กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--IR PLUS
XO ประกาศเดินหน้ารุกในตลาดอเมริกาและอาเซียน หลังพบความต้องการซื้อสินค้าสูง ทั้งซอสปรุงรสและน้ำจิ้ม รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร “จิตติพร จันทรัช” เอ็มดี เผย เร่งคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า อย่าง ต่อเนื่อง ทั้งเตรียมออกบูธแสดงสินค้าในต่างประเทศ หวังดันรายได้ปี 58 โตเข้าเป้า 10-15% แย้มต้นปี 59 โรง งานใหม่เดินเครื่อง ส่งผลดีด้านการเพิ่มรายได้และลดต้นทุนการผลิต
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ส่ง ออกรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ, ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงเครื่องประกอบอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปอื่นๆ เปิดเผยถึง แผนงานปี 2558 ว่า บริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศเพิ่ม โดยเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดอเมริกา และตลาดอาเซียน เนื่องจากยังมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของ บริษัทฯ ได้อีกมาก และจะเดินหน้าขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมที่น่าสนใจ เนื่องจากภาพรวมตลาดซอสปรุงรสยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก แม้ที่ผ่านมาจะพบว่ากลุ่มประเทศยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ บริษัทฯ เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง แต่บริษัทฯ ก็มีออเดอร์สินค้าที่ได้ทำสัญญากันไปก่อนหน้านี้บ้างแล้ว จึงต้องรอดูผลกระทบต่อไปในไตรมาส 2-3
ทั้งนี้ บริษัทฯ เน้นผลักดันสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูงเป็นตัวทำตลาด หลัก นอกจากนี้ ยังคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้า หมายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง การร่วมออกบูธงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ สนับสนุนให้ในไตรมาส 1/2558 มี ออเดอร์สินค้าที่รอผลิตอยู่ และเชื่อว่า ทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี คาดรายได้ทั้งปี 2558 จะเติบโต อีก 10 – 15 % จาก ปี 2557 อยู่ ที่ 734.95 ล้าน บาทตามเป้าที่วางไว้
“ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ ดี จากคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่อย่างต่อ เนื่อง แม้ ปัจจุบัน ตลาดหลักของเราคือกลุ่มลูกค้าในประเทศยุโรป คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของ ลูกค้า ทั้งหมด ซึ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของยุโรปที่ไม่ปกติ ส่งผลให้คำสั่งซื้อสินค้าเป็นไปอย่างระมัดระวัง แต่ทั้งนี้ ตลาดในประเทศอื่นๆ ก็ยังมีโอกาสการเติบโตที่ดี และมีลูกค้าใหม่เข้ามาสนับสนุน อีกทั้ง บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ ดี บริหารสต๊อก สินค้า ให้เหมาะสมกับออร์เดอร์ รวมทั้ง ขยายตลาดไปยังประเทศอื่นเพิ่มเติมอีก เพื่อสนับสนุนเป้าหมายรายได้ทั้งปีโต 10-15% ตามที่วางไว้ได้” นายจิตติพร กล่าว
สำหรับความคืบหน้าแผนขยายกำลังการผลิต โรงงานแห่งใหม่ ซึ่งมีการล่าช้า เนื่องจากหลังจากค่าเงิน ยูโรอ่อนค่าลง บริษัทจึงปรับแผนการก่อสร้างโรงงาน และดำเนินการออกแบบกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คาดว่าจะเริ่มก่อนสร้างใน Q2 ปี 2558 และ จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/2559 สนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว สามารถรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับ โรงงานใหม่มีประสิทธิภาพการผลิตสูง เนื่องจากใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยมากขึ้น ใช้แรงงานคนน้อยลงมากเมื่อเทียบกับโรงงานเก่า จึงเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจมีต้นทุนลดลงได้ และเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 86.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 871.45% จากปี 2556 อยู่ที่8.87 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 734.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.30 ล้านบาท หรือ 20.75% จาก ปี 2556 อยู่ที่608.65 ล้านบาท เนื่อง จากบริษัทฯ มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งการอ่อนค่าของเงินบาท นอกจากนี้ มีรายได้อื่นๆ อยู่ที่3.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.04 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 196.30% เนื่อง จากมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ 1.44ล้าน บาท
ส่วนต้นทุนขายอยู่ที่ 494.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.35 ล้านบาท ซี่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย และอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าในปี 2557 เท่ากับ 32.77% เพิ่ม ขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการ ขายสินค้าเท่ากับ 22.50% โดย สาเหตุหลักเป็นผลจากการลดลง ของราคามะพร้าว ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของสินค้าเครื่องดื่ม การอ่อนค่าของเงินบาท การประหยัดจากขนาด และการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น
“ภาพรวมผลงานปี 2557 บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำไรเพิ่มขึ้น 871.45% เนื่องจากเรามีลูกค้าใหม่ๆ มีปริมาณการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นที่ดี และได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงครี่งปีหลัง ของ ปี 2557” นายจิตติพร กล่าว