กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--Hill+Knowlton Strategies
เวสเปอร์เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปี ร่วมกับดิอาจิโอเนรมิตคืนสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับมื้อค่ำและเครื่องดื่มสุดพิเศษจากฝีมือสองบาร์เทนเดอร์ระดับโลกแห่งมหานครนิวยอร์ค
บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คุณภาพชั้นนำในประเทศไทย จับมือกับเวสเปอร์ ค็อกเทลบาร์ แอนด์ เรสโตรองท์ ร้านอาหารที่กวาดรางวัลมากมายในฐานะหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมฉลองครบรอบหนึ่งปี ในวันที่ 16 – 17 มีนาคมนี้
ในโอกาสสุดพิเศษนี้ ดิอาจิโอและเวสเปอร์ได้เชิญ อิกอร์ ฮัดซิสไมโลวิช (Igor Hadzismajlovic) และสตีฟ ชไนเดอร์ (Steve Schneider) สองบาร์เทนเดอร์ประจำร้าน Employees Only ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบาร์ยอดเยี่ยมอันดับห้าของโลก และเป็นยอดฝีมือจากโครงการ ดิอาจิโอ เวิลด์ คลาส มาสร้างสรรค์ไอเดียในการผสมเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ส่งตรงจากนิวยอร์คสู่กรุงเทพมหานคร
คุณโชติพงศ์ ลีนุตพงษ์ เจ้าของร้านเวสเปอร์ ค็อกเทลบาร์ แอนด์ เรสโตรองท์ กล่าวว่า “นับเป็นวันที่พิเศษอย่างยิ่งสำหรับเวสเปอร์ เพียงหนึ่งปีเท่านั้นที่เราได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลายาวนานหลายปี ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรอย่างดิอาจิโอ เรายังคงสานต่อความมุ่งมั่นในการผสมผสานเครื่องดื่มที่ดีที่สุดและสร้างสรรค์ที่สุดเพื่อมอบให้แก่ลูกค้าของเรา รวมทั้งผลักดันบาร์เทนเดอร์ของเราในการสร้างชื่อให้กับตัวเองทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเชิญอิกอร์และสตีฟมาในงานครั้งนี้ถือเป็นการแสดงศาสตร์และศิลป์ของการผสมผสานเครื่องดื่ม พร้อมทั้งจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับบาร์เทนเดอร์ทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี”
คุณพรเศก ภาคสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ กล่าวว่า “การจัดงานเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงทุกสิ่งที่ดิอาจิโอและโครงการ เวิลด์ คลาสยืนหยัด นั่นคือการสร้างค่านิยมใหม่ของวัฒนธรรมการดื่มสำหรับคนเมือง รวมถึงการสนับสนุนความสามารถและความสร้างสรรค์ของเหล่าบาร์เทนเดอร์ พร้อมทั้งส่งเสริมการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ เรารู้สึกตื่นเต้นเสมอที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยยกระดับวงการเครื่องดื่มในสังคมไทย พร้อมกันนี้ เราขอแสดงความยินดีกับเวสเปอร์ในความสำเร็จอีกขั้น และขออวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีกในอนาคต”
ในช่วงบ่ายของวันที่ 16 มีนาคม บาร์เทนเดอร์จากกว่า 20 ร้านชั้นนำในกรุงเทพฯ ได้มารวมตัวกันที่ร้านเวสเปอร์ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม เวิลด์ คลาส เทรนนิ่ง สุดพิเศษ โดยอิกอร์ และสตีฟ ได้ร่วมถ่ายทอดความรู้ และแบ่งปันเคล็ดลับมากมายเกี่ยวกับเทรนด์เครื่องดื่มค็อกเทลล่าสุด
ส่วนในค่ำคืนเดียวกันนั้น บรรดาแขกผู้ร่วมงานได้พบกับ 8 ค็อกเทลสูตรพิเศษจากฝีมือของอิกอร์และสตีฟ ที่ผสมจากเครื่องดื่มระดับพรีเมียมของดิอาจิโอ ซึ่งคว้ารางวัลมาแล้วจากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล (Johnnie Walker Gold Label Whisky), แทงเกอร์เรย์ ยิน (Tanqueray Gin), รอน ซาคาปา รัม (Ron Zacapa Rum),ดอน ฮูลิโอ เรโปซาโด เตกิล่า (Don Julio Reposado Tequila), เคเทล วัน วอดก้า (Ketel One Vodka) และ ซิงเกิลตัน ทเวลฟ์ ซิงเกิล มอล์ท สก็อตช์ (Singleton 12 Single Malt Scotch)
ความพิเศษเพิ่มมากขึ้นในคืนวันที่ 17 มีนาคม เมื่อกูรูค็อกเทลแห่งเวิลด์ คลาส ทั้งสองได้ร่วมกับเชฟลูก้า อัปปิโน่ ปรมาจารย์อาหารอิตาเลียน เนรมิตเวสเปอร์ให้อบอวลด้วยบรรยากาศดิบๆ สไตล์นิวยอร์ค ผสมผสานกับบรรยากาศน่าหลงไหลสไตล์อิตาเลียนอย่างลงตัว โดยแขกผู้ร่วมงานได้ลิ้มรสมื้อค่ำ 4 คอร์สที่โดดเด่นด้วยค็อกเทลสูตรพิเศษในสไตล์ ดิอาจิโอ เวิลด์ คลาส และอาหารจานเด็ดที่จัดมาให้เข้าคู่กับเครื่องดื่มทุกแก้วโดยเฉพาะ
อิกอร์และสตีฟ ยังได้สร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาร่วมเฉลิมฉลองครั้งนี้ ด้วยเมนูค็อกเทลสุดพิเศษมากมาย เริ่มต้นด้วย “Ready, Fire, Aim” สูตรผสมที่ลงตัวของ ดอน ฮูลิโอ เรโปซาโด เตกิล่า (Don Julio Reposado Tequila), ฮันนี่ ไซรัป (Honey syrup), สับปะรด, มะนาว และ ฮาบาเนโร บิทเทอร์ (Habanero bitters) ค็อกเทลเปรี้ยวอมหวานแก้วนี้ เข้ากันอย่างลงตัวกับเมนูเรียกน้ำย่อยของเชฟลูก้าอย่างยำเซวิเช่ปลาเก๋าดำ เสิร์ฟพร้อมพริกสดและใบโหระพา (Black Grouper Ceviche with Chili and Basil) ต่อด้วยเมนู “Provencal” ค็อกเทลที่ผสมผสานด้วย ลาเวนเดอร์ แทงควอรี่ (Lavender Tanqueray), เฮิร์บ เดอ โพรวองซ์ เวอร์มุธ (Herb de Provence vermouth) และ คอนทรูต์ (Cointreau) ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเมนูเส้นอย่าง ลิงกวินี่ทาร์ทาร์ เสิร์ฟพร้อมลาเวนเดอร์เลม่อน และปลาทูน่า (Linguine Tartare with Lavender, Lemon and Red Tuna) ส่วนเมนู เมน คอร์ส ประจำค่ำคืน คือหมูคุโรบุตะนาบกระทะร้อน เสิร์ฟพร้อมเมล็ดโกโก้ และถั่วพิสตาชิโอบด (Seared Kurobuta Pork with Cocoa Nibs and Pistachio crust) ซึ่งเข้ากันได้ดีกับ ซิงเกิลตัน ทเวลฟ์ ซิงเกิล มอล์ท สก็อตช์ (Singleton 12 Single Malt Scotch), บิยองโก เวอร์มุธ (Bianco vermouth), อาเวอร์นา (Averna) และช็อกโกแลต บิทเทอร์ (Chocolate bitters) ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวในค็อกเทลชื่อเท่อย่าง “Common Sense” ปิดท้ายค่ำคืนอย่างน่าจดจำด้วยเมนูค็อกเทล “Amelia” ที่มาพร้อมส่วนผสมหลักอย่าง Ketel One Vodka, Lemon, Elderflower Liqueur, Blackberry Puree ซึ่งจับคู่ตบท้ายอย่างสมบูรณ์กับไวท์ ช็อคโกแลตและราสเบอรี่ ทาร์ต เมนูของหวานสุดพิเศษจากเชฟลูก้า
กิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดิอาจิโอ เวิลด์คลาส 2015 โครงการเสริมสร้างฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ในการรังสรรค์เครื่องดื่มชั้นเลิศระดับโลก สู่การยกระดับวงการบาร์เทนเดอร์ไทยให้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลอย่างสมบูรณ์แบบ
“เรามีความภูมิใจอย่างมากที่สองค่ำคืนนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง นับจากที่การแข่งขัน เวิลด์ คลาส ประเทศไทย ประจำปีนี้ ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงการให้ความรู้และเสริมทักษะให้กับบาร์เทนเดอร์ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับร้านอาหารต่างๆ ในการเสาะหาเทรนด์การผสมเครื่องดื่ม รวมถึงเมนูใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มระดับสูงสุดให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยทุกท่าน” คุณพรเศก กล่าวปิดท้าย
การแข่งขัน ดิอาจิโอ เวิลด์คลาส ประเทศไทย รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นในปลายเดือนเมษายนนี้ โดยผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายจากการแข่งขันในรอบนี้ จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รอบตัดสิน ในวันที่ 1-2 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ