กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 3 เมษายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.10-1,201.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,560 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,610 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.56 น.ของวันที่ 03/04/15)
แนวโน้มวันที่ 7 เมษายน 2558
แนวโน้มทิศทางสกุลเงินยูโรอาจจะดิ่งลงต่อไปอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า หลังจากสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 4% ในไตรมาส 4/2014 และปัจจัยนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สัดส่วนของยูโรลดลงในทุนสำรอง ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รายงานว่าสัดส่วนของยูโรในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศร่วงลงสู่ 22.2% จาก 22.6% ในไตรมาส 3/2014 ขณะที่ สัดส่วนของดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ 62.9% ในไตรมาส 4 จาก 62.4% ในไตรมาส 3 ซึ่งจะส่งผลลบต่อค่าเงินยูโร และ ฉุดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตาม อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้รับแรงหนุนจาก ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินลงต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินจีนดิ่งลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลด RRR ลงอีกครั้งในเดือนเมษายน และ ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม หรือ มิถุนายน ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้สร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลง โดยรัฐบาลจีนเพิ่งประกาศว่ารัฐบาลจะลดหย่อนภาษีและจะปรับลดเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่สอง ขณะที่ ธนาคารกลางจีนเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยทางการลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% สู่ 19.5% ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นี้ด้วย เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านแรกได้ นักลงทุนอาจรอการอ่อนตัวลงของราคาค่อนเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น และแนะนำให้ติดตามทิศทางเศรษฐกิจเพื่อประกอบกการตัดสินใจลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนจับตาบริเวณ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนได้จะเกิดแรงซื้อที่ดันราคาให้ดีดตัวขึ้นไป อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อราคามีการปรับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน ทั้งนี้ ระยะสั้นราคาทองคำยังมีแนวโน้มสร้างฐานราคา ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านโซน 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไร โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณดังกล่าว
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,180 (18,120บาท) 1,165 (17,890บาท) 1,150 (17,650บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,690บาท) 1,225 (18,810บาท) 1,237 (19,000บาท)
GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ 1,180 (18,240บาท) 1,165 (18,010บาท) 1,150 (17,780บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,810บาท) 1,225 (18,930บาท) 1,237 (19,120บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148