กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--มายแบรนด์ เอเจนซี่
“ในวงการบันเทิงจะมีเด็กที่เป็นลูกครึ่งเยอะ ซึ่งมีกรรมพันธุ์สูงอยู่แล้ว แต่เราเป็นเด็กไทยแท้ จึงต้องหาความรู้ว่าอะไรที่จะทำให้ลูกเราสูงได้ โอกาสตรงนี้ในระหว่างที่ลูกเรากำลังทำความสูงได้ก็จะพยายามศึกษาเรื่องการสร้างความสูง ” นาถพ์รุจี ศักดิ์ศิริ แม่น้องพูกัน ด.ญ.นัดตะวัน ศักดิ์ศิริ ดาราเด็กผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง บุปผาราตรี และหลากผลงาน บอกเล่าถึงโอกาสของอาชีพนักแสดงเด็ก
แม้กรรมพันธุ์ที่บอกว่าความเป็นไทยแท้จะมีรูปร่างเตี้ย เมื่อเทียบกับผู้คนในชาติตะวันตก แต่ในยุคสมัยที่ความรู้ทางโภชนาการมีมากขึ้น อาหารและการออกกำลังกาย เป็นปัจจัยที่ทำให้สูงได้
แม่น้องพูกัน เล่าว่า ขณะนี้น้องพูกันอายุ 13 ปีความสูงอยู่ที่ระดับ 157 ซม.สูงกว่าแม่คือ 153 ซม.โดยพูกันตั้งเป้าว่าอยากสูง 165 ซม.เพราะน้องมองอาชีพไว้หลายอาชีพ ตอนโตไม่ได้มุ่งหวังที่จะเป็นดาราตลอดไป เขาชอบด้านภาษามีความฝันอยากจะเป็นแอร์โฮสเตส ซึ่งอาชีพนี้ต้องใช้มีความสูงด้วย
ในฐานะแม่ดาราเด็ก เมื่อลูกมาเดินเส้นทางนี้แล้วนอกจากการพัฒนาฝีมือด้านการแสดงแล้ว การดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นเป็นเรื่องสำคัญ
“เรื่องการออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างน้อยจะให้น้องออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 ครั้ง น้องเล่นไอซ์สเกตจะได้วิ่งเยอะมาก ได้สรีระทำให้เอวบางลง ช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อเรื่องความสูงของพูกัน แต่มีปัญหาว่าเด็กผู้หญิงเมื่อมีรอบเดือนความสูงจะช้าลง แต่ก็พยายามให้นอนเร็ว หลับสนิทในช่วงที่ไม่มีงาน เพื่อให้ร่างกายได้โกรทฮอร์โมนเต็มที่ ส่วนดื่มนมเขากินปกติแต่ มีบางช่วงที่ต้องเสริมแคลเซียมด้วยเพราะตอนเด็กน้องแพ้นมวัว”
แม่ดาราเด็กคนเดิม บอกอีกว่า ในวงการบันเทิงบ้านเรา ดาราเด็กจะไม่มีผลงานในช่วงระหว่างวัยรุ่น ช่วงนี้งานจะหยุดไปสักระยะ เพราะร่างกายเริ่มเปลี่ยน และส่วนใหญ่จะหายไปจากวงการเมื่อโตขึ้น ต่างกับดาราลูกครึ่งบางคนได้กลับเข้ามาในวงการเพราะสูง แต่สำหรับพูกันช่วงนี้ก็ลุ้นเหมือนกันว่าจะกลับมาไหม แต่เราก็ไม่ค่อยกังวลมากเพราะพูกันทำงานมาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าโตขึ้นแล้วเขาสูง โอกาสที่จะได้เป็นดารา นางแบบก็มีสิทธิ์ โดยฉพาะเพราะบทดี ๆ บทนางเอกต้องการความสูง ซึ่งพระเอกดารารุ่นใหม่สูงกันหมดแล้ว
ความสูงนำมาซึ่งสิ่งดีๆ มากมาย ทั้งบุคลิกภาพที่ดี สามารถทำงานในหน้าที่การงานที่ดี เช่น แอร์โฮสเตส สจ๊วต หรือการมีภาวะผู้นำ ความสูงจะช่วยส่งให้ดูน่าเกรงขาม ได้รับความน่าเชื่อถือไปด้วย
ส่วนอาชีพพริตตี้ ที่นอกจากอาศัย หน้าตา บุคลิกภาพที่ดีแล้ว ความสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณได้ยืนขนาบคู่กับรถยนต์มีระดับ “เบียร์” หรือ ปิยะมาศ อังคะทายาท อดีตพริตตี้ผู้มากประสบการณ์กว่า 10 ปี เล่าว่า ตอนนี้วางมือจากอาชีพนี้ไปแล้วเพราะอายุเริ่มเข้าสู่วัยเลข 3 แล้ว แต่ยังรับหน้าที่เป็นพิธีกรตามงานอีเวนต์แทน ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน เธอพบว่าข้อขัดขวางการทำงานสำคัญของเธอคือเรื่องของความสูง
“เบียร์สูง 160 ซม.ใส่ส้นสูงสุดๆแล้วได้แค่ 162 แต่งานยืนคู่กับรถดีๆ แพงๆ เขาต้องการคนสูง 165 ขึ้นไป พอเขานัดเราไปสัมภาษณ์บอกให้ถอดส้นสูง เรารู้แล้วว่าเราไม่ได้งานนี้แน่ๆ ทำให้เราพลาดไปหลายงาน เพราะรถยุโรปได้ค่าตัววันหนึ่งสมัยนั้น 3,500 ขึ้นไป และมีหลายคนเห็นว่าเราขยัน พรีเซนต์ดีก็อยากได้เรานะ ติดต่อเข้ามา แต่เมื่อถามว่าเราสูงแค่นี้เขาก็ต้องบอกปฏิเสธเราทั้งๆที่ชอบผลงานเรา”
เบียร์ บอกว่า ถ้าย้อนไปได้ในช่วงวัยรุ่นจะดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ เพราะตอนเด็กๆไม่ค่อยออกกำลังกายทั้งๆที่ครอบครัวไม่ได้มีกรรมพันธุ์เรื่องเตี้ย มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดน้องชายสูง 178 ซม.เพราะเขาดื่มนม ออกกำลังกายตอนช่วงวัยรุ่น ตอนนี้เขามีอาชีพเป็นสจ๊วตก็ถือว่ามีหน้าที่การงานที่มั่นคง
ความรู้และความเชื่อทางวิชาการที่ส่งต่อกันมาว่า ความสูงจะหยุดเมื่อร่างกายพ้นวัย 20 ปีไปแล้ว ดังนั้นคนที่เข้าสู่วัยนี้ไปแล้วอาจต้องถอดใจว่าแม้จะกินเนื้อ นม ไข่ ขนาดไหนตัวก็ไม่สูงขึ้น สำหรับผู้หญิงคงต้องใช้รองเท้าส้นสูงเป็นตัวช่วยตลอดไป
ทางด้าน ดร.บัณลักข ถิรมงคล หรือโค้ชหมอหญิง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแพทย์ทางเลือกแขนงไคโรแพคติก และผู้ก่อตั้งสถาบันพัฒนาความสูงดีสปายน์ กล่าวว่าได้ศึกษาศาสตร์ของการเพิ่มความสูงมามากว่า 5 ปีในต่างประเทศทั้งเข้าร่วมอบรมสัมมา และทำงานวิจัยเรื่องของความสูง ไปเรียนรู้เรื่องการฝึกกีฬายิมนาสติก การใช้อุปกรณ์เพิ่มความสูงแทมมารีนกับเด็กนักเรียนในเยอรมัน เรียนรู้ด้านไคโรแพรคติก เรื่องการจัดกระดูกเพิ่มความสูง และทำงานวิจัยเชิงลึกในเผ่าอินเดียนแดง ทำให้ได้ทราบเคล็ดของการเจริญเติบโตของร่างกาย ที่นอกจากอาหารแล้ว ต้องทำให้ทุกช่วงชีวิตต้องเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
วิธีการเพิ่มความสูงแบบเฉพาะตัวของสถาบัน ได้ใช้ศาสตร์ไคโรแพรคติก หรือการจัดกระดูกเข้ามาช่วย ดังนั้นการเพิ่มความสูงจึงสามารถทำได้จนถึงอายุ 40 ปี
โค้ชหมอหญิง บอกว่า ช่วงเวลาที่ดีสุดของการเพิ่มความสูงคือในช่วงวัย 8 ขวบเพื่อเตรียมพร้อมร่างกายให้รับกับช่วงยืดตัวของในวัยรุ่น ที่เรียกว่าช่วงถีบตัว ในผู้หญิงจะอยู่ในช่วงอายุ 12-15 ปี ขณะที่ผู้ชายอายุ 15-16 ปี ซึ่งการนำศาสตร์ไคโรแพรคติกมาช่วย จะช่วยเปิดให้ร่างกายได้มีโอกาสได้รับโกรทฮอร์โมนในเวลากลางวันเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นเมื่อจัดกระดูกแล้วจะช่วยเร่งการถีบตัวได้ ร่วมกับการปรับพฤติกรรม โดยเด็กจะต้องเคร่งครัดกับการรับประทานอาหารเช้า เน้นโปรตีนเป็นหลัก นอนเร็วเพื่อให้ร่างกายได้รับโกรทฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต
นอกจากนี้ใช้อุปกรณ์ช่วยเช่นการกระโดดแทมโพลีน และเน้นให้ออกกำลังกายที่ต้านแรงดึงดูดโลก ซึ่งเทคนิคการออกกำลังกายรูปแบบนี้จะช่วยกระตุ้นให้โกรทฮอร์โมนไปหลั่งที่ขาและแขน
ดร.บัณลักข ผลงานของการสร้างความสูงภายใต้สถาบันฯ มากว่า 17 ปี มีผู้มีอายุ 29 ปีมาทำความสูงใช้เวลา 2 ปีสูงขึ้น 7 ซม.และอายุ 20 ปีมาทำความสูง 3 เดือนสูง 1 ซม.เป็นต้น แต่ในช่วงวัยเด็กเมื่อมาทำโปรแกรมเพิ่มความสูงจะได้เปรียบเมื่ออยู่ในช่วงวัยร่างกายยืดตัว ซึ่งจากสถิตเด็กผู้ชายจะเพิ่มความสูงได้ดีกว่าผู้หญิง เพราะโครงสร้างร่างกายมีพื้นที่มวลกระดูกมากกว่า
ผู้สนใจสร้างความสูงอย่างเจาะลึก สถาบันพัฒนาความสูงดีสปายน์ จัดสัมมนา หัวข้อ สูงสร้างได้ “เพิ่มความสูง เพิ่มความสำเร็จ”โดย ดร.บัณลักข ถิรมงคล (โค้ช หมอหญิง ) ผู้อำนวยการสถาบันฯ จะมาเผยวิธีเอา ชนะธรรมชาติและพันธุกรรมความสูง สอนเคล็ดลับเพิ่มความสูงได้ตั้งแต่เด็กถึงอายุ 40 โดยงานสัมมนาดังกล่าว จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2558 เวลา 12.00-17.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ (สุขุมวิท 22) สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุระหว่าง 6-25 ปี ที่สนใจต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ “เพิ่มความสูง เพิ่มความสำเร็จให้ชีวิต” สามารถลงทะเบียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊กเข้าไปดูได้ที่ www.facebook.com/pages/Tall-Can-Do หรือติดต่อได้ที่ 097-359-3179 รับจำนวนจำกัด!!!!