กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
ปอร์เช่ได้ทำการแนะนำอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างพิถีพิถันให้กับ คาเยนน์ (Cayenne), มาคันน์ (Macan) และพานาเมร่า (Panamera) นั่นคือ ระบบให้ความบันเทิงภายในห้องโดยสารทางด้านหลังหรือ Rear Seat Entertainment system สำหรับรถสปอร์ต 4 ประตู รวมถึงระบบท่อไอเสียสปอร์ต (Sports exhaust system) สำหรับรุ่นมาคันน์ เอส ดีเซล (Macan S Diesel) รวมถึงล้อลาย Sport Classic wheel ที่มาพร้อมกับตัวขยายซุ้มล้อสำหรับติดตั้งกับรุ่นคาเยนน์ (Cayenne) ไม่เพียงเท่านี้ระบบการสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM) ยังได้รับการเลือกติดตั้งให้กับรุ่นพานาเมร่า เอส (Panamera S), รุ่นพานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4S) และพานาเมร่า จีทีเอส (Panamera GTS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มาพร้อมกับรถอีกด้วย
ระบบให้ความบันเทิงภายในห้องโดยสารทางด้านหลังหรือ Porsche Rear Seat Entertainment system เปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการพร้อมกับรุ่นพานาเมร่า เทอร์โบ เอส เอ็กซ์คลูซีฟ ซีรี่ย์ (Panamera Turbo S Exclusive Series) ซึ่งเป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น และเป็นระบบที่ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นพิเศษนี้ โดยท่านสามารถเลือกติดตั้งกับพานาเมร่า (Panamera) รุ่นอื่น หรือคาเยนน์ (Caynnne) และมาคันน์ (Macan) ได้แล้ว ชิ้นส่วนหลักของระบบให้ความบันเทิงสำหรับห้องโดยสารทางด้านหลังหรือ Porsche Rear Seat Entertainment system มาพร้อมกับหน้าจอ 2 จอที่มีความละเอียดสูง ขนาด 10.1 นิ้ว แสดงผลแบบสีและมีความละเอียดของภาพที่ 1,280 x 800 พิกเซล ติดตั้งอยู่ตรงด้านหลังบริเวณที่พักศรีษะของเบาะหน้านั่นเอง
ไม่เพียงเท่านี้ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงเครื่องเล่น DVD, ช่องเสียบ USB 2 ช่อง, ช่องเสียบการ์ด SD และช่อง HDMI ที่จะทำให้ท่านสามารถเชื่อมต่อกับวีดีโอเกมส์ภายนอกได้ ทั้ง 2 หน้าจอสามารถเชื่อมต่อแบบ Video Telephony ได้อีกด้วย และยังรองรับระบบเสียงหลายระบบรวมถึงวีดีโอในรูปแบบต่างๆ ฟังก์ชั่น WiFi Crosslink Streaming function จะช่วยให้วีดีโอสามารถแสดงผลผ่านหน้าจอทั้ง 2 ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน WiFi ส่วนเสียงจะถูกส่งผ่านโดยการเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับหูฟังแบบไร้สายทั้ง 2 อัน ซึ่งได้รับการติดตั้งมาเป็นระบบมาตรฐานให้กับรถ ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้ระบบให้ความบันเทิง Porsche Rear Seat Entertainment package แบบเวอร์ชั่น Plus ได้ ซึ่งมาพร้อมกับความจุ 32 GB เพื่อเก็บรักษาไฟล์ต่างๆ ได้มากขึ้น
การใช้งานอินเตอร์เน็ตผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อสู่โลกอินเตอร์เน็ตผ่านทางมือถือและผ่าน App ต่างๆ ทำให้ผู้โดยสารสามารถส่งและรับอีเมลล์ขณะขับรถอยู่บนท้องถนน และยังสามารถดาวน์โหลดหรือเก็บ Apps อื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น เช่น เกมส์ หรือ Apps เกี่ยวกับวีดีโอต่างๆ จากแหล่งออนไลน์ได้ การใช้งานอินเตอร์เน็ตสามารถทำได้ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายหรือผ่านโทรศัพท์มือถือ Smartphone และ Tablet โดยทำการตั้งค่าให้เป็นตัวกระจายสัญญาณหรือ WiFi hotspot ได้เช่นกัน และโทรศัพท์มือถือ Smartphone สามารถเรียกใช้งานเป็นอุปกรณ์สั่งการผ่าน App หรือรีโมทคอนโทรล เพื่อใช้งานกับระบบให้ความบันเทิง Porsche Rear Seat Entertainment system ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งระบบที่ต้องพูดถึงคือท่อไอเสียสปอร์ต (Sports exhaust system) ที่สามารถเลือกติดตั้งเป็นระบบเสริมสำหรับรุ่นมาคันน์ เอส ดีเซล (Macan S Diesel) โดยระบบนี้จะให้เสียงที่ทรงพลัง ดุดัน และไพเราะเสนาะหู ให้อารมณ์ในการขับขี่ที่สุนทรีย์มากยิ่งขึ้น ต้องยกความดีให้กับการปรับเปลี่ยนตัว Silencer ทางด้านหลังของรถที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ระบบจะมาพร้อมกับ Porsche Rear Seat Entertainment system ซึ่งมีให้เลือกทังสีดำหรือสีเงิน และระบบท่อไอเสียสปอร์ต (Sports exhaust system) จะใช้งานผ่านปุ่มบนแผงหน้าปัดหรือบนคอนโซลกลางได้ ซึ่งสะดวกต่อการเรียกใช้งานเป็นอย่างยิ่ง
ล้อลาย Sport Classic แบบ 5 ก้านลายใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับการขยายซุ้มล้อให้กว้างขึ้นคืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้กับคาเยนน์ (Cayenne) เป็นอย่างยิ่ง ขนาดของล้ออยู่ที่ 10 J x 21 ET 50 (เพลาหน้าและเพลาหลัง) มาพร้อมกับยางที่มีขนาดที่ 295/35 ZR 21 สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 เป็นต้นไป และเลือกพ่นให้เป็นสีเงิน GT silver metallic , Platinum (silk gloss) หรือสีดำแบบ high-gloss ได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2015 เป็นต้นไปซึ่งสามารถเลือกพ่นสีแบบสีเดียวกับตัวรถได้ด้วยเช่นกัน
ปอร์เช่รุ่นคาเยนน์ (Cayenne 2014): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 11.5-7.2 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.70-13.88 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 270-189 กรัม/กิโลเมตร;
ปอร์เช่มาคันน์ (Macan): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 9.2–6.1ลิตร/100กิโลเมตร; (10.86-16.40 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 216–159 กรัม/กิโลเมตร;
ปอร์เช่พานาเมร่า (Panamera): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 10.7–6.4 ลิตร/100กิโลเมตร; (9.34-15.62 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 249–169 กรัม/กิโลเมตร;
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง(Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th