กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--TCELS
นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ภายใต้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) กล่าวว่า ความร้อนมีผลกับร่างกายคนเรามาก ไม่เพียงแต่เสียเหงื่อมากเท่านั้น หากแต่จะขยายกระทบไปถึงสมอง หัวใจ เส้นเลือด ความดันและส่วนอื่นด้วย คนทำงานออกแดดหรือต้องอยู่กลางแจ้งจึงน่าเห็นใจ ดังนั้นในช่วงหน้าร้อนนี้ โรคที่ควรต้องระวังและควรหมั่นเช็คอยู่ไม่ให้ขาดคือ ความดันสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ลมชัก และโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่อาจกำเริบขึ้นมาได้หากสัมผัสความร้อนจัด ซึ่งกลุ่มบุคคลที่ต้องคอยดูแลให้ดีคือ เด็กเล็ก ผู้สูงวัยคุณแม่ตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำที่อ่อนไหวต่อความร้อน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงเช่น แมว สุนัข ฯลฯ ก็ไวต่อความร้อนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีขนที่ทำให้ร่างกายยิ่งร้อนจัดจนอาจเกิดอันตรายได้
นายแพทย์กฤษดา กล่าวว่า ปัญหาในหน้าร้อนที่พบบ่อยต้องป้องกันให้ดีได้แก่ ภาวะร้อนทำพิษ ทั้งเพลียร้อน ไปจนถึงช็อคจากความร้อน อุบัติเหตุจากน้ำ ที่ห่วงมากคือจมน้ำซึ่งมักเกิดกับเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็เกิดได้ไม่ควรประมาท มีเทคนิคในทางอายุรวัฒน์ที่คนไทยเรารู้จักกันดีหลายวิธีมาฝาก มีทั้งเรื่องของกินดับร้อนและการใช้ชีวิตแบบเย็นสบายด้วย 8 วิธีง่าย ๆ คือ 1.อาบน้ำ ยามร้อนขึ้นมาต้องเข้าหาน้ำที่ระบายความร้อนออกจากผิวกายได้ ในกรณีที่โอกาสอำนวยขอให้เข้าห้องอาบน้ำเปิดน้ำราดรดตัวเบาๆ และค่อยปรับอุณหภูมิเบาๆ หากเป็นในเด็กเล็กให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดที่ศีรษะด้วยจะช่วยลดความร้อนได้ดี ในผู้ใหญ่ให้เช็ดตามเนื้อตัว ส่วนในสุนัขหรือแมวให้เช็ดที่อุ้งมือและเท้า ท่านสามารถช่วยกันให้ความสุขกับทุกชีวิตได้ด้วยมือของเราเอง 2.แป้งน้ำ หากวันไหนร้อนจัดเมื่ออาบน้ำแล้วหาแป้งน้ำหอมมาประพรมกายแล้วนั่งรับลมเย็นก็สามารถช่วยแก้ร้อนได้ดี ผู้ที่ไม่ได้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศ สามารถเอาน้ำลูบตัวแล้วใช้แป้งน้ำช่วย หรืออาจใช้น้ำอบน้ำปรุงผสมดินสอพองก็ยังได้ เพราะการทาแป้งน้ำตามตัวช่วยระบายความร้อน และยังช่วยลดผดผื่นคันได้ด้วย เพราะในแป้งน้ำระเหยช่วยให้เย็นตัว
3.กินแตง เป็นพืชที่ช่วยดับร้อนในกายได้ดี และอย่าลืมว่าหน้าร้อน เสียน้ำง่าย การได้เติมน้ำเข้าไปพืนที่ฉ่ำน้ำนี้จะมีส่วนช่วยได้มาก ขอให้หาแตงที่ท่านชื่นชอบ จะเป็นแตงโม แตงไทยน้ำกะทิแตงกวาในอาหารหรือเมล่อน แคนตาลู้ป นอกจากนั้นในแตงลูกแดงๆอย่างแตงโมยังมีเบต้าแคโรทีนกับไลโคปีน ที่ช่วยเป็นเกราะให้ผิวและร่างกายส่วนอื่นๆรับมือกับแสงแดดที่แผดเผาได้ดีขึ้นด้วย
4.ข้าวแช่ การรับประทานข้าวแช่ช่วยผ่อนร้อนให้ตัวเราได้มาก การได้น้ำลอยดอกมะลิที่หอมชื่นใจนอกจากเป็นอโรมาให้ได้สดชื่นแล้ว การกินข้าวแช่ยังเป็นทางหนึ่งที่ช่วยเติมน้ำ ให้ร่างกายได้ดีอีกด้วย ซึ่งการกินข้าวแช่นั้นเทียบเท่ากับการกินน้ำเป็นของว่างเผื่อให้เด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบดื่มน้ำได้มีหนทางกินน้ำให้ร่างกายแบบง่ายๆด้วย
5.หวานเย็น การกินหวานเย็นดับร้อนหรือไอศกรีมสักแท่งหนึ่งมีส่วนช่วยร่างกายท่ามกลางความร้อนได้มาก ในหวานเย็นและไอศกรีมมีทั้งน้ำและน้ำตาล ซึ่งส่วนหนึ่งของน้ำตาลจะช่วยให้พลังงานให้ร่างกายสดชื่นได้ในช่วงที่น้ำตาลต่ำจนรู้สึกเหนื่อยในหน้าร้อน แต่อย่างไรก็ดีไม่ควรรับประทานหวานมากเกินไปหรือใครที่ห่วงความหวานอาจทานเป็นน้ำผลไม้ปั่นเย็นหรือน้ำมะพร้าวเย็นๆแทนก็ยังได้
6.เก๊กฮวย เป็นของกินดับร้อนที่ผู้ใหญ่นับแต่สมัยก่อนมาให้เด็กๆดื่มน้ำที่ช่วยดับร้อน แก้ร้อนในและช่วยให้สดชื่น นอกจากเก๊กฮวยแล้วก็มีเฉาก๊วยและจับเลี้ยงที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเหมาะกับหน้าร้อนที่มีอาการร้อนในไม่สบายตัวง่าย ซึ่งในเก๊กฮวยและจับเลี้ยงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ยังคงมีมากภายหลังผ่านการต้ม ดังนั้นผู้ใหญ่ที่เบื่ออาหารขอให้ลองหาน้ำเก๊กฮวยปรุงหวานปะแล่มให้ท่านจิบเป็นตัวช่วยสุขภาพสร้างพลังงานให้มีแรงขึ้นมาอีกครั้งได้
7.ติดน้ำเปล่า การมีน้ำใส่ขวดเล็กๆติดตัวไว้อาจช่วยท่านได้มาก เพราะภาวะร้อนทำพิษ ทั้งหลายมักเกิดง่ายถ้ามีภาวะขาดน้ำซ่อนอยู่ในร่างกาย นอกจากนั้นคนที่ได้ดื่มน้ำบ่อยครั้งยังทนร้อน ได้ดีกว่าผู้ที่ดื่มน้ำน้อยด้วย อาจเลือกขวดน้ำเล็กๆ ไว้จิบบ่อยๆ ไม่เว้นแม้ท่านที่ทำงานในห้องปรับอากาศ ก็เสียน้ำได้จึงขอให้ดื่มไว้ และอาจจะหาชามเล็กๆ ใส่น้ำไว้เผื่อสุนัขและแมวด้วย
8.ชุดดับร้อน หาเสื้อผ้าที่ไม่รัดตัวและเนื้อผ้าโปร่งระบายร้อนใส่ เลือกชุดแบบไทย เช่น อย่างเสื้อม่อฮ่อม เสื้อตัวโคร่งลายดอก กางเกงขาก๊วยใส่เวลาอยู่บ้านหรือเล่นสงกรานต์จะได้ไม่รับความร้อนมากเกินไปนัก ขอให้เลือกผ้าสีอ่อนที่ไม่ดูดซับความร้อนจัดเวลาออกแดด ส่วนท่านที่ยังคงต้องทำงานก็ขอให้ติดเสื้อยืดหรือชั้นในบางๆไว้เปลี่ยนกันชื้นจากเหงื่อแล้วเป็นโรคผิวหนังหน้าร้อนได้
“เทคนิคทั้งหมดใช้ได้ไม่เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงอากาศร้อนแต่ใช้ได้กับทั้งผู้ที่ไวต่อความร้อน นักกีฬาหรือท่านที่ชอบออกกำลังกายแล้วเข้าห้องซาวน่าอบตัว เพราะเรื่องของการควบคุมอุณหภูมิให้ร่างกายสำคัญยิ่ง แม้ในตัวเราจะมีระบบคุมร้อนอยู่แต่ถ้าอบอ้าวหรือร้อนจัดเกินไปก็ไม่สามารถคุมอยู่ได้ทำให้เกิดอาการผิดปกติจากความร้อนสูงได้ตั้งแต่เพลีย เหนื่อยไปจนถึงชักหมดสติและเสียชีวิตได้ ขอให้ช่วยกันดูแลทุกชีวิตรอบตัวเราทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ปู่ย่าตายาย รวมถึงสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย” น.พ.กฤษดา กล่าว