กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--กรมทรัพย์สินทางปัญญา
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกประกาศและระเบียบกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง การแจ้งข้อมูลและขอรับบริการข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2545 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ดูแล รักษาและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยแจ้งข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขึ้นทะเบียนข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลไว้เป็นระบบ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการนำหลักฐานการแจ้งข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไปใช้ประโยชน์สูงสุดในเชิงพาณิชย์และให้ก่อเกิดเป็นทุนขึ้นนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกับการดำเนินงานของหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกประกาศยกเลิกการแจ้งข้อมูลและการขอรับบริการข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยดังกล่าว โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะมีบทบาทส่งเสริมให้มีการนำงานศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยที่ได้รับการพัฒนาและต่อยอดจนเข้าข่ายเป็นงานทรัพย์สินทางปัญญาประเภทใดประเภทหนึ่งมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และนำเข้าสู่ระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เหมาะสมต่อไป
เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเฉพาะด้านซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหลายหน่วยงาน ได้แก่ ด้านศิลปวัฒนธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นสาขาการแพทย์แผนไทยภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ด้านพันธุ์พืช ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 ลงมติรับทราบและเห็นชอบให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้เป็นรูปธรรมภายใต้ระบบที่ แต่ละหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรงทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่เกิดปัญหาการทับซ้อนหรือขัดแย้งกันซึ่งจะเป็นปัญหาในการอ้างสิทธิในอนาคต
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ดี กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะส่งเสริมการคุ้มครองศิลปวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจนเข้าข่ายเป็นงานทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ อาทิ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ความลับทางการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เครื่องหมายการค้า เป็นต้น โดยในปีงบประมาณ 2558 นี้ กรมได้ดำเนินการจัดทำโครงการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาสู่นวัตกรรม เพื่อพัฒนาสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การเป็นสินค้านวัตกรรม โดยใช้ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาประเภทสิทธิบัตรเป็นเครื่องมือในการพัฒนาต่อยอด และนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการต่อยอดพัฒนาดังกล่าวเข้าสู่ระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เหมาะสมต่อไป