กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--NBTC Rights
จับตาวาระ กสท. ลุ้น ! ผลการรับรองมติ SLC ถือหุ้นช่องข่าวอื่นเกินกฎประมูล เตรียมออกใบอนุญาตทีวีช่อง 10 รัฐสภา//ศาลปกครองสั่ง กสทช.ไกล่เกลี่ยMUX กรมประชาฯ// ทีวีการเมืองทำผิดเงื่อนไข MOU
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 30 มี.ค. 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ครั้งที่ 12/2558 จะมีการพิจารณารับรองมติ วาระการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้ว ตนและ ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ได้เห็นชอบกับข้อเสนอสำนักงานในการออกคำสั่งทางปกครองไปยังผู้รับใบอนุญาตให้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้น เพื่อแก้ไขมิให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งทางตรงและทางอ้อม และไม่ก่อให้เกิดการถือครองใบอนุญาตฯในหมวดหมู่เดียวกันเกินสัดส่วนตามที่กำหนดในประกาศ กสทช. ทั้งนี้ สอดคล้องกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้เชี่ยวชาญ และมติของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. ตลอดจนกระบวนแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบของสำนักงาน ที่เห็นว่าการออกประกาศ หลักเกณฑ์เงื่อนไขการประมูล ได้กำหนดสัดส่วนการกระทำที่เป็นการครอบงำกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยอาศัยอำนาจมาตรา 31 ของ พรบ. ประกอบกิจการฯ กรณีการเข้าถือครองหุ้น
“จากวาระดังกล่าว ได้มีการลงมติแตกต่างกัน 2:1:2 โดยดิฉันและ ผศ.ดร.ธวัชชัยฯ ได้เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงาน พร้อมมีเหตุผลประกอบ ส่วน .พลโท ดร.พีระพงษ์ฯ ไม่เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานฯ พร้อมมีเหตุผลประกอบ และ พ.อ.ดร.นทีฯ และ กสทช.พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ฯ งดออกเสียงพร้อมมีข้อสังเกตเพิ่มเติม จากผลการลงมติดังกล่าว ดิฉันได้เสนอให้สำนักงานพิจารณาระเบียบการประชุมและแนวปฏิบัติในการลงมติเสียงข้างมากและการวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งภายหลังการการรับรองมติแล้วสำนักงานจะต้องดำเนินการตามผลมติต่อไป” สุภิญญา กล่าว
นอกจากนี้ วาระการประชุม น่าจับตาได้แก่ การขออุทธรณ์คำสั่งของ กสทช. ตามมติ กสท.ครั้งที่ 53/57 วันที่ 8 ธ.ค. 2557 กรณี กรมประชาสัมพันธ์ไม่สามารถดำเนินการติดตั้งโครงข่ายดิจิตอลทีวีตามเงื่อนไขผู้ได้รับใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่ กสท.มีมติ จะใช้มาตรการปรับทางปกครองในอัตราวันละ20,000 บาท ทั้งนี้ หากหลังจากมีการปรับทางปกครองแล้วถ้ายังไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ กสท. อาจพิจารณาใช้มาตรการทางปกครองที่สูงขึ้น ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ได้ดำเนินการฟ้องศาลปกครองเพื่อขอถอนคำสั่ง เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา นางสาวสุภิญญาได้ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมด้วยตนเอง ทั้งนี้ศาลยังไม่สรุปว่ารับฟ้องหรือไม่ เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นหน่วยงานรัฐทั้งคู่ แต่ กสทช.เป็นองค์กรอิสระ และปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตน และเนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการปรับทางปกครองเกิดขึ้น มติ กสทช.เป็นเพียงการเตือนทางปกครองจึงยังไม่กระทบสิทธิต่อกรมประชาสัมพันธ์ในฐานะผู้ฟ้อง ศาลจึงให้กรมประชาสัมพันธ์ในฐานะผู้รับใบอนุญาตโครงข่ายเร่งดำเนินการโดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด และให้ กสทช.ในฐานะหน่วยงานออกใบอนุญาต พิจารณาหาทางออกในฐานะที่เป็นหน่วยงานรัฐด้วยกัน ทั้งนี้เรื่องการรับฟ้องหรือไม่ศาลให้เป็นดุลพินิจของศาลอีกครั้ง
“ทางออกหนึ่งที่ดิฉันเสนอต่อศาลคือถ้าไม่ลงโทษกรมประชาฯ กสท. ก็อาจพิจารณาออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ผู้ประกอบการโครงข่ายรายอื่นที่มีความพร้อมดำเนินการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินในช่วงเวลาที่กรมประชาฯ ยังวางโครงข่ายไม่เสร็จตามแผน ซึ่งดิฉันจะเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุม กสท. วันจันทร์นี้” สุภิญญา กล่าว
นอกจากนี้ในการประชุม กสท. จะพิจารณาการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทีวีสาธารณะประเภทที่สาม หมายเลข10ของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สืบเนื่องเนื่องจากการจัดเสวนาสาธารณะครั้งที่ผ่านมา ได้มีข้อเสนอถึงความชัดเจนในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการโทรทัศน์ สำหรับการประกอบกิจการบริการสาธารณะ ก่อนการพิจารณาให้ใบอนุญาต นางสาวสุภิญญาได้ทำหนังสือถึงสำนักงานที่เกี่ยวข้อง นำเสนอหลักเกณฑ์การคัดเลือกและรูปแบบการให้คะแนนในแต่ละหลักเกณฑ์เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติในการลงคะแนน(เกณฑ์บิวตี้คอนเทสต์) ประกอบเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาวาระเรื่องการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล บริการสาธารณะประเภทที่สาม ในที่ประชุม กสท.ครั้งนี้
“เพราะหาก กสท. ไม่วางเกณฑ์ที่ละเอียดในการจัดสรรคลื่นทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะให้ชัดจะขาดบรรทัดฐานที่ควรเป็นในการออกใบอนุญาตทีวีบริการสาธารณะทั้งหมดจากนี้ไป เพราะอาจเกิดปัญหาที่ยากต่อการกำกับดูแลในอนาคตได้ อีกทั้งควรระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนในการกำกับดูแลก่อนออกใบอนุญาตโดยเฉพาะเรื่องความเป็นอิสระและการไม่ถูกครอบงำ เหมือนที่ กสท. วางกติกาไว้ในช่องบริการธุรกิจก่อนการประมูล” นางสาวสุภิญญา กล่าว
ส่วนวาระการพิจารณา ช่องรายการทีวีดาวเทียมอาจทำผิดเงื่อนไข MOU กับทางสำนักงาน กสทช. นั้น ตนเห็นว่าข้อเสนอของคณะอนุกรรมการผังรายการฯ ที่เสนอให้พักใช้ใบอนุญาตกับทีวีที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะเป็นโทษหนักที่กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมือง กสท.ควรใช้ความรอบคอบในการพิจารณาแม้จะเป็นข้อร้องเรียนมาจากฝ่ายผู้มีอำนาจทางการเมืองในปัจจุบัน กสทช. เป็นองค์กรกำกับก็ควรใช้ดุลยพินิจที่เป็นอิสระ