กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--ออเธนทิคคลินิก
การตลาดยุคออนไลน์ อะไรๆ ก็เป็นไปได้ ยิ่งถ้าจับถูกจุด รับรองโตไว! ยอดขายเติบโต โดยหนึ่งในองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรคือ “ออเธนทิค คลินิกเวชกรรรม” ภายใต้การบริหารของพลัฏฐ์ พฤกษ์ปาริชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการรวมไปถึงการทำการตลาด ล่าสุดกับผลงาน 2 ปี ขยายคลินิกไปได้ 6 สาขา รวมถึงมียอดแฟนเพจที่ติดตามเป็นสมาชิกและฐานลูกค้าเกือบ 500,000 ราย จัดเป็นคลินิกเวชกรรมน้องใหม่มาแรงที่น่าจับตามองเลยทีเดียว ล่าสุดเป็นแบรนด์ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ด้วยความกล้าตัดสินใจทำแคมเปญ “สวยไม่อั้น-แบบบุฟเฟ่ต์” ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีทั้ง ร้อยไหมบุฟเฟ่ต์, โบท็อก บุฟเฟ่ต์, ทรีทเมนท์ บุฟเฟ่ต์ ฯลฯ นับเป็นปรากฏการณ์เพราะในธุรกิจความงาม ต่างกับ ธุรกิจอาหารอย่างสิ้นเชิง ในทุกบริบทของการจัดการมีคอร์สต่างๆ เต็มไปหมด ทั้งในเรื่องตัวยาเวชภัณฑ์, เครื่องมือและอุปกรณ์, ค่าตัวและค่าวิชาชีพของแพทย์ รวมไปถึง ค่าหัตถการ ฯลฯ ที่ผ่านมา จึงไม่มีคลินิกไหนกล้าทำ การประเดิมทำแคมเปญดังกล่าวสะท้อนแนวคิดที่น่าสนใจ แถมยังประสบความสำเร็จจากยอดขาย มีตัวเลขเติบโต และขยายสาขามากไปถึง 6 สาขา หลังเปิดให้บริการเพียงสองปี พร้อมตัวเลขสมาชิกบนแฟนเพจกว่า 500,000 ราย …. โดยนัยยะแล้ว นอกจากจะพาแบรนด์แจ้งเกิดเป็น “ดาวรุ่ง” ในธุรกิจความงามแล้ว ยังสามารถพาแบรนด์ไปครองใจผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วด้วย ปรากฏการณ์ “ไฮ-สปีด” ขนาดนี้ ไม่ทอล์คไม่ได้แล้ววววว
รู้จัก “พลัฏฐ์ พฤกษ์ปาริชาติ” เส้นทางชีวิตและธุรกิจก่อนจะมาเปิด “ออเธนทิค คลินิก”?
หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ก็เข้าทำงานด้านกิจกรรมการตลาดและโฆษณา มาโดยตลอด เมื่อมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่ประมาณหนึ่ง ก็เริ่มคิดและตั้งใจจะนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง จึงเริ่มศึกษาข้อมูล อ่านหนังสือเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจ การบัญชี การตลาด ภาษีเป็นอย่างไร จัดตั้งบริษัทอย่างไร ขายอย่างไร การใช้วิธีการสื่อสารการตลาด จนได้มาเจอกลุ่มเพื่อนที่อยู่วงการธุรกิจคลินิกเสริมความงามซึ่งกำลังเป็นที่น่าสนใจ เพราะช่วงนั้นข่าวสารด้านการเสริมความงามจากคลินิกเวชกรรมมีมาก ธุรกิจนี้มีการแข่งขันกันมากขึ้น ผู้บริโภคมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เราเป็นผู้บริโภคที่ใช้บริการด้านคลินิกเสริมความงามอยู่แล้ว และมีความสนใจในเรื่องเวชกรรมความงามเป็นทุนเดิม จึงได้เริ่มหาลู่ทางทำคลินิกเสริมความงามขึ้นมา โดยสอบถามข้อมูลพร้อมทดลองใช้บริการจากคลินิกต่างๆ และดูการดำเนินงานด้านนี้ เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค และวิธีการเปิดกิจการ พร้อมการวางระบบบริการในการดำเนินธุรกิจประเภทนี้ หลังจากได้ความรู้เรื่องการทำธุรกิจคลินิกเสริมความงามแล้ว จึงเริ่มต้นด้วยการเปิดบริษัทระบบหุ้นส่วน เพียงระยะเวลาหนึ่งปีของการดำเนินกิจการ สามารถขยายสาขาได้ถึง 5 สาขา ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อดำเนินงานบริหารไปได้สักระยะหนึ่ง อีกทั้งยังพบทั้งโอกาส พร้อมทั้งพบปัญหาในการดำเนินงานบริหารงานแบบระบบหุ้นส่วน จึงเก็บประสบการณ์ไว้ พร้อมถอนตัวเพื่อเปิดกิจการคลินิกเสริมความงามเป็นของตนเอง นำมาซึ่งการเปิด ออเธนทิค คลินิกเวชกรรม ในปัจจุบัน
ช่วงเริ่มต้นเป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีศึกษาการตลาดจากที่ไหนบ้าง อย่างไร?
จากที่มีความสนใจในเรื่องเวชกรรมความงามเป็นทุนเดิม รวมถึงติดตามข่าวสาร การลงทุน เศรษฐกิจ เรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงธุรกิจ ติดตามความเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ปัจจุบัน จึงได้ทราบว่าธุรกิจที่กำลังมาแรง และมีมาร์เกตแชร์ในธุรกิจค่อนข้างสูง คือ ธุรกิจคลินิกความงาม มีมูลค่ารวมประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตของผู้บริโภคอยู่ที่ 95% โดยมีคลินิกระดับแมสครองส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 50% และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อปีสูงถึงร้อยละ 15-20% ตามความต้องการของตลาดความงามที่เพิ่มมากขึ้นสวนทางกับเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัวลง “ออเธนทิค คลินิกเวชกรรม” เป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง ซึ่งเปิดตัวแค่ 2 ปี ก็สามารถขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ถึง 6 สาขา เปิดกลยุทธ์บุกตลาดต่อเนื่อง ใช้กลยุทธ์แบบ “ลองเทลมาร์เก็ตติ้ง” จับตลาดทุกกลุ่ม โดยเน้นช่องทางการตลาดแบบออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง
ออเธนทิค แจ้งวัฒนะ สาขาแรก ประสบความสำเร็จเกินคาด?
เมื่อถอนตัวเพื่อเปิดกิจการคลินิกเสริมความงามเป็นของตนเอง จึงมองหาทำเลที่ตั้งในการเปิดคลินิกความงามทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล แต่เห็นว่าค่าเช่าที่ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างแพงเกินไป ประกอบกับมีคู่แข่งรายใหญ่อยู่แล้ว จึงหันไปเลือกเปิดที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าอยู่แล้ว สามารถเดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ จึงได้ทำเลที่ตั้งของ ออเธนทิค คลินิกเวชกรรม สาขาแรก คือสาขาแจ้งวัฒนะ ใกล้เมืองทองธานี โดยแหวกตลาด ด้วยการผสานการเจาะตลาดที่เน้นการรักษาที่เห็นผลและบริการที่ดีใจคนไข้ ด้วยคอนเซปต์ เปิดคลินิกความงาม จับกลุ่มแมส ตั้งราคาเข้าถึงได้
เลือกเลย “โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค” การตลาดยุคดิจิตอล
แนวโน้มการใช้โซเชียลมีเดียในเมืองไทยเพื่อการสื่อสารการตลาดในธุรกิจคลินิกเสริมความงามมีมากขึ้น และถือเป็นเครื่องมือสำคัญ นอกเหนือจากการตลาดแบบดั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณานอกบ้านสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ โซเชียลมีเดียจึงถูกนำมาใช้งานในรูปแบบการสื่อสารจากทางคลินิกกับผู้บริโภคหรือคนไข้ของคลินิกได้โดยตรง ซึ่งผู้บริโภคก็สามารถเข้าถึงและติดต่อสื่อสารกับเราได้สะดวกและรวดเร็ว จากอุปกรณ์การสื่อสารที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรเราสามารถเข้ามาแบ่งปันความรู้ ข้อมูล ข่าวสารการให้บริการดูแลรักษา โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้แก่ผู้บริโภค และคนไข้ของคลินิกได้อย่างอิสระ และสามารถตั้งคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับการรักษา การให้บริการต่าง ๆ โต้ตอบแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างทันทีทันใด ทำให้การสื่อสารเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโปรโมท หรือการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบการใช้สื่ออื่นๆ การทำการตลาดบนสังคมออนไลน์ เป็นตัวช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของคลินิก ขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นในการจัดอันดับของ Google (SEO) มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการใช้บริการเสริมความงาม ค้นหาชื่อคลินิก หรือบริการต่าง ๆ ของคลินิกเจอได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วขึ้น ข้อดีของการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย รวดเร็วทันใจ และบริการได้ตลอด 20 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความพอใจสูงสุด และบอกต่อในกลุ่มผู้ใช้บริการกันเอง
เปิดแค่สองปี ขยายรวดเร็วหกสาขา ทำได้อย่างไร?
การทำตลาดผ่านสื่อสังออนไลน์ อย่างโซเซียลมีเดีย มีการโต้ตอบกับคนไข้ตลอดเวลา ทำให้เราได้รู้ถึงความต้องการ รวมถึงกระแสเรียกร้องของผู้บริโภค ที่ต้องการในส่วนของการขยายสาขาเพิ่มากขึ้น เพื่อย่นระยะเวลาการเดินทาง จึงเป็นที่มาของการขยายสาขาตามจุดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์แบบ “ลองเทลมาร์เก็ตติ้ง” จับตลาดทุกกลุ่ม ขยายเพิ่มจำนวนสาขา และแตกเซกเมนท์ไปสู่ช่องทางบริการความงามอื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น
คีย์ซัคเซส ไม่หยุดนิ่งในการหาข้อมูล
แนวคิดหลักในการดำเนินงาน จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความจริงใจต่อการบริการให้กับลูกค้า ต่อ กิจการของตนเอง และต่อบุคลากรขององค์กร ตนเอง การสื่อสารการตลาดต่างๆ ต้องตอบ คำถาม และความต้องการของลูกค้าด้วยความจริงใจ ตรงไปตรงมา ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจ และเกิดความเชื่อมั่นในการบริการ การดำเนินงานให้มีคุณภาพนั้น ในความคิดของตน จะต้องก้าวพ้นจากคำว่า "นักธุรกิจ" สู่คำว่า "ผู้บริหาร" ให้ได้ เพราะนักธุรกิจ คือ คนที่ทำได้ทุกอย่าง ขายเก่ง วางแผนเก่ง แก้ปัญหาได้หมด แต่สำหรับคนที่เป็นผู้บริหารจะเป็นคนที่สามารถสร้างนักขายที่เก่ง สร้างนักวางแผนที่เก่ง และสร้างคนมาแก้ปัญหาต่างๆ ได้ รวมทั้งใช้คนให้เป็น ใช้ คนให้ถูกที่ ซึ่งจริงๆ แล้วการจัดวางคนให้ถูกกับงานเป็นเรื่อง ที่ไม่ง่ายนัก ต้องเปิดใจตนเอง และเชื่อมั่น พร้อมให้โอกาส พนักงานสามารถดำเนินงานบริหารตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบ หมายได้ตามความสามารถของตัวพนักงานเอง วิธีการจัดการบริหารพนักงานจะเป็นระบบครอบครัว ไม่มีคำว่าลูกน้อง ทุกคนคือผู้ร่วมทีมที่จะนำพาทีมไปสู่จุดหมายที่วางไว้ร่วมกัน ส่วนตัวเองมีหน้าที่เพียงบอกว่าใครจะต้องทำงานส่วนไหนแค่นั้น และหากมีปัญหาก็จะต้องเข้า ไปช่วยแก้ไข โดยไม่ปล่อยให้พนักงานทำงานอย่างเดียวดาย ไร้แนวทางในการดำเนินงาน แก้ปัญหา หรือการตัดสินใจต่างๆ โดยจะสรรหาความรู้ใหม่ๆ มาเพิ่มเติมให้กับพนักงาน อยู่ตลอดเวลา เพื่อความไม่หยุดนิ่งขององค์กร และเป็นการพัฒนากระบวนการตัดสินใจ การใช้เทคโนโลยี และความคิดแบบบูรณาการของพนักงานอยู่เสมอ
ที่มาแคมเปญยอดกระฉูด “สวยไม่อั้น-บุพเฟ่ต์”
“ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม” เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่เจาะกลุ่มแมส ซึ่งเปิดตัวแค่ปีกว่าๆ แต่สามารถขยายสาขาอย่างรวดเร็ว เปิดกลยุทธ์ต้นปี 2558 บุกต่อเนื่อง ใช้กลยุทธ์แบบ “ลองเทลมาร์เก็ตติ้ง” จับตลาดทุกกลุ่ม เสริมการบริการเสริมความงามแบบบุฟเฟ่ต์ ก่อนที่จะมาเป็นแคมเปญนี้ ทีมงานได้มีการหาข้อมูล รวมถึงเทรนด์การตลาดไปพร้อมกัน สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้จะมุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม และการเพิ่มลูกค้าใหม่ให้เข้ามาใช้บริการด้วยการเพิ่มแคมเปญโปรโมชั่น “แต่งเสริมเติมสวยแบบบุฟเฟ่ต์” เพื่อเรียกกระแสดึงดูดความสนใจให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีกำลังซื้อไม่สูงมากนักได้รู้สึกว่าคุ้มค่าอย่างสูงสุดกับบริการ และประหยัดงบประมาณกับจำนวนครั้งในการรับบริการแบบไม่มีขีดจำกัดเพื่อสร้างระบบตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น พร้อมระบบการผ่อนชำระค่าบริการหลากหลายรูปแบบทั้งเงินสด บัตรเครดิต เป็นการมิกซ์โปรโมชั่นทางการตลาดหลายๆ รูปแบบเข้าด้วยกัน
ตอกย้ำทุกธุรกิจมีช่องว่าง คลินิกความงามเมืองไทยก็เหมือนกัน
ปัจจุบันตลาดคลินิกความงาม มีมูลค่ารวมประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท มีคลินิกระดับแมส ครองส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อปีสูงถึงร้อยละ 15-20 ตามความต้องการของตลาดความงามที่เพิ่มมากขึ้นสวนทางกับเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัวลง “ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม” เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่เจาะกลุ่มแมส จับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงระดับพรีเมี่ยม ตั้งราคาที่ไม่สูงเกินไป โดยแผนการรุกตลาดคลินิกเวชกรรมความงามในปี 2558 เน้นกลยุทธ์การเปิดขยายเพิ่มจำนวนสาขา และแตกเซกเมนท์ไปสู่ช่องทางบริการความงามอื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น
วิสัยทัศน์ต่อไป คลินิกขนาดกลาง ฟันธงรุ่ง
สำหรับเคล็ดลับความสำเร็จในการประกอบธุรกิจนั้น หากจะทำธุรกิจให้โตเร็ว ก็ต้องทำกำไรให้ได้มาเร็วเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ต้องตั้งราคาให้แพง แต่ต้องมามองภาพรวมว่าผลกำไรที่ได้รับกลับมานั้นเร็วแค่ไหน และมีบุคลากรเพียงพอในการให้บริการ มีข้อมูลความรู้ของบริการเพียงพอแล้วหรือไม่ เราได้ให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าเก่าให้มากที่สุด และสรรหาช่องทางการตลาดเพิ่มฐานลูกค้าใหม่อยู่เสมอ และเมื่อเรามาถึงจุดที่เราสามารถเป็นผู้ให้กับสังคมได้ เราจึงมองหลักความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจควบคู่กันไปด้วย โดยใช้หลัก Corporate Social Responsibility (CSR) โดยเริ่มจากการแบ่งปันสู่สังคม และบริจาคเงินตามหน่วยงานต่างๆ อย่างเช่น บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยพิการทางสมอง บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนงานการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นสตรี เป็นต้น และมีการวางแผนการดำเนินงานเพื่อตอบแทนสังคนอย่างต่อเนื่อง
“เซอร์ไพรส์” ไม้เด็ดเฟสบุ๊ค สร้างยอดจำนวนแฟนเพจกระฉ่อน
ออเธนทิคคลินิกที่เน้นกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ผ่านการสื่อสารหลายรูปแบบเพื่อใหบรรลุเป้าหมายทางการตลาด ที่ผ่านมากลยุทธ์การสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของคลินิกอย่างต่อเนื่อง ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าผู้รักสวยรักงามทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่อย่างล้นหลาม ซึ่งออเธนทิคคลินิกเปิดให้บริการได้เพียง 2 ปี ถือว่าใช้เวลาไม่นานก็สามารถขยายได้ถึง 6 สาขา มีจำนวนแฟนเพจเกือบ 5 แสนราย โดยเราเน้นแบ่งปันความรู้ ข้อมูล ข่าวสารการให้บริการ การรักษา และโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้แก่คนไข้ของคลินิก ผ่านเฟสบุคแฟนเพจ คนไข้สามารถตั้งคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับการรักษา ราคา การให้บริการต่างๆ โต้ตอบแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างทันทีทันแบบอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งเรามีทีมงานที่มีความรู้เกี่ยวกับคลินิกเวชกรรมดูแลทุกวันตลอด 24 ชม. ทำให้การสื่อสารเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโปรโมท รวมถึงการประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่ออื่นๆ
เป้าหมายของ ออเธนทิค คลินิก แล้วไปไหนต่อ อย่างไร
สำหรับเป้าหมายการเติบโตของออเธนทิคคลินิกในปีนี้ จะเน้นการลงทุนด้านเครื่องมือ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเสริมบริการ มูลค่า 40-50 ล้านบาท ปัจจุบันออเธนทิคเปิดบริการ 6 สาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฐานลูกค้าประมาณ 3 หมื่นราย และมีลูกค้าต่างชาติใช้บริการราว 10% เราตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างรายได้การเติบโตได้ที่ 50% ขึ้นไป จากปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโต 20-30% โดยมูลค่าตลาดของธุรกิจคลินิกเสริมความงามโดยรวมในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2-3หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตของผู้บริโภคอยู่ที่ 95% โดยในปี 2558 นี้ ธุรกิจคลินิกมีการแข่งขันอย่างรุนแรง เพราะจะมีคลินิกเสริมความงามแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง” สื่อให้เห็นว่า “ความสวย-ความหล่อ” เป็นเรื่องจำเป็นต่อการเปลี่ยนชีวิตของคนไทย