กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--ซิกซ์ ดีกรีส์ คอมมิวนิเคชั่น
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดนิทรรศการ “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระจริยวัตรอันงดงาม และพระปรีชาสามารถ รวมทั้งพระกรุณาธิคุณในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย รวมทั้งประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอาเซียน
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ได้ร่วมกับ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และบริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้หัวข้อ “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” โดยกำหนดจัดนิทรรศการ ดังนี้
กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๑ - ๘ เมษายน ๒๕๕๘ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๖ เมษายน ๒๕๕๘ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ ๗ - ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จังหวัดสกลนคร
ภาคกลาง ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ หอประชุมพิพัฒน์มงคล องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
ภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๔ - ๗ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ ห้องประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จังหวัดกระบี่
หม่อมหลวงปนัดดาฯ ได้กล่าวถึงที่มาของนิทรรศการ “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” ว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระปรีชาสามารถในศาสตร์หลายด้านหลายแขนง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย ทรงฟื้นฟูและธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันดีงามของชนชาติไทยมิให้สูญหายไปตามกระแสสังคมโลก จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาว่า “เอกอัครราชูปถัมภ์มรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วิศิษฏศิลปิน” หากเราย้อนกลับไป ตั้งแต่ทรงพระเยาว์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะโดยเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจในท้องถิ่นห่างไกลเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยังมีความยากลำบาก ขาดแคลน และมีคุณภาพชีวิตที่ด้อยโอกาส ทั้งในด้านการศึกษา โภชนาการ สุขภาพอนามัย และสภาพสิ่งแวดล้อม ให้มีสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้น เมื่อทรงเจริญวัย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ทรงเริ่มงานพัฒนาโดยมีพระราชดำริดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อพัฒนาภาวะโภชนาการและสุขภาพของเด็กในถิ่นทุรกันดาร และทรงขยายการพัฒนาไปช่วยเหลือประชาชนตามสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ จนครอบคลุมทุกด้าน ทั้งทางด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย โภชนาการ การเกษตร การส่งเสริมอาชีพ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะพระราชทานความช่วยเหลือต่าง ๆ เหล่านี้แก่ประชาชนชาวไทยแล้ว ยังทรงมีพระกรุณาธิคุณพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย พระกรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้นดังกล่าวปรากฏชัดแจ้งเป็นที่เทิดทูนชื่นชมยินดีแก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทรงประกอบพระภารกิจมากมายแม้จะทรงเหนื่อยยากตรากตรำเพียงไร เราก็ยังคงเห็นรอยแย้มพระสรวลอยู่ตลอดเวลา พระจริยวัตรอันงดงามนี้เป็นขวัญและแรงบันดาลใจให้คนไทยมีความมานะอุตสาหะ มีความปิติ และยิ้มตามอย่างมีความสุข สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงเป็น “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” ของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “พระผู้สร้างรอยยิ้ม” แบ่งเป็น ๓ ส่วน
ส่วนที่ ๑ พระปรีชาสามารถ ตกแต่งพื้นที่ด้วยการ์ตูนลายฝีพระหัตถ์ จัดแสดงหนังสือ
พระราชนิพนธ์ ภาพวาดฝีพระหัตถ์ บทเพลงพระราชนิพนธ์ จุดลงนามถวายพระพร และการจำหน่ายสินค้าจากร้านภูฟ้า
ส่วนที่ ๒ พระจริยวัตร จัดแสดงพระฉายาลักษณ์ที่แสดงถึงพระจริยวัตรที่งดงาม เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม โดยแบ่งตามช่วงพรรษา ดังนี้
- ช่วงพรรษา ๑ - ๑๒ พรรษา “เจ้าหญิงน้อยรอยยิ้มพิมพ์ประจักษ์”
- ช่วงพรรษา ๑๓ - ๒๔ พรรษา “งามพระจริยวัตรสยามบรมราชกุมารี”
- ช่วงพรรษา ๒๕ - ๓๖ พรรษา “เสด็จตามรอยพระยุคลบาททั่วปฐพี”
- ช่วงพรรษา ๓๗ - ๔๘ พรรษา “สานสัมพันธไมตรีด้วยพระเมตตา”
- ช่วงพรรษา ๔๙ - ๖๐ พรรษา “คือพระผู้สร้างรอยยิ้มแก่ปวงชน”
ส่วนที่ ๓ พระกรุณาธิคุณ จัดแสดงเรื่องราวพระราชกรณียกิจและพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยจัดแสดงดนตรี และฉายภาพยนตร์ประกอบเพลง “พระผู้สร้างรอยยิ้ม”
จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมแสดงความจงรักภักดี และลงนามถวายพระพรตามสถานที่ต่าง ๆ ที่จัดไว้ รวมทั้งร่วมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน