กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--อีซี่ บาย
“เทียนเล่มหนึ่ง สามารถจุดไฟให้อีกเล่มหนึ่งได้โดยที่แสงสว่างของมันไม่ลดลงเลย … ดีขนาดนี้ ทำเถอะ ทำเลย !!” คำพูดเชิญชวน หนึ่งในวลีเด็ดในโซน “พลังคำ” และ “พลังเสียง” ที่คนปกติส่งผ่านไปถึงคนปกติด้วยกัน ให้มอบโอกาส ความหวังดี หรือจะรวมเรียกว่า “ความห่วงใย” ให้กับผู้พิการและทุพพลภาพในสังคม!! กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจต่อเนื่อง และเดินหน้าต่อเป็นปีที่ 3 โดยล่าสุด มร.ฮิโตชิ โยโกฮามา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) ได้จัดพิธีมอบรายได้จากการจัดกิจกรรม “อีซี่บาย ส่งต่อความห่วงใย” รวมสองปีจำนวน 21ล้านบาท ให้กับตัวแทนสภากาชาดไทย พร้อมถือโอกาสนี้เดินเครื่องต่อด้วยการเปิดตัวกิจกรรม “อีซี่บาย ส่งต่อ...ความห่วงใย ปี3” เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้คนในสังคมรู้จักการให้ ส่งต่อความห่วงใย แด่ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการและทุพพลภาพ รวมถึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหารายได้สมทบทุนสภากาชาดไทย
ถามถึงจุดเริ่มต้น บิ๊กบอสจากแดนอาทิตย์อุทัยเผยว่า “ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม มีความตระหนักถึงการทำให้สังคมน่าอยู่ และต้องเริ่มจากการให้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ควรได้รับเป็นกลุ่มแรกคือผู้ด้อยโอกาส นำมาซึ่งการสร้างสรรค์กิจกรรมมากมาย ซึ่งภายหลังได้ทำ ทุกฝ่ายก็รู้สึกดีไปร่วมกันด้วย ที่น่าภูมิใจคือไม่น่าเชื่อว่าจากกิจกรรมเล็กๆ จะขยายผลยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จในแง่ของการบริจาคมากขนาดนี้”
ด้าน สายฝน อังคะนาวิน หัวหน้าฝ่ายพัฒนากิจกรรม สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เผยว่า “การมีส่วนร่วมของหน่วยงานเอกชน เป็นน้ำมันในการขับเคลื่อนวงล้อการกุศล อีกอย่างที่มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อคือการปลุกกระแสการให้ และการมอบโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคม และน่าซาบซึ้งใจอย่างมากๆ ที่สังคมไทย เป็นสังคมแห่งการให้นานแล้ว ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี มีผลน้อยหรือเรียกว่าไม่มีผล เพราะการบริจาค ให้โอกาส การทำทาน หรือการเสียสละนั้น อยู่ในจิตสำนึกของทุกคน ในฐานะที่อยู่ตรงนี้ ซึ่งประเทศเรามีผู้พิการ ทุพพลภาพ ด้อยโอกาสค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากขอบคุณหน่วยงานเอกชนที่เห็นถึงความสำคัญและจำเป็น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและช่วยเป็นแรงผลักดันส่งต่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมนี้ที่ชื่นชมและชื่นชอบมาตลอด คือนอกจากทุนทรัพย์ในการบริจาคแล้ว ด้านความรู้สึก ความห่วงใย ห่วงหาอาทร ที่แฝงมาในรูปแบบกิจกรรมทุกปี ช่วยเติมเต็มความรู้สึกของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสได้มาก” สรุปว่าชีวิตต้องขับเคลื่อนทั้ง “แรงกาย” และ “แรงใจ” ดีที่สุดคือส่งมอบไปพร้อมๆ กัน
สำหรับรูปแบบกิจกรรม “อีซี่บาย ส่งต่อ...ความห่วงใย ปี3” ปีนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับทางสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ ในวันที่ 2 เมษายน 2558 และเพื่อจัดหารายได้สมทบทุนฯโดยเสด็จพระราชกุศลในอันที่จะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บพิการ ทุพพลภาพในโครงการต่างๆของสภากาชาดไทย และเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ ผู้บาดเจ็บ พิการ ทุพพลภาพในโครงการต่างๆ ให้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่อยากจะชวนคนไทยมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งพลังในการให้แก่ผู้ด้อยโอกาส เพื่อส่งต่อความรัก ความห่วงใยจากคนในสังคมแก่ผู้พิการ ทุพพลภาพในทุกภูมิภาคของประเทศที่กำลังรอรับความช่วยเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง โดยรูปแบบของกิจกรรมปีนี้นั้นจะใช้ตราสัญลักษณ์รถเข็น ร่วมกับผลิตภัณฑ์บัตรกดเงินสด ยูเมะ พลัส เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ และเชิญชวนให้ลูกค้าของบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสและบุคคลทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการบริจาคในครั้งนี้ ซึ่งอีซี่บายจะมอบรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนเงินบริจาคและร่วมส่งมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการทุพพลภาพในโครงการต่างๆ ผ่านทางสภากาชาดไทยต่อไป
มร.โยโกฮามา ยังกล่าวต่ออีกว่า “ลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ บัตรกดเงินสดยูเมะ พลัสสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมฯนี้ได้ โดยเราสร้างการมีส่วนร่วมให้แก่ลูกค้าของเรา ประชาชนทั่วไป รวมถึงลูกค้าใหม่ให้มีส่วนร่วมไปกับเรา ซึ่งในกิจกรรมนี้เรามีMechanic ในการร่วมทำบุญไปกับเราง่ายๆเพียง 4 ช่องทาง 1. โดยลูกค้าเก่าที่ถือบัตรกดเงินสดยูเมะ พลัสเดิมอยู่ก่อนแล้ว สามารถขอออกบัตรใหม่โดยเลือกรับบัตร ยูเมะพลัสส่งต่อ...ความห่วงใย (Umay+…Pay it Forward card)แทนบัตรเดิมเท่านั้น ลูกค้าก็จะได้ร่วมบริจาคเงินไปกับเรา โดยเราจะนำเงินค่าธรรมเนียมของลูกค้าที่ขอออกบัตรใหม่ จำนวน 100 บาทหรือมากกว่านั้นตามกำลังศรัทธาของท่าน บริจาคใส่ลงในกล่องรับบริจาคของสภากาชาดไทยด้วยตนเอง 2. ลูกค้าปัจจุบันเพียงชำระเงินตรงกำหนดชำระเงินติดต่อกัน 6 เดือน เราจะร่วมสมทบทุนบริจาค 1 บาทต่อสัญญา 3. ลูกค้าใหม่ที่สมัครและเลือกบัตรยูเมะพลัสส่งต่อ...ความห่วงใย(Umay+…Pay it Forward card) อีซี่บายจะร่วมสมทบทุนบริจาค 1 บาท ต่อทุกการออกบัตรใหม่ 4. ลูกค้าสามารถร่วมเป็นหนึ่งพลังในการให้ไปกับเราภายในงานฯเพียงซื้อกระเป๋า “Pay it Forward” Bag ในงานมูลค่า 100 บาท โดยรับบริจาคผ่านทางกล่องรับบริจาคของสภากาชาดไทยครับ”
ด้านสีสันของงานเปิดตัวกิจกรรมในปี 2558นี้ ทางอีซี่บายได้จัดกิจกรรมไว้มากมายให้แก่ผู้เข้าร่วมงานเพื่อร่วมส่งพลังใจให้ผู้พิการ ผ่านกิจกรรมพลังคำ, พลังเสียง, พลังสัมผัส พร้อมแฟชั่นโชว์ชุดพิเศษและร่วมพูดคุยกับซีเล็บคนดังอย่าง ปู-ไปรยา สวนดอกไม้อ๋อม, -อรรคพันธ์ นะมาตร์, อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม และเมญ่า นนธวรรณ มิสไทยแลนด์เวิร์ล 2014 ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก ฮั่น-อิศริยะ เดอะสตาร์8 นอกจากนี้ยังได้ช็อปอิ่มบุญร่วมอุดหนุนสินค้า กระเป๋าผ้า และดอกม่วงเทพรัตน์ซึ่งสามารถหาซื้อได้ในงานเท่านั้น
คำถามสุดท้ายที่ไม่ปล่อยให้ผ่านพ้น นางงามที่ตอบคำถามกินใจอย่าง “เมญ่า” ที่ปลาบปลื้มมากๆ กับงานครั้งนี้ เผยว่า “ครั้งหนึ่งผู้พิการก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าพวกเขาก็มีความสามารถไม่แพ้กัน ถ้าจำกันได้ รายการดังช่องสามอย่างไทยแลนด์ก๊อตทาเลนต์ปีที่แล้ว ที่น้องๆ ทีมวีลแชร์แดนซ์ เป็นผู้ชนะ ซึ่งสำหรับคนทั่วไป เค้าได้ใจ สำหรับผู้พิการก็เช่นกัน เขาได้พลัง ให้ลุกขึ้นสู้ ไม่ยอมแพ้ ซึ่งกระแสตรงนี้จุดติดแล้ว เพียงแต่ที่มาวันนี้ ที่มีวันนี้ได้ เพราะเราอยากให้ทุกคนได้ทำต่อ ได้ส่งต่อความห่วงใย ได้ให้โอกาส ได้ให้กำลังใจ กับพวกเขาในรูปแบบต่างๆ แน่นอนว่าพลังที่แรงกล้าไม่ได้เกิดจากคนๆ เดียว เพราะฉะนั้นช่วยกันเยอะๆนะคะ”
ท้ายสุด มร.ฮิโตชิ โยโกฮามา ยังตอกย้ำให้เราชื่นใจว่า อีซี่บายยังคงให้ ความสำคัญกับคำว่า “การให้” ซึ่งเป็นสิ่งที่อีซี่บายได้ ตระหนักและให้ ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งนี้อีซี่บายได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมที่มีส่วนช่วยเหลือสังคมไทยมากกว่า 19 ปี อย่างต่อเนื่อง ตรงกับพันธกิจของอีซี่บายที่จะมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจซึ่งสามารถเกื้อหนุนประโยชน์สูงสุดต่อสังคม และเพื่อนำพันธกิจขององค์กรไปสู่ทุกหน่วยของสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ไงล่ะ บอกแล้ว ชีวิตดี๊ดี..อีซี่ ผุดๆๆ รู้แล้วอย่าลืมส่งต่อนะ!!!!