กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--กระทรวงพลังงาน
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เดินหน้ามอบฉลากประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพสูงต่อเนื่องแก่ผู้ประกอบการที่ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงที่เข้าร่วมโครงการ ยืนยันในปีที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ค่าประสิทธิภาพขั้นสูงรวม 79 ยี่ห้อ 1,522 รุ่น รวมแจกแล้วทั้งสิ้น กว่า 5 ล้านใบ ส่งผลให้เกิดศักยภาพการประหยัดพลังงานของประเทศได้ประมาณ 208 พันตันเทียบเท่า น้ามันดิบต่อปี เมื่อคิดเป็นเงินสามารถประหยัดได้กว่า 6,900 ล้านบาท
วันนี้ (25 มี.ค.) นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงพลังงาน เป็นประธานใน งานมอบ ฉลากประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพสูง พร้อมด้วยนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน และนายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ อนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เป็นผู้แถลงผลการดำเนินงาน “โครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และ วัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลาก” โดยมีผู้ประกอบการจากภาคเอกชนที่ได้รับมอบฉลากฯ พร้อมด้วย สื่อมวลชนเข้าร่วม
นายธรรมยศกล่าวว่า พพ.ได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา ซึ่งได้ดาเนินการส่งเสริมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง จนกระทั่งปี 2556 ได้มีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ค่าประสิทธิภาพสูง จานวน 7 ผลิตภัณฑ์ คือ เตาแก๊สความดันต่า กระจกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ฉนวนใยแก้ว อุปกรณ์ปรับความเร็ว รอบมอเตอร์ มอเตอร์เหนี่ยวนาสามเฟส เครื่องยนต์แก๊สโซลีนขนาดเล็ก และเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก สาหรับใน ปีนี้ พพ. ได้ศึกษาและกาหนดใช้ในวัสดุอุปกรณ์เพิ่มเติมอีก 1 ผลิตภัณฑ์ คือ เตาแก๊สความดันสูง (เตาหัวเขียว หรือ เตาสาหรับแม่ค้า) รวมทั้งสิ้นเป็น 8 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งในขณะนี้ได้มีผลิตภัณฑ์รุ่นที่ผ่านเกณฑ์ค่าประสิทธิภาพขั้นสูง รวม 79ยี่ห้อ1,522รุ่นโดยพพ.ใหฉ้ลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงรวมกว่า5ล้านใบส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศสามารถลดการใช้พลังงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 208 พันตันเทียบเท่าน้ามันดิบ ต่อปี คิดเป็นมูลค่า รวมกว่า 6,900 ล้านบาท และยังสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 1.1 ล้านตันต่อปี
สาหรับการดำเนินงานในปีต่อๆ ไป พพ. จะยังคงดาเนินการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทั้ง 8 ผลิตภัณฑ์ต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง รวมทั้งจะได้มีการศึกษาเพื่อ เพิ่มการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่อีก หลายชนิด เช่น หลังคากระเบื้องและอิฐมวลเบาซึ่งจะพิจารณาถึงความพร้อมของผู้ประกอบการด้วย โดยเบื้องต้นพพ.มั่นใจว่า จะช่วยให้เกิดการขยายผลของการมอบฉลากประสิทธิภาพสูงในวัสดุอุปกรณ์ประหยัดพลังงานของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ รวมทั้งเกิดผลประหยัดพลังงานมากเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ นายธรรมยศ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์สาคัญของการมอบฉลากประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพสูง ว่า “ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง ” นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคให้สามารถเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง และพิจารณาได้ว่าผลิตภัณฑ์มีค่าประสิทธิภาพพลังงานเท่าใด เพื่อใช้เปรียบเทียบกับ ผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน โดยสามารถสังเกตได้จากตัวเลขที่แสดงค่าประสิทธิภาพของแต่ละผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ เพื่อ ช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และมีการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด