กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
กลุ่มเซ็นทรัล เดินหน้าลุยธุรกิจอีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เตรียมรับมือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ล่าสุด เปิดตัว Central Online เว็บไซต์โฉมใหม่ www.central.co.th ภายใต้การบริหารงานของออฟฟิศเมท พร้อมเปิดตัวโฆษณาประชาสัมพันธ์ภายใต้แนวคิด “Shop with Confidence” ชูจุดขาย สินค้าคุณภาพมาตรฐาน สะดวก รวดเร็ว ครบครันและเชื่อถือได้ ตั้งเป้า 800 ล้านบาท ภายในปี 2558 นี้
วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ กลุ่มเซ็นทรัลให้มีนโยบายปรับโฉมเว็บไซต์ www.central.co.th ใหม่ พร้อมจัดทำโษณษาประชาสัมพันธ์ภายใต้แนวคิด“Shop with Confidence” เพื่อเป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการที่มีมาตรฐานสูงสุด ผ่านการนำเสนอในราคาที่กล้ารับประกันความพอใจต่อผู้บริโภค ให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจว่า จะได้รับการบริการที่ดี การันตีด้วยสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน อีกทั้งแบรนด์ของเซ็นทรัลที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือสูง ทั้งนี้ บริษัทออฟฟิศเมท มีลูกค้าอีคอมเมิร์ซเป็นหลักแสนรายและเป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจมากกว่า 60,000-70,000 ราย โดยสินค้าขายดี 3 อันดับแรก คือ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแม่และเด็ก
“เพื่อปรับรูปแบบธุรกิจในอนาคตสู่การเป็นผู้จำหน่ายสินค้าและวางระบบการขายผ่านระบบออนไลน์ให้กลุ่มเซ็นทรัลอย่างเต็มตัว ด้วยฐานลูกค้าและเครือข่ายพันธมิตรที่มีอยู่มากมาย เราตั้งเป้ารายได้ 800 ล้านบาทในปีแรกและเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า” วรวุฒิ กล่าว
ด้าน สิริเกศ จิรกิติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ด้วยความที่เซ็นทรัลเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความเชื่อถือในด้านคุณภาพที่ลูกค้าไว้วางใจมาโดยตลอด มีฐานลูกค้าอยู่มากมาย บวกกับความเชื่อมั่นในการบริการและมาตรฐานของสินค้าที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ บริษัทฯ ได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยการเปิดตัว Central Online ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลที่จะตอบสนองไลฟ์สไตล์ความต้องการของผู้บริโภคที่สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะขยายโอกาสการขายสินค้าให้กับกลุ่มคู่ค้าของเรามากขึ้นอีกด้วย
“การหันมาทุ่มให้กับการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ของเราในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า คู่ค้าและกลุ่มเซ็นทรัลเอง โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับก็คือความสะดวกสบายในการจับจ่ายสินค้าที่มีให้เลือกนับแสนรายการ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้า ก็สามารถที่จะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ยุติธรรม อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ ทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ในส่วนของพันธมิตรคู่ค้าก็จะมีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรจากลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากทั่วทุกมุมโลกตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัลเองก็ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้ขายและผู้ซื้อได้มาพบกันบนเว็บไซต์ www.central.co.th ที่อำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่” นางสิริเกศ กล่าว
ส่วน ซี ฉัตรปวีณ์ เจ้าหญิงแห่งวงการไอที เปิดเผยว่า “ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองสนใจ หรือได้เห็นได้อ่านผ่านโลกออนไลน์ โดยมีการใช้งานโลกโซเชียลผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์กันมากมาย ซึ่งผลสำรวจประจำปี 2557 พบว่าค่าเฉลี่ยของผู้บริโภคใช้งานอินเตอร์เน็ตต่อสัปดาห์อยู่ที่ 32.3 ชั่วโมง หรือใช้เวลาประมาณ 4.6 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งความน่าสนใจของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปคือ ผู้บริโภคได้นำเทคโลยีด้านไอทีมาใช้เกิดประโยชน์หรือสร้างมูลค่าให้กับตนเองและประเทศมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจในสินค้าและบริการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งวันนี้ทางเซ็นทรัลออนไลน์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างสูงสุด”
นานา ไรบีนา เผยว่า “เพราะว่าตัวเองต้องเลี้ยงน้องบรูคลินและน้องบีนาอยู่บ้าน ทำให้นานาไม่มีเวลาออกมาห้างสรรพสินค้า จึงทำให้ต้องเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของนานา ที่ผ่านมานานาได้ซื้อสินค้าผ่านเซ็นทรัลออนไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งตอบสนองความต้องการในทุกๆด้านจริงๆ ยิ่งของใช้สำหรับเด็ก สามารถมองเห็นตัวอย่างสินค้าได้อย่างชัดเจน ทำให้นานานเลือกซื้อเสื้อผ้า ของเล่นให้กับน้องๆได้ อีกทั้งการจัดส่งที่รวดเร็ว ทำให้นานาประหยัดเวลาในการเดินทาง และได้เลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิดอีกด้วย”
เต้ย จรินทร์พร กล่าวว่า “เต้ยเองเป็นคนที่ชอบซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเต้ยเจอปัญหาเรื่องซื้อของจากพ่อค้าแม่ค้าในโซเชียลมีเดีย อาทิ เรื่องโอนเงินแล้วไม่ยอมส่งสินค้า เสื้อผ้าไม่ได้มาตรฐานแล้ว สีของเสื้อผ้าไม่ตรงกับในรูป พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ยอมรับเปลี่ยนคืน ฯลฯ ซึ่งทำให้เต้ยไม่อยากไปซื้อสินค้าผ่านออนไลน์อีกเลย แต่เพื่อนเต้ยได้ลองแนะนำให้เข้าไปซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเซ็นทรัลออนไลน์ ก็ทำให้เต้ยมั่นใจในเรื่องของคุณภาพของสินค้า ได้สินค้าตรงกับความต้องการ 100% ทำให้ตอนนี้ เจ้าแม่แฟชั่นอย่างเต้ย ต้องเข้าไปเซ็นทรัลออนไลน์ เพื่อเช็คสินค้าออกใหม่ทุกวันเลยค่ะ”
ด้านอินดี้ตัวพ่อ โต้ สุหฤท สยามวาลา ร่วมพูดคุยว่า “การเปิดให้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ของเซ็นทรัล ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดี อีกหนึ่งบริการดีๆจากเซ็นทรัลที่เพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องการเดินทางปัจจุบันที่ทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องรถติด สามารถซื้อหนังสือที่ชื่นชอบ ดีวีดีหนัง เพลงที่ใช่ เซ็นทรัลออนไลน์มีครบทุกครบต้องการ และสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อินดี้อย่างผมได้อย่างดีเยี่ยม”
“สำหรับบริการของ Central Online ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งที่กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารอันทันสมัยของยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบาย จึงคาดว่าบริการของเราจะได้รับความไว้วางใจและได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคที่เป็นผู้นำเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง พร้อมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดายและเร็ว” วรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย