กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) สร้างสรรค์ละครเวทีแห่งความภาคภูมิใจระดับชาติ อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์แห่งเอกราช ที่คนไทยอาจไม่เคยรู้ ....“รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล” สืบเอกราชสยาม ฟื้นตำนานคีตชน โดยมีจุดมุ่งหมาย เทิดพระเกียรติในวาระโอกาสครบรอบ ๖๐ พรรษา องค์อุปถัมภ์ศิลปวัฒนธรรมไทย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกทั้งเพื่อให้ผู้ที่ได้ชมละครเรื่องดังกล่าว เกิดความรู้สึกรัก หวงแหน และภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ จัดงานแถลงข่าว เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ที่ผ่านมา ณ อินเด็กซ์ สตูดิโอ ชั้น ๕
โดยมีคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาละครเวที รอยดุริยางค์ เดอะมิวสิคัล, ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม, คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน), คุณเอี่ยมศรี บุญหชัยรัตน์ กรรมการอำนวยการ บ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ต้อ มารุต สาโรวาท ผู้กำกับชื่อดัง พร้อมทีมนักแสดงนำโดย แบงค์ แคลช, โบว์ สาวิตรี(AF), นัททิว(AF), เก่งThe voice และ แอน นันทนา บุญหลง และ รองศาสตราจารย์ พงศ์ศิลป์ อรุณรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีไทย ร่วมสร้างสีสันในงาน
โดยเนื้อเรื่องบางส่วน ได้อ้างอิงจากเกร็ดประวัติศาสตร์ในการหวนคืนสู่บรรยากาศ ณ กาลก่อนเมื่อ ๑๓๐ ปีที่ผ่านมา ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ในปีพุทธศักราช ๒๔๒๗ (ค.ศ. ๑๘๘๔) เมื่อนักดนตรีไทยส่วนใหญ่เป็นครูเพลงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้นรวม ๑๙ คน เดินทางไปเล่นดนตรีไทยที่ประเทศอังกฤษ ซึ่ง ณ เวลานั้น อังกฤษ คือประเทศมหาอำนาจของโลก ที่มีดินแดนภายใต้การปกครองอื่นๆ กระจายอยู่ไปทั่วโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน (The sun never set in the British Empire)”
โดยนักดนตรีไทยทั้ง ๑๙ คนนั้นได้รับการสนับสนุนจาก สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ วงศ์วรเดช หรือ สมเด็จวังบูรพาเป็นผู้ส่งไป เนื่องจากถูกเชิญโดยรัฐบาลอังกฤษเพื่อให้ไปแสดงในงานมหกรรมแสดงสินค้าและดนตรีนานาชาติ ในปีพ.ศ.๒๔๒๗-๒๘ ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยคือ วัฒนธรรมค้ำเอกราช หรือการประกาศเอกราชแห่งอารยะสยามประเทศ ด้Œวยศาสตราวุธของนักดนตรีทั้ง ๑๙ คนได้แสดงฝีมือทางดนตรีไทยต่อหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระราชินีนาถ วิคตอเรีย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ชาติมหาอำนาจของโลกเห็นถึงความมีอารยะและศิวิไลซ์ของสยามประเทศ จนอังกฤษมิอาจใช้เป็นข้ออ้างในการยึดครองเป็นเมืองขึ้นได้
ในงานผู้กำกับ ต้อ มารุต สาโรวาท กล่าวว่า “..อยากทำอะไรให้คนรุ่นใหม่มีส่วนเกี่ยวพัน และรู้สึกว่าเป็นสมบัติของตัวเองจึงทำเรื่องย้อนยุค โดยมีการสืบค้นทางประวัติศาสตร์ และพบเรื่องนักดนตรีไทย ๑๙ คนเดินทางรอมแรมไปแสดงดนตรีไทยต่อหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระราชินีนาถ วิคตอเรีย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรื่องนี้จึงต้องถูกทำเป็นเรื่องใหญ่ ที่สามารถเผยแพร่ให้ทั่วโลกเห็นถึงศักยภาพของศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อบ่งบอกเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ซึ่งยังไม่มีใครทำมาก่อน เราจึงอยากให้เรื่องนี้อยู่ในความทรงจำของคนไทย ซึ่งจะสนุกมากๆถ้าเกิดว่ามาเล่าในยุคปัจจุบัน และย้อนกลับไปในยุคอดีตได้ เป็นลักษณะแฟนตาซีที่จะทำให้เกิดความน่าตื่นตะลึงในด้านการแสดงบนเวที ในด้านเทคนิคพิเศษที่อินเด็กซ์ฯจะพาคนดูย้อนกลับไปได้ เปลี่ยนทั้งหมดตั้งแต่เหตุการณ์ในปัจจุบัน ข้าวของเครื่องใช้สีสัน สำเนียง..ให้กลับไปเมื่อ ๑๓๐ ปี..ในยุคที่รุ่งเรืองของดนตรีไทย..”
ส่วน “แบงค์ แคลช” นักแสดงนำ กล่าวว่า “..วัยรุ่นบางคนอาจรู้สึกว่า..ประวัติศาตร์ไทยเป็นเรื่องที่โบราณ แต่ว่าจริงๆแล้วสอดแทรกความสำคัญด้านวัฒนธรรม ดนตรีไทย และประวัติศาสตร์ของเราไว้ ซึ่งตัวละครที่ผมเล่นคือ “เชิด” เป็นตัวละครที่เป็นแกนหลักของเรื่องที่จะเชื่อมให้ทุกคนเข้าใจ เกี่ยวกับดนตรีไทย ที่ได้รับการยอมรับจากหลายๆประเทศโดยเฉพาะอังกฤษ ชาติมหาอำนาจในยุคนั้น อย่าไปคิดว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่น่าเบื่อไม่ใช่นะครับ ผมว่าสนุก และได้สาระ ที่สำคัญคือ ผมว่าเล่นระนาดเป็นเท่ห์กว่าเล่นกีตาร์เป็น.. มันสวยงามและยิ่งใหญ่ ..ผมก็ขอฝากละครเวทีเรื่อง “รอยดุริยางค์ เดอะมิวสิคัล” ไว้ด้วยครับ..”
สำหรับ “นัททิว(AF)” กล่าวว่า “..ผมรับบทตัวละครที่ชื่อ “ไมค์” แต่จริงๆแล้วชื่อ “ไม้” ด้วยตัวละครเป็นคนอินเตอร์มีความร่วมสมัยสูง จึงชอบแอนตี้อะไรที่ค่อนข้างโบราณ โดยเฉพาะชื่อ“ไม้” มันโบรา เลยให้เพื่อนๆเรียกว่า “ไมค์”ตัวละครตัวนี้ชอบดนตรี รักดนตรี เป็นคนที่ล่าฝัน ร้องเพลงประกวดหลายเวที และมีวงดนตรีเอง วันหนึ่งมีปาฏิหาร์เกิดขึ้นในชีวิตคือ ได้ย้อนอดีตกลับไปในสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงได้พบกับคุณปู่ทวด และย่าทวด จึงเป็นโอกาสทำให้ “ไมค์” ได้ซึบซับวัฒนธรรมดนตรีไทย จนกระทั่งตอนจบ “ไมค์”ก็มีนิสัยที่เปลี่ยนไป คือรักในศิลปวัฒนธรรมดนตรีไทย และในฐานะคนไทยคนหนึ่งการที่ได้มีส่วนร่วมในละครเวทีครั้งนี้..รู้สึกเป็นเกียรติมาก เพราะจัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวาระโอกาสครบรอบ ๖๐ พรรษา ส่วนอีกมุมหนึ่งคือดีใจที่ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ หรือวันรุ่นที่ติดโซเชียล กระแสดนตรีเคป๊อป และเทรนด์ต่างๆ ทำให้ห่างหายจากวัฒนธรรมไทย และการที่ได้เล่นละครเวทีเรื่องนี้ก็เพื่อที่จะชักจูงทุกคนที่กำลังดูอยู่ว่าอย่าลืมในศิลปวัฒนธรรมไทย และดนตรีไทยว่าดียังไงนะครับ? สุดท้ายก็ของฝากถึงแฟนๆของผม หรือทุกๆคนเลยที่มีโอกาสก็อยากให้ได้มาดูละครเวทีเรื่องนี้กันเยอะๆเชื่อว่า จะเป็นละครเวทีที่สร้างแรงบันดาลใจหลายๆอย่างให้กับคนที่ได้ดูละครเวทีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องเกี่ยวกับดนตรีไทยและวัฒนธรรมไทยอย่างแน่นอน มารู้มาดูกันว่า..ครั้งหนึ่งดนตรีไทยเคยยิ่งใหญ่ขนาดไหนไปพร้อมๆกับผมนะครับ..”
“รอยดุริยางค์ เดอะมิวสิคัล” สืบเอกราชสยาม ฟื้นตำนานคีตชน สร้างสรรค์โดย บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) หลังจากได้ฝากฝีไม้ลายมือที่แตกต่างและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมละครเวที ๓ เรื่อง ๓ สไตล์ มาตั้งแต่เรื่องแรกอย่าง รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล, แม่เบี้ย ดิ อีโรติก อาร์ต มิวสิคัล และ มนตร์ดำคอมเพล็กซ์ ด้วยเทคนิคโปรดักชั่นแบบใหม่ๆในการผสมผสาน..ฉากกับระบบไลฟ์มัลติมีเดียระดับเวิลด์คลาสอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ฯ มาแล้ว
พบกับสุดยอดละครเวทีระดับชาติ “รอยดุริยางค์ เดอะมิวสิคัล” สืบเอกราชสยาม ฟื้นตำนานคีตชน เปิดการแสดงเพียง ๖ วัน เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ ๒๐-๒๕ สค. ๒๕๕๘ (จำนวน ๑๐ รอบ) บัตรราคา ๕๐๐-๒,๘๐๐ บาท ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.๐๒-๒๖๒-๓๔๕๖ หรือ www.thaiticketmajor.com
.