กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--เฟลชแมน ฮิลลาร์ด
โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีใหม่ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถให้บริการด้านสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยให้โรงพยาบาล ใช้งานทรัพยากรไอทีที่มีอยู่ในองค์กรได้คุ้มค่า และประหยัดไฟฟ้ามากกว่าเดิมถึง 90%
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลชั้นนำของเมืองไทย ภายใต้ บริษัท สมิติเวช (มหาชน) จำกัด เตรียมความพร้อมด้านไอทีเพื่อรองรับการเติบโตของโรงพยาบาลในอนาคต ประกาศความร่วมมือกับบริษัท วีเอ็มแวร์ (NYSE: VMW) ผู้นำระดับโลกด้านระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ในการปรับปรุงโครงสร้างทางไอทีด้วยการทำเซิร์ฟเวอร์ เวอร์ช่วลไลเซชั่น พร้อมติดตั้งเดสก์ท็อป เวอร์ช่วลไลเซชั่น รองรับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และพนักงานในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันและเข้าถึงข้อมูลไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นสอดรับกับธุรกิจที่เติบโตขึ้น ทำให้องค์กรใช้ทรัพยากรด้านไอทีและพลังงานได้อย่างคุ้มค่าสอดคล้องกับแนวทางขององค์กรในการมุ่งเป็น Green Organization โดยโรงพยาบาลสมิติเวชตั้งเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การใช้ทรัพยากรด้านไอทีให้คุ้มค่าสอดรับกับการเติบโตของธุรกิจ
ปัจจุบัน โรงพยาบาลสมิติเวช มีโรงพยาบาลสาขาในเครือ ได้แก่ สุขุมวิท, ศรีนครินทร์, ศรีราชา, ธนบุรี และโรงพยาบาลเด็กนานาชาติสมิติเวช โดยที่สาขาสุขุมวิท ให้บริการรองรับผู้ป่วยนอกรวม 2,500 รายต่อวัน โดยมีห้องตรวจโรค 200 ห้อง และบุคลากรมากกว่า 3,000 คน และได้รับการยอมรับในฐานะแหล่งให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครมาอย่างยาวนาน โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำของโรงพยาบาลระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่ให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทีมบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณภาพ พร้อมการให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง
การทำงานของโรงพยาบาลมีความซับซ้อน มีความจำเป็นต้องมีระบบสารสนเทศ มาช่วยในการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งปัจจุบัน โรงพยาบาลมีพนักงานไอที 50 คน ดูแลในส่วนโปรแกรมมิ่ง ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และแอพพลิเคชั่น เมื่อธุรกิจของโรงพยาบาลเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรจึงต้องใช้คอมพิวเตอร์พีซีเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรและบริการลูกค้าให้ได้ประสิทธิภาพ เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์พีซีเพิ่มขึ้นปัญหาที่พบกับโครงสร้างไอทีปัจจุบันขององค์กร คือ มีเซิร์ฟเวอร์ เป็นจำนวนมาก เปลืองพื้นที่ติดตั้ง ที่สำคัญต้องทำการเชื่อมต่อระบบด้วยสาย LAN และไฟเบอร์แชนแนล (FC) จำนวนมาก ทำให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้ามากซึ่งทำให้สิ้นเปลือง และต้องเพิ่มคนดูแลเพื่อแก้ไขเรื่อง ระบบปฏิบัติการ, แอพพลิเคชั่น, และฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้เมื่อองค์กรต้องการการเปิดหน่วยงาน หรือแผนกใหม่ ต้องใช้เวลานานในการปฏิบัติงาน เพราะการบริหารจัดการระบบทั้งหมดต้องแยกส่วนกันทำ ทำให้บริหารจัดการยาก
โรงพยาบาลสมิติเวช จึงได้หันมาเลือกใช้เทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ ประกอบไปด้วย VMware vSphere สำหรับการทำเซิร์ฟเวอร์ เวอร์ช่วลไลเซชั่น โดยติดตั้งใช้งานมาเป็นระยะเวลา 5 ปี และ VMware Horizon View สำหรับการทำเดสก์ท็อป เวอร์ช่วลไลเซชั่น ใช้มาแล้วเป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน โดยติดตั้งกับคอมพิวเตอร์ของทุกแผนกโดยรวมประมาณ 1,400 เครื่อง ใช้เวลาติดตั้งไม่เกิน 2 วัน และเวอร์ช่วลไลซ์ทรัพยากรไอทีของโรงพยาบาลไปแล้วกว่า 95%
ดร. นพ. ภาณุรัตน์ ธัญญสิริ CIO ของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และ BNH กล่าว “โซลูชั่นของวีเอ็มแวร์ทำให้ระบบไอทีสามารถทำทุกอย่างได้รวดเร็วขึ้น ทำให้การบริหารจัดการระบบง่ายและรวมศูนย์ โดยช่วยให้ไอทีแก้ไขปัญหาให้ผู้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องไปที่หน้างาน รวมถึงใช้เวลาน้อยลงเวลาที่ต้องการเปิดหน่วยงานใหม่ นอกจากนี้ โรงพยาบาลใช้งานทรัพยากรไอทีที่มีอยู่ในองค์กรได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่า 100% และประหยัดไฟฟ้ามากกว่าเดิมถึง 90% ด้วยการใช้ Zero client แทนการใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ผู้จัดการระบบ และพนักงาน ปฎิบัติงานได้ดีและรวดเร็วขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของทีมงานที่ต้องการใช้ระบบได้ดีขึ้น”
“เหตุผลที่เราเลือกเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ เพราะมีมาตรฐานทำให้สามารถทำงานเข้ากับระบบเดิมที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตั้งและใช้งานได้ค่อนข้างง่ายไม่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับ Virtual Machine จากแบรนด์อื่น ช่วยลดโอกาสที่จะทำให้เกิดดาวไทม์ จึงทำให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ดูแลระบบสามารถปฏิบัติงาน บริหารจัดการ ใช้งานระบบได้ง่ายขึ้น”ดร. นพ. ภาณุรัตน์ กล่าวเสริม
ในแต่ละปีโรงพยาบาลสมิติเวชวางงบประมาณด้านไอทีไว้ราว 1.5% ของรายได้ เพื่อบริหารจัดการระบบเดิมรวมถึงการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพการบริการผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ และเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์หลักของโรงพยาบาลในการมุ่งสู่การเป็น Green organization โรงพยาบาลจึงให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเลือกซื้อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีความเหมาะสมและคุ้มค่าในการทำงาน ทำให้ไม่ต้องลงทุนติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด พร้อมลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น การใช้เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นจึงช่วยตอบโจทย์ในแง่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรและบุคลากรในองค์กรทำงานได้แบบมีโมบิลิตี้มากขึ้น
เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นช่วยให้โรงพยาบาลสมิติเวชให้บริการทางการแพทย์ได้อย่างต่อเนื่อง
โรงพยาบาลสมิติเวช เลือกการติดตั้งใช้งานเวอร์ช่วลไลซ์ เดสก์ท็อป หรือการทำเดสก์ท็อปเสมือน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานแบบโมบิลิตี้ให้กับแพทย์ พยาบาล และพนักงานในองค์กรสามารถทำงานร่วมกัน และเข้าถึงข้อมูลไม่ว่าอยู่ที่ใด ก็ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ ข้อมูลพื้นฐานสำคัญต่างๆ ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และพนักงาน ผ่านแอพพลิเคชั่น Active Directory, หรือระบบการจัดการเอกสาร ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย ผ่านแอพพลิเคชั่น TrakCare เป็นต้นฯ เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น สามารถช่วยให้ธุรกิจการให้บริการด้านสุขภาพมี “ความพร้อมอย่างต่อเนื่อง” ในการให้บริการ โดยแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยผ่านระบบปฎิบัติการ และเว็บต่างๆ จากที่ใดเมื่อไหร่ก็ได้ แม้จะอยู่จากข้างนอกโรงพยาบาล แพทย์สามารถล็อกอินจากออฟฟิศหรือจากที่บ้านเพื่อติดตามดูแลผู้ป่วยของตนเอง และสามารถตรวจสุขภาพของผู้ป่วย หรือให้คำปรึกษาผู้ป่วยในเรื่องการดูแลตนเองหลังจากผ่าตัดผ่านระบบโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาล
การใช้งานเวอร์ช่วล เดสก์ท็อป ทำให้องค์กรสามารถใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีเดิมที่มีอายุการใช้งานมากถึง 5 ปี ได้รวดเร็วเหมือนใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เทคโนโลยีดังกล่าวจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลในการจัดหาคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปใหม่ นอกจากนี้ ทำให้ระบบไอทีของโรงพยาบาลทำงานได้แบบอัตโนมัติ พร้อมช่วยย่นระยะเวลาในการทำงานของพนักงานที่ปกติต้องนั่งมอนิเตอร์ระบบตลอดเวลา องค์กรจึงได้รับประโยชน์จากความคล่องตัว ความยืดหยุ่นในการใช้งานไอที รวมถึงการตอบสนองต่อการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด กล่าวเสริมถึงเทรนด์การใช้เทคโนโยลีเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ในอุตสาหกรรมด้านการบริการสุขภาพ “ปัจจุบันโรงพยาบาลชั้นนำของโลกและเอเชีย ได้หันมาใช้เทคโนโลยี เวอร์ช่วลไลเซชั่นอย่างแพร่หลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาจัดการการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ในทุกๆ ส่วน (Software-defined data center) ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และเน็ตเวิร์ก รวมถึงเดสก์ท็อป ในการช่วยจัดสรรทรัพยากรไอทีและการวิเคราะห์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนการดำเนินการขององค์กรโดยรวม ช่วยให้ผู้ใช้งานในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลบนระบบภายในโรงพยาบาลและนำมาใช้ได้แบบออนดีมานด์ พร้อมทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ที่ IDC Health Insights[1] คาดการณ์ไว้ในปีที่ผ่านมาว่าเทคโนโลยีด้าน “โมบิลิตี้” หรือการทำงานแบบเคลื่อนที่ จะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะมาเปลี่ยนระบบไอที ในองค์กรที่ให้บริการด้านสุขภาพ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ในอนาคต โรงพยาบาลสมิติเวช พร้อมร่วมมือกับวีเอ็มแวร์ ในการวางแผนสร้าง ไพรเวท คลาวด์ ขององค์กร โดยใช้ซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการให้สมบูรณ์แบบ รวมถึงการทำเน็ตเวิร์ก เวอร์ช่วลไลเซชั่น และใช้งาน DR Site (Site Recovery manager)สำหรับการวางแผนจัดการธุรกิจเพื่อให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP)