กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
กว่า 8 ปี ที่ศึกษาวิจัยและผลิตเครื่องสำอางจากรวงข้าว จนมีความเชี่ยวชาญ แม้จะมีการนำข้าวมาสกัดเป็นสารเติมแต่งในเครื่องสำอางมากมายหลายสูตรในท้องตลาด แต่สำหรับ ‘บอดี้ สครับ ผสมสารสกัดจากรวงข้าว’ สูตรที่วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคิดค้นนี้ มีความปลอดภัยสูง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ติดตลาดมายาวนานสำหรับใช้ในครัวเรือนและธุรกิจสปา ทั้งยังตอบโจทย์การเพิ่มมูลค่าข้าวไทยให้กับชุมชนท้องถิ่น
ดร.ไฉน น้อยแสง อาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวถึงที่มา ‘บอดี้ สครับ ผสมสารสกัดจากรวงข้าว’ ว่า รวงข้าวอุดมไปด้วย กรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่ลึกหรอ ที่เป็นดีเอ็นเอในร่างกายของเรา เช่น ผิวหนัง เส้นผม และยังช่วยในการฟื้นฟูบำรุงผิวพรรณ จากการศึกษายังพบว่า ในรวงข้าวยังมีสาร แกมมา ออไรซานอล (Gamma-Oryzanol) ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว มีฤทธิ์ในการลดอนุมูลอิสระไม่ให้มีปฏิกิริยาต่อผิว ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น และต้านการอักเสบ และจากการศึกษาพบว่าสารตัวนี้ เป็นสารที่ต้านอนุมูลอิสระได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับวิตามินซีและอี นอกจากนี้ยังพบสาร ออไรซา-เซราไมด์ (Oryza-Ceramide) ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื่น ไม่เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ป้องกันรังสียูวี จากแสงแดด
“ในขั้นตอนการทำผลิตภัณฑ์ จะเริ่มจากการคัดเลือกรวงข้าว โดยวิธีการคัดเลือกสมุนไพรแบบภูมิปัญญาไทยคือต้องเลือกรวงข้าวที่ไม่อ่อนเกินไปหรือแก่เกินไป ข้าวที่เราจะนำมาสกัดเพื่อเติมแต่งในเครื่องสำอางที่เน้นกรดอะมิโน จึงต้องใช้กึ่งอายุของข้าว และต้องเป็นข้าวหอมมะลิไทยเท่านั้น เนื่องจากมีความหอมเฉพาะตัว เมื่อเลือกข้าวแล้วนำเมล็ดมาแยกส่วน โดยเอาเฉพาะส่วนที่เป็นตัวอ่อน (Embryo) และเม็ดแป้งของเนื้อในเมล็ดข้าวที่แยกเอาเปลือกออกแล้ว นำมาคั้นกับน้ำสะอาด หลังจากนั้นนำสารสกัดข้าวมาเตรียมเป็นสารสกัดที่อยู่ในรูปผงแห้ง เพื่อนำมาผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง” ดร.ไฉน กล่าว
บอดี้ สครับ ผสมสารสกัดจากรวงข้าว อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุในการบำรุงผิวพรรณ เนื้อ สครับมีสีขาวละเอียด ไม่บาดหรือขูดขีดผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทั้งยังมีกลิ่นหอม ช่วยในการบำบัดและผ่อนคลายได้ดี วิธีใช้เพียงแค่นวดครีมสครับบนผิวที่เปียก อย่างเบา ๆ เน้นบริเวณจุดสัมผัสที่แห้งกร้าน ผลิตภัณฑ์ครับนี้มีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำมันมันรำข้าว , ผงข้าวบดละเอียด, กลีเซอรีน , สารเพิ่มความหนืด (Xanthan gum) , ซิทิลแอลกอฮอล์ (Cetyl Alcohol) , สารชำระล้าง (Dehyton KT) และส่วนผสมอื่น ๆ
ดร.ไฉน ย้ำว่า การเติมสารสกัดจากข้าวหอมมะลินั้นจะใส่ในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป เพราะจะทำให้ต้นทุนสูงแต่คุณสมบัติคงที่ จึงใช้แค่ 4 - 5 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่จำเป็นต้องใส่สารกันเสีย ซึ่งจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน แต่หากทำไว้เพื่อการขายจำเป็นต้องใส่ เพราะไม่สามารถควบคุมการใช้ของผู้บริโภคได้ว่ามีการเก็บที่ถูกต้องหรือไม่ และต้องใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ควรเลือกใช้สารกันเสียที่ไม่ได้ทำให้คุณประโยชน์ของส่วนผสมต่าง ๆ ของเครื่องสำอางลดน้อยลง
ดร.ไฉน ยังให้ความใส่ใจและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม สามารถขายและสร้างความเป็นแบรนด์ให้เกิดการสื่อสารและรับรู้ โดยเลือกเน้นสีเขียว สีเหลืองเป็นหลัก และกล่าวว่า “บรรจุภัณฑ์ต้องสวยงามร่วมสมัย ช่วยให้สามารถขายได้และสื่อความหมายได้ เลือกใช้ภาพสีเขียวและสีเหลืองทอง เพื่อสะท้อนถึงความเป็นรวงข้าวออกมาอย่างชัดเจน”
และมากไปกว่านั้น บอดี้ สครับ นี้ คิดค้น วิจัยทดลอง และวิเคราะห์ขึ้นจากกระบวนการเรียนการสอนของอาจารย์และนักศึกษา วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย ที่ได้ร่วมกันทดสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความทุ่มเท เพื่อพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชุมชนท้องถิ่น เป็นผลพลอยได้ที่คุ้มค่าจากการลงมือปฏิบัติจริง บูรณาการความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วยการวิจัย และภายในปีนี้จะจัดให้บริการวิชาการ ภายใต้ศูนย์ผลิตและบริการวิชาการ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี
ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ หรือขอรับองค์ความรู้เพิ่มเติม โทร. 02 592 1904 หรือติดต่อผ่าน บัวสปา ศูนย์รังสิต โทร. 02 592 1933 ศูนย์คลองหก ธัญบุรี โทร. 02 549 4029