กรุงเทพฯ--16 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการริมน้ำยานนาวา (Yannawa Riverfront)" โครงการฟื้นฟูพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทย ที่เริ่มต้นจากเชิงสะพานตากสินจนถึงพื้นที่โครงการเจ้าพระยาเอสเตท ระยะทางยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาให้เกิดพื้นที่สาธารณะทางเดิน ทางจักรยานริมน้ำคุณภาพสูง พื้นที่สันทนาการ พักผ่อน และรักษาสภาพแวดล้อมของเมือง รวมไปถึงการป้องกันภัยพิบัติจากน้ำท่วมอย่างมีนวัตกรรม รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอีกด้วย
นางสาวขวัญฤดี มณีวงศ์วัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรายินดีมอบพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาของโครงการเจ้าพระยาเอสเตทตลอดแนว 350 เมตร ให้เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการริมน้ำยานนาวา” ที่เกิดจากความร่วมมือกันของศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (Urban Design & Development Centre) หรือ UddC เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินรายใหญ่ รายย่อย กรมเจ้าท่า และกรุงเทพมหานคร เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีชีวิตชีวา ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน และการท่องเที่ยวทางน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ คือ องค์ประกอบหลักของการออกแบบโครงการเจ้าพระยา เอสเตทคือ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของบริษัทที่มีต่อคนไทยทั้งประเทศ จุดประสงค์ของโครงการเจ้าพระยา เอสเตทไม่ใช่แค่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับที่พักอาศัยริมน้ำในกรุงเทพมหานครและเอเชีย แต่ยังทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถบนั้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่เรามีโอกาสได้พัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและพิเศษที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเราอยากเห็นกรุงเทพมหานคร เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีพื้นที่ริมน้ำที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก”
เมื่อเร็วๆ นี้ นายโจชัว เดวิด ผู้ก่อตั้งองค์กร Friends of The High Line ได้เดินทางมายังประเทศไทยพร้อมเยี่ยมชมสำนักงานขายโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวทเรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา ในฐานะผู้ฟื้นฟู “นิวยอร์ค ไฮ ไลน์” ทางรถไฟยกระดับอันเสื่อมโทรมจนกลายมาเป็นสวนสาธารณะและเส้นทางเดินเท้าที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความยาวถึง 2.3 กิโลเมตร ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 5 ล้านคนต่อปี เพื่อกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นสถานที่ที่พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับโลก“พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ กรุงเทพมหานคร มีส่วนคล้ายคลึงกับ นิวยอร์ค ไฮ ไลน์ อยู่ไม่น้อย ทั้งนี้ ความสำเร็จของโครงการอย่าง The High Line หรือโครงการที่ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) กำลังพัฒนาอยู่ ยังคงต้องการความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าปราศจากความร่วมมือเหล่านี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่โครงการต่างๆ จะประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่ ดังนั้น คนทำงานที่มีเป้าหมายร่วมกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น ในการช่วยเติมเต็มชีวิตให้กับผืนน้ำและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ชุมชนริมน้ำ” นายโจชัวกล่าว
ด้านนายเดวิด โรบินสัน ผู้อำนวยการ Bangkok Rivers Partners (BRP) หนึ่งในกลุ่มที่มุ่งมั่นพัฒนาแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ เป็นจุดหมายปลายทางของชาวไทยและชาวต่างชาติ ดึงดูดความสนใจนักธุรกิจ และเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ริมน้ำ ได้ยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำทั่วโลกมากมายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการชุบชีวิตพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในเมืองให้มีชีวิตใหม่ ซึ่ง Bangkok Rivers Partners (BRP) กำลังส่งต่อแรงบันดาลใจนี้สู่โครงการริมน้ำยานนาวา กรุงเทพมหานครเช่นกัน“จุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่าง
The Rocks Sydney เซาธ์แบงค์ ลอนดอน, V&A Waterfront เคป ทาวน์, Marina Bay ในประเทศสิงคโปร์ และ The High Line ในมหานครนิวยอร์ค ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส อีกทั้งยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของชุมชนนั้นๆ วิสัยทัศน์ของเราในโครงการฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำย่านยานนาวาแสดงให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสิ่งพิเศษให้เกิดได้ที่กรุงเทพฯ ด้วยเสน่ห์ความเป็นไทย ซึ่งพร้อมที่จะสร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจและชุมชน และยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเยือนเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้”
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ได้เปิดตัวโครงการเจ้าพระยา เอสเตท โครงการริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา และโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่ 35-2-68 ไร่ มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาวตลอดแนว 350 เมตร ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2561