กรุงเทพฯ--8 เม.ย.--กระทรวงพลังงาน
ก.พลังงาน แนะประชาชนตรวจสอบค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในช่วงหน้าร้อน ชี้หากพบรายจ่ายค่าพลังงานต่อเดือน เกินกว่า 20% ของรายได้ แนะให้รีบปรับพฤติกรรมด่วน ชวนลงทุนในอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่จะสามารถช่วยประหยัดพลังงานจริง พร้อมหมั่นบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน และตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกล
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังมาถึง ซึ่งจะมีวันหยุดพักผ่อนยาว กระทรวงพลังงานอยากเสนอ “ดัชนี-เตือนตัวเอง” พร้อมแนะนำให้ประชาชนได้มีโอกาสทบทวนเรื่องค่าใช้จ่ายพลังงานประจำเดือน ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเฉลี่ยของทั้งประเทศ มีมูลค่าประมาณ 18 - 20% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product -GDP)
ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงขอให้ประชาชน หมั่นตรวจสอบ บิลค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน รวมทั้งแนะนำให้เก็บใบเสร็จค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม เพราะเมื่อนำมารวมกันจะได้ค่าใช้จ่ายค่าพลังงานที่สามารถตรวจสอบได้ในแต่ละเดือน โดยหากพบว่า รายจ่ายค่าพลังงานรวมในแต่ละเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศหรือสูงกว่าประมาณ 20% ก็จะทำให้เกิดรายจ่ายที่สูงเกินความจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น หากมีเงินเดือน 10,000 บาท แต่หากต้องมีรายจ่ายค่าพลังงานสูงถึงร้อยละ 20 หรือมากถึง 2,000 บาทต่อเดือนนั้น ก็ถือว่าเป็นรายจ่ายด้านพลังงานที่สูงเกินค่าเฉลี่ยของประเทศ ควรจะต้องเร่งรัดให้มาตรการประหยัดพลังงานโดยเร็ว
โดยเบื้องต้น กระทรวงพลังงานขอแนะว่าหากประชาชนผู้ใดมีดัชนีค่าใช้จ่ายพลังงานเกินกว่า 20% ควรเร่งรัดปรับพฤติกรรมให้หันมาเน้นประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้า ในช่วงที่อากาศร้อนจัด ได้แก่ การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ให้เป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศ หากต้องการติดตั้งใหม่ก่อนซื้อขอให้ประชาชนสังเกตสัญลักษณ์ฉลากเบอร์ 5 ที่ผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งในส่วนของเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 นั้น นอกจากจะมีเทคโนโลยีที่สูงกว่าแล้ว อุปกรณ์สำคัญภายในเช่น คอมเพรสเซอร์จะทำงานได้เสถียรกว่า ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานตลอดเวลาจนกินไฟฟ้าสูงเมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่า เป็นต้น
นอกจากนี้ในส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น อุปกรณ์ประหยัดพลังงานเบอร์ 5ทุกชนิดจำเป็นต้องผ่านมาตรฐานการประหยัดพลังงานยกตัวอย่าง เช่น พัดลมก็จะมีมอเตอร์ที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงกว่า ตู้เย็นก็จะมีคอมเพรสเซอร์ที่ทำงานได้เสถียรยิ่งขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้ตัว เช่น โทรทัศน์ กาต้มน้ำ หม้อหุงข้าว เตารีด ก็จะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และช่วยลดค่าไฟฟ้าได้เช่นกัน
“ในช่วงหน้าร้อนนี้ นอกจากการรณรงค์ลดใช้พลังงานที่กระทรวงพลังงานได้เร่งรัดประชาสัมพันธ์แล้ว ได้แก่ การปรับพฤติกรรม “1 ล. 5 ป.” คือ การล้างแอร์ ปรับอุณหภูมิแอร์ ปิดสวิตซ์ไฟที่ไม่ใช้ เปลี่ยนหลอดประหยัดพลังงาน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า และปรับจูนเครื่องยนต์ กระทรวงพลังงานอยากจะเสนอข้อแนะนำหากประชาชนต้องการซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ขอให้สังเกตอุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดพลังงาน เบอร์ 5 เพราะนอกจากจะได้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย” นายทวารัฐกล่าว