค่างานวิจัย ก้าวไกลสู่สากล” ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ณภัทร น้อยน้ำใส รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ธนิดา ผาติเสนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา คณาจารย์ และนักวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เข้าร่วมงาน
สำหรับการเข้าร่วมนำเสนองานวิจัยในครั้งนี้ มีนักวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาได้รับรางวัล ประเภท “ผู้เสนอผลงานวิจัยดีมาก แบบ Poster” โดยได้รับใบประกาศเกียรติคุณ จำนวน 3 ท่าน ดังนี้
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์วาระดี ชาญวิรัตน์ และคณะ นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ กลุ่มการพัฒนาครูของครูด้วยโจทย์วิจัยท้องถิ่น
2. อาจารย์ธีระ ธรรมวงศา และคณะ นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ กลุ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
3. นางสาววรรณษา แสนลำ และคณะ นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ กลุ่มการบูรณาการวิจัยจากฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่นวัตกรรมด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การจัดโครงการในครั้งนี้ จัดโดย สำนักบริหารโครงการส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักวิจัยได้แสดงศักยภาพ ด้านการวิจัยบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ การพัฒนาครูด้วยโจทย์วิจัยท้องถิ่น การวิจัยจากฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่นวัตกรรมด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการวิจัยจากมหาวิทยาลัยของรัฐ 20 แห่ง พร้อมทั้งเป็นการเผยแพร่ผลงานวิจัย ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อสาธารณชนอีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการ ระบบงานวิจัย และสร้างเครือข่ายนักวิจัย ในการที่จะร่วมมือกันทำการวิจัยเชิงบูรณาการต่อไปในอนาคต
ในโอกาสนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ขอแสดงความยินดีกับนักวิจัยทั้ง 3 ท่าน ที่ได้นำความรู้ ประสบการณ์ทางด้านงานวิจัยไปเผยแพร่สู่สาธารณชน พร้อมทั้งได้สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ซึ่งเป็นเสมือนแรงผลักดันให้คณาจารย์ และนักวิจัยภายในมหาวิทยาลัยทุกท่าน ได้เข้าร่วมโครงการต่างๆ ทางด้านงานวิจัย บนเวทีวิชาการระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค จนไปถึงระดับชาติต่อไป