นอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็ม รับอลิตาเลียเข้าเป็นพันธมิตรรายใหม่

ข่าวทั่วไป Wednesday May 12, 1999 13:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--12 พ.ค.--สายการบินนอร์ธเวสต์
สายการบินนอร์ธเวสต์ อลิตาเลีย อิตาเลียน แอร์ไลนส์ และ เคแอลเอ็ม รอยัล ดัทช์ แอร์ไลนส์ ประกาศในวันนี้ว่า สายการบินอลิตาเลียจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับนอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็มในฝั่งแอตแลนติก โดยสายการบินทั้งสามลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าและการร่วมเป็นพันธมิตรซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์ก
ดัก สตีนแลนด์ รองประธานบริหารสายการบินนอร์ธเวสต์กล่าวว่า "ข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นข่าวดีสำหรับนักเดินทางทั้งหลาย เพราะจากเดิมที่ความร่วมมือระหว่างนอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็มได้ก่อให้เกิดการบริการที่หลากหลายในราคาที่ถูกลงแล้ว จากนี้ไปเรายังจะสามารถขยายขอบเขตการบริการดังกล่าวไปยังพื้นที่การให้บริการของพันธมิตรรายใหม่ของเราได้อีกด้วย"
"เคแอลเอ็มและนอร์ธเวสต์ได้ร่วมกันพัฒนาการเป็นพันธมิตรทางการบินแบบที่ก้าวหน้าและลึกซึ้งที่สุดในวงการอุตสาหกรรมการบิน เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อพัฒนาให้การเป็นพันธมิตรดังกล่าวยืนอยู่ในแถวหน้า ซึ่งก่อให้เกิดผลดีมากทั้งสำหรับลูกค้า และทั้งสองบริษัท ทั้งนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2535 เราได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกขึ้นถึงร้อยละ 87 และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อลิตาเลียจะมาร่วมกับเรา เพื่อให้การบริการดังกล่าวเติบโตและพัฒนายิ่งขึ้นต่อไป" เอ บี แวน เลิค รองประธานบริหารแผนกผู้โดยสาร สายการบินเคแอลเอ็ม กล่าว
"เราเชื่อว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างนอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็มนับเป็นรูปแบบความร่วมมือทางการค้าที่ก้าวหน้าที่สุดในวงการอุตสาหกรรมการบินโลก ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรดังกล่าวด้วยเช่นกัน" มาริโอ รอสโซ รองประธานบริหารฝ่ายกลยุทธ์และพันธมิตร สายการบินอลิตาเลีย กล่าว - มีต่อ -
นอร์ธเวสต์ เคแอลเอ็ม และอลิตาเลีย จะร่วมกันยื่นคำร้องต่อกรมการขนส่งสหรัฐว่าการเป็นพันธมิตรดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นการผูกขาดและการกีดกันทางการค้าตามกฎหมายของสหรัฐ ซึ่งกรมการขนส่งสหรัฐฯ เคยอนุมัติคำร้องในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วเมื่อครั้งการประกาศความร่วมมือระหว่างนอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็มในปีพ.ศ. 2536 การอนุมัติคำร้องนี้จะทำให้อลิตาเลีย นอร์ธเวสต์ และเคแอลเอ็ม ร่วมเป็นเครือข่ายเดียวกันในเส้นทางข้ามแอตแลนติก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงาน รวมทั้งช่วยให้สามสายการบินมีความสามารถในการให้บริการแก่ผู้โดยสารทั่วโลกได้อย่างราบรื่นไร้ขอบเขตจำกัด
ทั้งสามสายการบินได้ยื่นขออนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องดังต่อไปนี้* การใช้รหัสเที่ยวบินร่วม* การใช้โปรแกรมสะสมไมล์ร่วมกัน * การเข้าใช้ห้องพักรับรองผู้โดยสารที่สนามบินร่วมกัน* การให้บริการต่อเครื่องแก่ผู้โดยสาร* ความร่วมมือในตารางบินที่ศูนย์กลางการบินและเมืองท่าในสหรัฐและอิตาลี* การวางแผนเส้นทางบินและตารางการบินร่วมกันทั่วทั้งเครือข่ายระดับโลก* การบริหารจัดการราคาและการบัญชี* การร่วมกันก่อตั้งและบริหารการตลาด การโฆษณา การขาย และการกระจายเครือข่าย พนักงาน โครงการต่างๆ นโยบายและระบบ เช่น จัดตั้งสำนักงานขายร่วมกัน และร่วมกันประมูลสัญญาของรัฐบาลและองค์กรต่างๆ* ร่วมกันออกแบบและพัฒนาระบบข้อมูล ได้แก่ การจัดการด้านการบัญชี สนามบิน การสำรองที่นั่ง การออกตั๋ว การจัดจำหน่าย และการดำเนินการด้านอื่นๆ* สร้างและดำเนินงานการให้บริการขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ร่วมกัน เช่น การพัฒนาบริการขนส่งสินค้า และการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและศูนย์คาร์โก้ร่วมกัน* การใช้สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ที่สนามบินร่วมกัน ไม่ว่าจะดำเนินการโดยพันธมิตรรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายก็ตาม* การจัดหาสินค้าและบริการ เช่น บริการจัดการภาคพื้นดินและสถานี สินค้าและบริการทั่วๆ ไป สิ่งอำนวยความสะดวกที่ลานบินและสถานี อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องแบบสำหรับลูกเรือ ผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เชื้อเพลิงและการบำรุงรักษา
สายการบินทั้งสามคาดว่า จะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าวตามคำร้อง ที่ได้ยื่นขออนุมัติต่อกรมการขนส่งของสหรัฐฯ ให้พันธมิตรดังกล่าวไม่เป็นการผูกขาดหรือการกีดกันทางการค้า
ผลประโยชน์ที่ผู้โดยสารส่วนรวมจะได้รับจากการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ซึ่งทำการวิจัยโดย นักเศรษฐศาสตร์สองคนคือ ศาสตราจารย์ แจน เค. บรูเอ็คเนอร์ และดับเบิ้ลยู ทอม เวลเลน นักศึกษาระดับปริญญาเอก แห่ง ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ อิลลินอยส์ (เออร์บานา-แชมเปญ) เพื่อตรวจสอบผลประโยชน์ของการเป็นพันธมิตรนานาชาติที่มีต่อผู้โดยสารส่วนรวม พบว่า ผู้โดยสารระหว่างประเทศที่บินกับสายการบินสองสาย จะจ่ายค่าโดยสารในราคาที่ถูกลงเมื่อสายการบินทั้งสองเป็นพันธมิตรกัน โดยค่าโดยสารระหว่างประเทศที่เรียกเก็บโดยสายการบินที่ไม่เป็นพันธมิตรจะสูงกว่าสายการบินที่เป็นพันธมิตรโดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 36 ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ บรูเอ็คเนอร์ และ เวลเลน ได้ใช้การเป็นพันธมิตรระหว่างนอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็มเป็นกรณีศึกษา โดยสรุปว่า ถ้าหากปราศจากการเป็นพันธมิตรระหว่างนอร์ธเวสต์และเคแอลเอ็ม ผู้บริโภคจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางทางอากาศประจำปีเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 111 ถึงมากกว่า 185 ล้านเหรียญสหรัฐ
สายการบินนอร์ธเวสต์ ร่วมกับสายการบินอลิตาเลีย สายการบินเคแอลเอ็ม สายการบินคอนติเนนตัล และพันธมิตรรายอื่นๆ ทั่วโลก ให้บริการสู่เมืองต่างๆ กว่า 500 แห่ง ในเกือบ 100 ประเทศทั่วโลก
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์สายการบินนอร์ธเวสต์ อุดมลักษณ์ โอฬาร หรือรวิษฎา อังคีรส บริษัท เพรสโก้ แชนด์วิค โทร. 257-0300--จบ--

แท็ก นิวยอร์ก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ