กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต
เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต โชว์ผลงานปี 57 เบี้ยประกันภัยรับรวม 14,115.1 ล้านบาท ประกาศพร้อมลุยกิจกรรมการตลาดดิจิทัลเต็มรูปแบบ ผ่านเว็บไซต์ มือถือ และโซเชียลมีเดีย หนุนจุดแข็งงานบริการ และขยายโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2557 บริษัทมีผลประกอบการเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 14,115.1 ล้านบาท เติบโต 9% จากปี 2556 มีกำไรจากผลการดำเนินงานตามกฎหมายก่อนหักภาษี (Statutory Profits before TAX) เพิ่มขึ้น 61% เทียบกับปีก่อนหน้า
ในส่วนของเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 3,309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าอัตราเติบโตโดยรวมของตลาดที่อยู่ 15%. โดยสัดส่วนหลักมาจากการขายผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ 80% ตามมาด้วย การขายผ่านช่องทางตัวแทน15.72% และช่องทางการขายแบบทางเลือกอื่น 4.20% ขณะที่ อัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (RBC Ratio) ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 322% มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น 31% เป็น 58,988 ล้านบาท
ณ สิ้นปี 2557 เอฟดับบลิวดีประกันชีวิตมีลูกค้ามากกว่า 487,000 ราย ซึ่งผลการดำเนินงานที่โดดเด่นนี้ มาจากการทำงานอย่างทุ่มเททั้งของธนาคารทีเอ็มบี พันธมิตรทางธุรกิจทุกราย พนักงานเอฟดับบลิวดีมากกว่า 450 คน และตัวแทนมากกว่า 3,200 รายทั่วประเทศ
สำหรับปี 2558 บริษัทได้วางวิสัยทัศน์ ในการยึดมั่นต่อการเป็น “บริษัทที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” มีการลงทุนต่อเนื่องทั้งด้านบริการ ระบบ และกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มความประทับใจและความร่วมมีส่วนร่วมกับลูกค้า
“เราตั้งวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทย ด้วยการให้ความสำคัญกับแนวทางด้าน กลยุทธ์ 3 เสาหลัก ซึ่งจะเชื่อมโยงเข้ากันด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสนับสนุนเป้าหมายหลักในการเติบโตของเรา” นายไมค์กล่าว
เสาหลักที่ 1 การขายที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างมีคุณค่า ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทประกันชีวิตผ่านหลากหลายช่องทางอย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ ส่งเสริมให้ตัวแทนขายใช้แท็บเล็ตในการยื่นใบคำขออนุมัติกรมธรรม์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ นำนวัตกรรมระบบ MPOS สนับสนุนตัวแทนประกันพกพาเครื่องรับชำระเงินของ ธนชาติ เพย์ แอนด์โก ไปอำนวยความสะดวกลูกค้าในการชำระเบี้ยประกันได้ทุกที่ ทุกเวลา มีลงทุนด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล
นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสขยายธุรกิจด้านการจัดหาผลิตภัณฑ์เพื่อคุ้มครอง (insurance protection) สำหรับพนักงานองค์กร ตามแนวโน้มเติบโตของลูกค้ากลุ่มองค์กร ที่มีจำนวนมากขึ้นและขนาดใหญ่ขึ้น
ล่าสุด เอฟดับบลิวดีประกันชีวิตยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการพัฒนาหลักสูตรสำหรับผู้บริหารตัวแทน (Agency Leader) นับเป็นครั้งแรกที่เกิดความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัทประกันชีวิต
เสาหลักที่ 2 แบรนด์ที่แข็งแกร่งและประสิทธิผลในการดำเนินงาน บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างแบรนด์ และความแตกต่างของแบรนด์จากคู่แข่ง ผ่านทั้งช่องทางการตลาดแบบเดิมและดิจิทัล ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่ง มีนวัตกรรม และเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับสูง พร้อมตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
เสาหลักที่ 3 การบริหารจัดการบุคลากรที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่นในการเป็นองค์กรในฝันของพนักงานตามเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า โดยส่งเสริมพนักงานให้มีความก้าวหน้าในอาชีพ พัฒนาการมีส่วนร่วมของพนักงาน สร้างวัฒนธรรมที่เข้มแข็งต่อการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ
นายไมค์ กล่าวในตอนท้ายว่า “แม้ว่าเป้าหมายปี 2558 จะค่อนข้างยาก และท้าทายยิ่งขึ้น แต่ก็มั่นใจว่า เอฟดับบลิวดี มีจุดแข็งที่โดดเด่น และโอกาสขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน”