กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่นี่หมอชิตวันอาทิตย์นี้เป็นเรื่องราวสองเรื่องสองรส กับเรื่องแรกพิธีกร พี่ดู๋ สัญญา และ ลิง สมเกียรติ จะพาผู้ชมไปเปิดบ้านหลังใหม่ที่เขาใหญ่ของแขกรับเชิญ แจ๊ส ชวนชื่น และครอบครัว คุณแจง ปุณณาสา ภรรยาและ น้องแตงไทย เหมือนฝัน ลูกสาว พร้อมทั้งเปิดตัววงดนตรีของเค้าเองที่ใช้ชื่อวงสุดแปลกว่า วง แจ๊ส สปกุนิก ปาปิยอง ก๊กุๆ ที่ดึง พ่อดม พ่อของตัวเองมาใช้แรงงานเป็นนักดนตรีและนักร้องของวงด้วย ซึ่งนอกจากเปิดบ้านแล้ววันนี้เค้าก็ไม่พลาดที่จะให้วง วงแจ๊ส สปุกนิก ปาปิยอง กุ๊กๆ และ พ่อดม โชว์เพลงแบบจัดเต็มในรายการ
และอีกเรื่องราวของแขกรับเชิญ “คุณณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” (นัททิว) ที่ไปเป็นศิลปินอยู่ที่เกาหลีจนได้รับฉายาว่า “เจ้าชายแห่งรอยยิ้มจากประเทศไทย” แต่กว่าจะได้เป็นศิลปินเค้าบอกว่าท้ออยู่หลายรอบวันนี้พิธีกร พี่ดู๋ และเชียร์ จะไปพูดคุยให้นัททิวเล่าเรื่องราวการฝ่าอุปสรรค สู่วงการศิลปินเกาหลีให้ฟัง และสำคัญประเด็นข่าวเม้าท์เรื่องต้นสังกัดเกาหลีสั่งห้ามศัลยกรรมเพิ่ม อีกแล้ว มันคืออะไร ยังไงต้องมาฟังกัน
“ พูดภาษาเกาหลีได้มากน้อยแค่ไหน ? แล้วตอนไปแรกๆคุยกันยังไง ? นัททิว : พูดเกาหลียังไม่คล่อง แต่อ่านออก เขียนได้ ฝึกสำเนียงเป็นหลักเพื่อร้องเพลง ครั้งแรกที่ไปออกซิงเกิ้ล She’s Bad มีล่ามไปด้วย เป็นครูสอนภาษาเกาหลีที่ไทย คือเรียนไปก่อนแล้ว พอจะต้องไปออกแนวบอกครูไปด้วยกันหน่อย ซึ่งบังเอิญว่าครูก็อยากกลับบ้าน แล้วครูก็อยากไปเจอนักร้องคนอื่นๆ ด้วยภาษาของเค้าต่างกับเรา ความชัด ความซึ้งในการถ่ายทอดเป็นยังไงบ้าง? นัททิว : ถ้าในเรื่องความชัด เราต้องฝึกบ่อยๆ มันจะเป็นไปอัตโนมัติ แล้วก็มีเพื่อนหรือโปรดิ้วเซอร์คอยฟัง ความหมายของเพลงโปรดิ้วเซอร์จะเป็นคนอธิบายให้เราฟัง แล้วก็เวลาอัดเสียง โปรดิ้วเซอร์จะคุย ไปอยู่ที่โน่นมีจุดที่เหงามากๆไหม บอกที่บ้านบ้างไหม ? นัททิว : บอกครับ บอกว่าอยากกลับบ้านมาก ร้องไห้ เพราะทั้งเหนื่อย ทั้งเหงา ทั้งยาก ทั้งกดดันมันรวมกัน เหมือนแบบใจก็เหนื่อย สมองก็เหนื่อย ร่างกายก็เหนื่อย ตอนอยู่ไทยมันเหนื่อยอย่างเดียว มันโอเค ยังไหว เพราะว่ากายมันเหนื่อยใจมันสู้ แล้วข่าวที่เค้าบอกว่าที่เกาหลีเค้าบอกให้หยุดทำศัลยกรรมได้แล้ว อันนี้ใครเป็นคนบอก ? นัททิว : ผมก็ตกใจเหมือนกันกับข่าวนี้ ผมไม่สามารถพูดได้จริงๆ เพราะผมไม่รู้ว่าสำนักข่าวนี้มาจากไหน แล้วผมก็ไม่รู้ว่าเอาคำนี้มาจากไหน คือผมว่าเค้ามโน แล้วก็แต่งขึ้นมาเลยประมาณว่านั่งเทียนเลยแหละ แล้วตัวนัททิวเองทำศัลยกรรมเยอะไหม ? นัททิว : ผมไม่ได้ทำ แล้วก็พูดมาตลอดว่าศัลยกรรมอย่างเดียวที่ทำมาในชีวิตคือการจัดฟัน เกาหลีไม่จับผมทำอะไรเลยจริงๆ นอกจากสกินแคร์ มากสุดเลยคือสกินแคร์ที่เป็นโปรแกรมยกกระชับผิวหน้า มีฉายาที่ทีมงานเรียกไหม ? นัททิว : มีครับแบบขำๆ ที่ทีมงานเรียก เค้าจะเรียกนัทว่าเป็น “เซลก้าวังจา” แปลว่าเจ้าชายที่ชอบถ่ายรูป เค้าบอกว่าศิลปินเกาหลีที่ทำงานด้วยไม่เคยมีใครเซลก้าเก่งเท่านัททิวมาก่อน นัทเซลก้าบ่อยมากเพื่ออัพเดทคนไทย แล้วก็อย่างรายการเพลงโชว์ที่เกาหลีเค้าจะชอบให้ศิลปินเซลฟี่ตัวเอง อาจจะถือป้ายชื่อรายการเพลง ซึ่งมุมผมสวยสุด ผมมั่นใจ เซียนเลย (หัวเราะ) ซึ่งพอทีมงานจะถ่ายรูป เค้าจะยื่นให้ผม ให้นัททิวถ่าย ไม่ต้องใช้ไม้ เป๊ะหมด แล้วฉายาเจ้าชายแห่งรอยยิ้มมาได้ยังไง ? นัททิว : เพราะว่าเราเป็นคนยิ้มเก่งมั้งครับ เป็นฉายาที่สื่อที่นู่นเรียก เรายิ้มแล้วเวลาเราไปออกรายการ ผมก็ยิ้มหมด แต่ประเด็นคือเพราะเพลงมันไปในทางนั้นด้วย เข้ากับคอนเซ็ปเพลง แล้วศิลปิน พี่ซอนโฮยอง เค้าก็เป็นคนยิ้มเก่งด้วย มันเป็นการดีที่จับยิ้มกับยิ้มมาชนกัน พอพูดออกไปแล้วมันเก็ทดี ว่าเป็นเจ้าชายแห่งรอยยิ้มจากเมืองไทย กับเจ้าชายแห่งรอยยิ้มจากเกาหลี มาเจอกันในเพลงนี้นะ “
ยังมีอีกหลายคำถามและหลายคำตอบกับเรื่องราวก้าวผ่านอุปสรรคสู่การเป็นศิลปินในเกาหลีของ “นัททิว” ติดตามชมกันแบบเต็มๆ ได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายนนี้ ทางช่อง 7