กรุงเทพ--5 ก.พ.--บ.โคคา-โคลา
บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่า บริษัทฯ สามารถยึดครองความเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมภายในประเทศได้อีกปีหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดรวม 59% ในปี 2540 เพิ่มขึ้นจาก 58% ในปี 2539 ทั้งนี้จากการอ้างอิงข้อมูลวิจัยของบริษัทวิจัยอิสระ ดีมาร์ รีเทล ออดิท โดยยอดจำหน่ายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5% ในปี 2540 ในขณะที่อัตราการเติบโตของตลาดน้ำอัดลมโดยรวมลดลง 0.4% ในตลาดน้ำโคลา ผลิตภัณฑ์ โคคา-โคลา มียอดจำหน่ายเพิ่มจาก 50.7% เป็น 51.5% สูงกว่าคู่แข่งลำดับถัดไป 3.6% แฟนต้ามีส่วนแบ่งการตลาด 67% ในตลาดน้ำสีเพิ่มขึ้นจาก 65.9% ในปี 2539 โดยประเทศไทยมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 4 ของแฟนต้าทั่วโลกและสไปรท์ ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดน้ำใส มีส่วนแบ่ง 81.6% จาก 80.5% ในปี 2539
"ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โคคา-โคลา คือผู้นำตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยอย่างแท้จริง ทั้งในตลาดโดยรวม และในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ "นายเคิร์ก วีลเลอร์ ผู้จัดการภูมิภาคประจำประเทศไทย กล่าวในงานแถลงข่าวของบริษัทฯ "สิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวเลขการเติบโตดังกล่าว แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของระบบ โคคา-โคลา ในการสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า ลูกค้าและผู้บริโภค ในท่ามกลางภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจและการหดตัวของธุรกิจโดยรวมของประเทศ"
นายเคิร์ก วีลเลอร์ ได้กล่าวถึงความริเริ่มทางธุรกิจบางประการที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบ โคคา-โคลา อันได้แก่ การเพิ่มเงินลงทุนอีก 1,900 ล้านบาทในบริษัท ไทยน้ำทิพย์ทำให้สัดส่วน ผู้ถือหุ้นของโคคา-โคลา ในไทยน้ำทิพย์เพิ่มขึ้นจาก 44% เป็น 49% ยุทธศาสตร์ของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง โคคา-โคลา ยังคงมองเห็นโอกาสมากมายในระยะยาวสำหรับตลาดประเทศไทย เราเตรียมตัวของเราเองให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ว่าเราจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวอีกครั้ง "นายเคิร์กกล่าว" โดยความร่วมมือกันระหว่างไทยน้ำทิพย์ หาดทิพย์ และโคคา-โคลา ประเทศไทย เรายังคงมุ่งมั่นต่อไปที่จะพลิกโอกาสและศักยภายทางการตลาดให้เกิดผลประโยชน์ต่อธุรกิจสำหรับในปี 2541 และตลอดไป
นายไมเคิล บาสเคิล ประธานคนใหม่ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตก แถลงว่ายอดจำหน่ายโดยรวมของภาคพื้นฯ อันประกอบด้วย 13 ประเทศ เพิ่มขึ้น 7% ในปี 2540 ซึ่งช่วยผลักดันให้ยอดขายโดยรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 9% ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตก ส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์ โคคาโคลา ในปี 2540 คิดเป็น 59% เพิ่มขึ้นจาก 56.7% ในปี 2539
นายไมเคิล กล่าวต่อไปว่า แม้ภาพรวมของตลาดเอเชียในปี 2541 จะไม่สดใสนัก บริษัทฯ ยังคงคาดหวังการเติบโตด้านยอดขาย และหวังที่จะครองความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสำหรับในปีนี้ต่อไป
"เรามองเห็นว่า" ภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นโอกาส โอกาสในการที่จะเพิ่มพูนทักษะและขีดความสามารถของบุคลากรของเรา โอกาสในการพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบผู้บรรจุขวด และขยายผลกิจกรรมทางการตลาดของเรา" นายไมเคิลกล่าว "ในปี 2541 นี้เรายังคงเสริมสร้างความสำเร็จ และเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งจะเพิ่มพูนความแข็งแกร่งและขีดความสามารถให้กับเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
โรงงานบรรจุขวด โคคา-โคลา ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.2492 ปัจจุบันนี้ระบบโคคา-โคลา ในประเทศไทยมีการว่าจ้างงานเกือบ 12,000 คน มีโรงงานบรรจุขวด 6 แห่งและคลังสินค้าอีก 120 แห่ง
บริษัท โคคา-โคลา คือ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลม นอกเหนือจาก โคคา-โคลา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลกแล้ว บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตน้ำอัดลม 4 ใน 5 ยี่ห้อที่ขายดีที่สุดในโลก ได้แก่ ไดเอ็ท โค้ก แฟนต้าและสไปร์ท ด้วยระบบการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคกว่า 200 ประเทศทั่วโลกได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติของผลิตภัณฑ์โคคา-โคลา มากกว่า 900 ล้านแก้วต่อวัน
ถ้าต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : วรุตม์วัฒนคุณ ผู้จัดการฝ่ายวิเทศน์สัมพันธ์ บริษัทโคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์ 955-0777 ต่อ 476--จบ--