กรุงเทพฯ--16 เม.ย.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายด้านวัฒนธรรม จัดงาน มหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” เพื่อเทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี รวมถึงเป็นการรำลึกวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการนำภูมิปัญญามาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการวัฒนธรรม เพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มพูนรายได้ในการประชาชนและชุมชน การจัดงานมหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” มีกิจกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ ริ้วขบวนใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงโขน การแสดงลีลาศ การประกวดสตรีศรีรัตนโกสินทร์ การฉายภาพยนตร์ย้อยยุค การจัดนิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องกรุงรัตนโกสินทร์ การสาธิตและจำหน่ายของดีบ้านฉัน ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) 76 จังหวัด และ 50 เขต กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 17 – 21 เมษายน 2558 ณ ท้องสนามหลวง และบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจ และหาชมได้ยากได้แก่ ริ้วขบวน ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ ริ้วขบวน “ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์” เป็นการนำเสนอเหตุการณ์สำคัญ ความเป็นอยู่ และศิลปวัฒนธรรม ในแต่ละรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ ทั้ง 9 รัชกาล หัวขบวนจะเริ่มตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ถึงท้องสนามหลวง โดยมีนักแสดงกว่า 2 พันคน ความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ในวันที่ 18 เมษายน 2558 จะมีพิธีเปิดเวลา 18.30 น. การละเล่นของหลวง ที่มีมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ถึงกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิ โมงครุ่ม หรือมงครุ่ม เป็นการรำประกอบการตีกลอง ผู้เล่นมือถือไม้พดมีกลองประกอบการเล่น กลุ่มหนึ่งมีกลองโมงครุ่ม 1 ใบ อยู่ตรงกลางด้านหน้ามี ผู้เล่น 1 คน มายืนตรงหน้าคอยตีโหม่งบอกท่าทางให้ผู้เล่น กุลาตีไม้ เป็นการร้องเพลงประกอบการตีไม้แทง ซึ่งในวันนี้จะมีการนำมาจัดแสดงด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง กระตั้วแทงเสือ เป็นการละเล่นที่เลียนแบบมาจาก กระอั้วแทงควาย โดยเนื้อแสดงถึง นายพรานได้ต่อสู้กับเสือที่ออกมาสร้างวุ่นวายในเมือง และแทงเสือตาย เจ้าเมืองจึงได้มอบรางวัลให้
การสาธิต และการทำอาหาร เช่น ขนมกุฎีจีน ข้าวโพดคั่ว และข้าวแช่ การเล่นว่าว เป็นการจัดการแสดงว่าวจุฬาและปักเป้าต่อสู้กัน มีการบรรเลงปี่พาทย์เพลงเชิด กราวรำ และโอด รวมถึงการแสดงว่าวนานาชาติและว่าวไฟฟ้า กว่า 233 ตัว อีกทั้งมีการจัดสาธิตและในผู้ร่วมงานทำว่าวจากกระดาษเปเปอร์มาเช่ การเล่นตระกร้อลอดห่วง โดยมีการจัดการแข่งขันตระกร้อกว่า 30 ทีม ชิงถ้วยรางวัลของนายกรัฐมนตรี การสาธิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาไทย (CPOT) ที่เป็นสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความภาคภูมิใจและการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสร้างอาชีพและเพิ่มพูนรายได้ในกับประชาชนและชุมชน จากทั่วประเทศ
การแสดงทางวัฒนธรรม ได้แก่ การแสดงลีลาศ และการแสดงมหกรรมรำวงจำนวนคู่มากที่สุด ในวันที่ 19 เมษายน 2558 เวลา 19.00 น. และการแสดงมหกรรมโขนชุดใหญ่ที่สุดในโลก ในวันที่ 21 เมษายน 2558 เวลา 20.00 น. การเสวนาทางวิชาการ เรื่อง อมตะนครอมรรัตนโกสินทร์ การไหว้พระ 9 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล เพื่อให้ประชาชนได้น้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ การประกวดกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์ เพื่อแสดงถึงความงดงามและงามอย่างมีคุณค่าของกุลสตรีไทย และทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น โดยจะมีการประกวดในวันที่ 20 เมษายน 2558 เวลา 18.00 น.
ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 233 ปี มีกิจกรรม อีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ได้แก่ การสาธิต และจำหน่ายของดีบ้านฉัน ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาไทย (CPOT) จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขต กรุงเทพมหานคร นิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องรัตนโกสินทร์ แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญและวิถีชีวิตที่เกิดขึ้นในยุครัตนโกสินทร์
การแสดงสุดยอดศิลปวัฒนธรรมไทย ได้แก่ มหกรรมภาพยนตร์ย้อนยุคฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของกรุงเทพมหานคร บนรถโรงหนัง มหกรรมโขน รำวงและลีลาศย้อนยุค โดยวงสุนทราภรณ์ ครั้งใหญ่ และการแสดงพื้นบ้านสี่ภาค และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้ ความเข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่โดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์ วันละ 2 รอบ ระหว่างวันที่ 19 – 21 เมษายน 2558 โดยจะมีรถบัสปรับอากาศนำชม อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร หอประติมากรรมต้นแบบ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติศิลป์พีระศรีอนุสรณ์ ท่าช้าง ท่าราชวรดิฐ มิวเซียมสยาม ศาลฎีกา และศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม
จึงขอเชิญชวนเข้าร่วมงาน “ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 17 – 21 เมษายน 2558 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765 และเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม www.m-culture.go.th