กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
อาเซียนเป็นตลาดต่างประเทศยอดนิยมสูงสุดสำหรับธุรกิจในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
บริษัทในอินเดียและจีน หมายตาตลาดยุโรปเป็นพันธมิตรหลักทางการค้า
ผลสำรวจ CEO และ CFO ของบริษัทขนาดกลางในจีน อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซียโดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
บริษัทขนาดกลางในเอเชียมีความมั่นใจสูงในความสามารถที่จะเติบโต และมองไปยังตลาดต่างประเทศ เคียงคู่ไปการขยายตัวในตลาดภายในประเทศเพื่อสร้างแรงส่งที่เอื้อให้เกิดการเติบโตมากขึ้น จากผลการสำรวจอิสระของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
จากการสำรวจความเห็นของ CEO และ CFO ของบริษัทต่างๆ ที่มีรายได้ระหว่าง 30-100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในตลาดสี่ประเทศของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย บ่งชี้ถึงความรู้สึกมองโลกในเชิงบวก แม้เศรษฐกิจในภูมิภาคจะยังคงชะลอตัว
90% ของ CEO และ CFO จากการสำรวจ มีความมั่นใจในความสามารถที่จะเติบโตธุรกิจของตนภายใน 5 ปีจากนี้ โดยอัตราเฉลี่ยการเติบโตของรายได้ที่คาดหมายอยู่ที่ 39% ความมั่นใจดังกล่าวมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการ และแรงขับเคลื่อนส่วนใหญ่นี้มาจากชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
แม้ความรู้สึกมองโลกในเชิงบวกจะอยู่ในระดับสูงมาก แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ มีความแตกต่างกันพอสมควร ผู้นำในภาคธุรกิจของอินเดียมองโลกในเชิงบวกมากที่สุด โดย 97% แสดงความมั่นใจว่าบริษัทของตนจะเติบโตขึ้นภายใน 5 ปี ขณะที่มาเลเซียมีความเห็นที่คละกันพอสมควร โดย 78% มั่นใจในโอกาสการเติบโตของตน
มองตลาดต่างประเทศ
ราว 8 ใน 10 ของบริษัทจากการสำรวจเป็นธุรกิจระหว่างประเทศ โดยปกติจะทำธุรกิจกับบริษัทอื่นภายในภูมิภาค ได้แก่ อาเซียน จีน และเอเชียใต้ อาเซียนเป็นตลาดต่างประเทศยอดนิยมสูงสุดสำหรับธุรกิจในอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดย 74%ของธุรกิจในอินโดนีเซีย และ 76% ของธุรกิจในมาเลเซียปัจจุบันดำเนินธุรกิจในตลาดประเทศอื่นในอาเซียนอยู่แล้ว ส่วนบริษัทในอินเดียและจีน หมายตาตลาดยุโรปเป็นพันธมิตรทางการค้าหลัก โดย 68% ของบริษัทในอินเดีย และ 54% ของบริษัทในจีน มองยุโรปเป็นตลาดต่างประเทศที่ต้องการทำการค้าด้วย
ผลการสำรวจพบว่า การขยายตัวไปยังตลาดต่างประเทศเป็นเป้าหมายอันดับแรกของบริษัทขนาดกลางในเอเชีย โดย 67%วางแผนเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว และ 63% คาดหวังว่าจะขยายจำนวนตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น
แอนดี เบนบริดจ์ หัวหน้าสายงานลูกค้าพาณิชย์ของกลุ่มธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ให้ความเห็นว่า “บริษัทขนาดกลางเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการสร้างงานในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย และมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในเวทีการค้าระดับโลก บริษัทเหล่านี้จะเป็น Tata และ Alibaba แห่งอนาคต ผลการสำรวจนี้ชี้ให้เห็นว่่า แม้การเติบโตในภูมิภาคจะยังชะลอตัว แต่ก็ไม่ทำให้ความมั่นใจในอนาคตสั่นคลอน ยิ่งกว่านั้น บริษัทที่เต็มด้วยพลวัตเหล่านี้ยังมองหาโอกาสที่จะขยายแรงงานและขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดใหม่ๆ เติบโตรายได้เพิ่มขึ้นภายใน 5 ปี”
การสร้างงาน
ผลการสำรวจชี้ให้เห็นข่าวดีสำหรับทั้งสี่ประเทศ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ในประเทศดังกล่าวมีแผนที่จะขยายแรงงานเพื่อสนองตอบความต้องการที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ราว 3 ใน 4 ของธุรกิจที่มีแผนจะเติบโตขึ้น คาดว่าจะรับพนักงานเพิ่มภายในช่วง 5 ปีนี้ โดยจำนวนพนักงานที่จะรับเพิ่มเฉลี่ย 1 ใน 3
ความหวังในอนาคต
CEO และ CFO จากการสำรวจเผยว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน ในการวางแผนการเติบโต ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า คุณภาพและความเที่ยงตรงสม่ำเสมอมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในเวลาเดียวกันยังต้องรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการไว้ต่อไป
เข้าไปดูอินโฟกราฟิกส์ที่แสดงถึงผลการสำรวจได้ที่
Asian mid-sized companies: confident and growing
Asian mid-sized companies: being international is a key priority
หมายเหตุ
การสำรวจเป็นการสอบถาม CEO และ CFO จำนวน 300 คนของบริษัทขนาดกลางมีรายได้ต่อปีระหว่าง 30-100 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน 4 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซียสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วมมือกับ GlobeScan ดำเนินการสำรวจนี้ GlobeScan เป็นบริษัทที่ปรึกษาอิสระ และให้บริการด้านปรึกษาและข้อมูลเชิงลึกของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแก่บริษัทระดับโลก องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรพัฒนาเอกชนตั้งแต่ปี1987 รวมทั้งในตลาดเกิดใหม่ด้วย