กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--สถาบันอาหาร
เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำคณะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไทยรวม 20ราย รุกตลาดอาหารแปรรูปในเมียนมาร์ ภายใต้โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก (Thailand Food Quality to The World) โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs อาทิ กลุ่มอาชีพสหกรณ์ผัดหมี่เมืองปัก ผู้ผลิตหมี่โคราชตราห้าดาว, บริษัท ขนมบ้านโกไข่ จำกัด ผู้ผลิตขนมบ้านโกไข่, บริษัท ขนมเปี๊ยะ แอนด์ พาย ผู้ผลิตขนมเปี๊ยแม่เอย, หจก.พรมมัฆวาน อินเตอร์เทรด ผู้ผลิตเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูปฮ่องเต้, และหจก.บ้านต้นไม้ ผู้ผลิตลำไยอบแห้ง เป็นต้น โดยไปร่วมออกบูธในงาน Myanmar International Franchise & SME Expo 2015 ณ Tatmadaw Hall, Yangon Myanmar ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมียนมาร์ นับเป็นงานจัดแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ระดับนานาชาติ งานแสดงสินค้า และบริการจาก SME ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเบื้องต้นสามารถสร้างการรับรู้ในตราสินค้า และเกิดการเจรจาซื้อขายจากผู้จัดจำหน่ายสินค้าอาหารในเมียนมาร์ได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในเมียนมาร์ อุตสาหกรรมหลักที่สำคัญ คือการผลิตน้ำตาล เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กาแฟสำเร็จรูป อาหารแปรรูปที่ผลิตในประเทศส่วนใหญ่ใช้บริโภคในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและนิยมสำหรับตลาดในประเทศ คือ กลุ่มลูกกวาด ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้เมียนมาร์ยังส่งออกข้าวและอาหารทะเลแช่แข็ง
ในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในเมียนมาร์เพิ่มขึ้น 33 - 48% ผลจากการปรับนโยบายด้านการลงทุนและการเก็บภาษี จากการที่เมียนมาร์มีอัตราภาษีนำเข้าที่สูง โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่อยู่ในช่วงเริ่มต้น สัดส่วนยอดขายผ่านค้าปลีกแบบดั้งเดิมยังสูงถึงร้อยละ 90 ทำให้ตลาดยังต้องการสินค้านำเข้าอีกมากตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอีก10 ปีข้างหน้า จะเห็นได้จากยอดจำหน่ายอาหารแปรรูปในช่วง 5 ปี(2552-2556) ที่มีอัตราขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 12 ต่อปี โดยกลุ่มอาหารกระป๋อง และอาหารสำหรับทารกเป็นสินค้าที่มีอัตราเติบโตสูงมาก Euromonitor ประเมินว่าอัตราขยายตัวเฉลี่ยของมูลค่าตลาดอาหารแปรรูปในช่วงปี 2557- 2561จะมีอัตราถึงร้อยละ 15 ต่อปี ขณะที่สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วงเดียวกันนี้ถึงร้อยละ 23 ต่อปี
ในปี 2557 เมียนมาร์เป็นตลาดส่งออกอาหารอันดับ 4 ของไทยเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน รองจาก อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม โดยไทยส่งออกอาหารและเครื่องดื่มไปเมียนมาร์มีมูลค่า 32,403.97 ล้านบาท อัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.56 สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มปรุงแต่งกลิ่นและรส, เบียร์,ครีมเทียม, กาแฟสำเร็จรูป, อาหารสำหรับทารก, น้ำตาลทราย, น้ำมันปาล์ม และอาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น