กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--Nike Golf Thailand
เลบรอน เจมส์ มี ไมเคิล จอร์แดน เป็นบุคคลต้นแบบ, ไมค์ เทราท์ มองดู เดเรค จีเตอร์ เป็นตัวอย่าง, รัสเซล วิลสัน เอาตามอย่าง ดรูว บรีส์, ไทเกอร์ วูดส์ ยกย่อง แจ็ค นิคลอส และ รอรีย์ แมคอิลรอย ก็มีไทเกอร์ วูดส์ เป็นไอดอล
ด้วยแนวทางนี้ ไนกี้ กอล์ฟ จึงได้ทำการผลิตภาพยนตร์โฆษณาชิ้นใหม่ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “Ripple” ซึ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่กล่าวถึงไทเกอร์ วูดส์ ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อ รอรีย์ โดยภาพยนตร์นี้ผลิตออกมาเป็น 2 เวอร์ชั่น ด้วยความยาว 60 วินาที และ 2 นาที และได้กล่าวถึงที่มาของแรงบันดาลใจในช่วงที่รอรีย์กำลังเติบโต ผ่านทางผลงานอันยอดเยี่ยมของไทเกอร์ ก่อให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจของเขา ไม่ว่าจะเป็นความเป็นนักกีฬา วงสวิง การได้เห็นการชนกำปั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ชัยชนะที่เกิดอย่างต่อเนื่อง และโปสเตอร์ของไทเกอร์ วูดส์ที่ติดอยู่เต็มผนังห้องของเขา และความใฝ่ฝันของเขาว่าสักวันเขาจะได้ลงสนามสู้กับไทเกอร์ วูดส์
รอรีย์ ผู้ที่เคยตีได้ถึง 40 หลา ตอนเขาอายุเพียง 2 ขวบ กล่าวว่า “เมื่อตอนเป็นเด็ก ผมมองดูไทเกอร์เป็นตัวอย่าง ตอนที่ผมเห็นไทเกอร์ในทีวีครั้งแรก ผมจำได้ว่ามันเหมือนมีพลังดึงดูดใจอย่างมากเกิดขึ้นกับกีฬา ไม่ว่าจะเป็นพลังที่อยากจะคว้าชัยชนะ ความมุ่งมั่น และความมานะพยายามในการแข่งขัน”
“ผมเองก็เคยอยู่ในสถาการณ์เดียวกันนั้น ตอนกำลังโต ผมก็มี แจ็ค นิคลอส เป็นไอดอล ผมเริ่มสะสมของจากรายการเดอะ มาสเตอร์ ในปี 1986 ซึ่งเป็นปีที่แจ็คชนะ ผมยังจำได้เลยว่าเขาทำพัตต์ที่หลุม 17 และชูพัตเตอร์ขึ้น หลังจากนั้นอีก 14 ปีในรายการ 2000 PGA Championship ผมก็มีโอกาสได้ลงแข่งร่วมกันเขา ผู้ที่ผมเคยมองเขาเป็นต้นแบบ” ไทเกอร์ วูดส์ กล่าว
ฉากในภาพยนตร์โฆษณานี้เริ่มจากบทของรอรีย์ แมคอิลรอยที่จ้องมองไทเกอร์ วูดส์ในจอทีวี ซึ่งเขากำลังคว้าชัยชนะในรายการ U.S. Amateur Championship ในปี 1996 ซึ่งถือเป็นการคว้าชัยชนะได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี จากบ้านเกิดของเขาใน โฮลี่วู้ด ไอร์แลนด์เหนือ รอรีย์ได้เฝ้ามองชัยชนะของไทเกอร์ อีกครั้งด้วยการคว้าชัยครั้งแรกในรายการมาสเตอร์ เมื่อภาพยนตร์ดำเนินเรื่องไปเราจะเห็นได้ว่า รอรีย์ นั้นมีความพยายามที่จะเอาอย่างไทเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกอล์ฟท่ามกลางสายฝน การฝึกพัตต์ที่สนามซ้อมหลังบ้าน ซึ่งตอนนี้เป็นการถ่ายทำที่สถานที่จริงที่สวนหลังบ้านตอนเด็กของรอรีย์ และมีโรซี่ และ เกอร์รี่ แม่กับพ่อของเขาที่ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดเวลา
ฉากจบของภาพยนตร์โฆษณานี้จบลงด้วยฉากที่ทั้งสองได้มาลงแข่งกันเอง เดินคู่กันบนแฟร์เวย์ด้วยท่าทางที่เคารพซึ่งกันและกัน
“มันเป็นการเดินทางที่สุดยอดมากสำหรับผม จากการที่ได้เป็นแฟนกีฬาจนได้มาเป็นคู่แข่งกับเขา ย้อนกลับไปไม่นานผมยังได้แต่คอยนั่งเฝ้ามองและติดตามการแข่งของเขาผ่านทางจอทีวีจนกระทั่งผมได้มาถึงจุดนี้ มันเป็นการเดินทางที่ยอดมากและผมโชคดีอย่างมากที่ได้มาลงแข่งกับเขา เพราะเขานี่แหล่ะคือแรงบันดาลใจของผมตั้งแต่ผมยังเด็ก เขาเป็นนักกอล์ฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยทีเดียว” รอรีย์ กล่าวต่อ
“มันดูเหมาเจาะเลยล่ะ เพราะว่าผมได้มาเป็นส่วนหนึ่งของคู่แข่งที่ต่างรุ่นกัน ซึ่งตอนนี้ผมได้แข่งกับรุ่นที่หนุ่มกว่า มันจะต้องสนุกแน่ ๆ ผมจะต้องซ้อมให้หนักขึ้นเพราะเด็ก ๆ เหล่านี้ยังเป็นนักกีฬาหนุ่มแน่นกันอยู่” ไทเกอร์ กล่าว
ด้วยผลงานจากความร่วมมือของ Wieden + Kennedy ภาพยนตร์ทั้ง 2 เวอร์ชั่น ที่มีความยาว 60 วินาที และ 2 นาที จะออกอากาศที่ช่อง ESPN และ The Golf Channel
ชมภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ได้ที่
http://news.nike.com/news/idols-have-idols-from-one-generation-of-greatness-to-the-next