กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--แสนสิริ
แสนสิริประกาศปรับเพิ่มเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจแล้ว หลังมองแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ ลูกค้าตอบรับดี ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายจาก 30,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท หลังจากลูกค้าตอบรับดีจากการจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งแคมเปญ The Joy of Hua Hin in Bangkok และ NOW OR NEVER รวมทั้งการเปิดโครงการใหม่และยอดขายจากตลาดต่างชาติที่สามารถปิดการขายโครงการดีคอนโด ครีก จากการจัดโรดโชว์ที่ฮ่องกงได้เป็นจำนวนมาก ขณะที่เป้าหมายรายได้มีการปรับเพิ่มจาก 34,000 ล้านบาท เป็น 36,000 ล้านบาท จากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโอนที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทมีภาพรวมการดำเนินธุรกิจที่น่าพอใจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ทั้งความสำเร็จจากเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ อาทิ บ้านเดี่ยวโครงการเศรษฐสิริ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า ซึ่งปิดยอดขายไปได้ถึง 300 ล้านบาทในช่วงเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนกุมพาพันธ์ รวมถึงการจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง อาทิ แคมเปญ The Joy of Hua Hin in Bangkok ที่สามารถสร้างยอดขายไปได้ถึง 600 ล้านบาทในช่วงระยะเวลาการจัดงานเพียง 2 วันช่วงต้นเดือนมีนาคม และแคมเปญ NOW OR NEVER โปรจี้ดฯ กับยูนิตสวยโดนใจ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า สามารถสร้างยอดขายไปได้ถึง 1,500 ล้านบาทในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่จัดแคมเปญ
นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการรุกตลาดต่างชาติ โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากการนำที่อยู่อาศัยไปโรดโชว์ที่ฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการดีคอนโด ครีก ภูเก็ต ได้รับการตอบรับจองจากลูกค้าต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัว Rental for the Holidays โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่เปิดบริการให้เช่าระยะยาวแก่ชาวต่างชาติในปีที่ผ่านมา เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดให้ลูกค้าต่างชาติสนใจซื้อคอนโดตากอากาศของแสนสิริมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้บริษัทยังได้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 10% ของยอดขายรวม จากปีที่ผ่านมาที่บริษัทสามารถสร้างยอดขายจากลูกค้าต่างชาติได้เพิ่มขึ้น 6%
“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายที่น่าพอใจทำให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ดี ดังนั้นจึงมีการพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายรวม (Presale) จากเดิมที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท และพิจารณาปรับเป้าหมายรายได้รวม จากเดิมที่ตั้งไว้ 34,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 36,000 ล้านบาท จากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโอนที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทสามารถสร้างยอดขายรอรับรู้รายได้ จากเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้เดิม 34,000 ล้านบาท ไปได้แล้วถึง 70% ซึ่งนับเป็น presale backlog ที่สามารถ secure เป้ารายได้ที่สูงมาก ดังนั้นจึงยังคงเหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 30% บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้และมีการพิจารณาปรับเป้าหมายรายได้รวมใหม่ดังกล่าว โดยเพิ่มขึ้นเป็น 36,000 ล้านบาท” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการ “The Monument” (เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า) เพียง 300 เมตรจากบีทีเอส สนามเป้า มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท และเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดตัวโครงการ “The Line” (เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต) มูลค่าโครงการ 5,600 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด Location is Everything เพราะที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องของทำเล ด้วยทำเลที่มีขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT โดยจะพัฒนาภายใต้ บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SIRI และ BTS มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 100 ล้านบาท ในสัดส่วน 50 : 50
นอกจากนี้จากความสำเร็จของการเปิดให้บริการ Rental for the Holiday ในปีที่ผ่านมา บริษัทจึงได้เตรียมเปิดตัว Plus Concierge (พลัส คอนเซียร์จ) ซึ่งเป็นที่สุดของบริการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าแสนสิริและกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดและรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบริการหลักเพิ่มเติม ภายใต้การบริหารงานของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทลูก โดยเตรียมเปิดให้บริการใน 6 จังหวัดทั่วประเทศเร็วๆ นี้ รวมทั้งบริษัทยังได้เตรียมส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จให้แก่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกถึง 17 โครงการทั่วประเทศ ภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจ Engineer for Growth เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนและเน้นการสร้างอัตรากำไรให้เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน