กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
บีโอไอจัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจสมาชิกหอการค้าไทย-สภาหอกว่า 300 ราย แจงเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ใหม่ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมความแข็งแกร่งกิจการเอสเอ็มอี ทั้งการให้สิทธิประโยชน์รวมถึงจัดกิจกรรมเปิดเวทีแสดงศักยภาพผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเชื่อมโยงไทย
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ บีโอไอ ได้ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมสัมมนา “ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่และนโยบาย SMEs” เพื่อให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจแก่สมาชิก และผู้ประกอบการทั่วไป กว่า 300 คน ได้รับทราบถึงความชัดเจนและเป้าหมายของยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยบีโอไอได้ย้ำถึงเป้าหมายการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และรองรับนโยบายของรัฐบาลในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้มีศักยภาพและสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่ระดับสากลมากขึ้น
ทั้งนี้ บีโอไอมีมาตรการสำคัญสำหรับส่งเสริมกิจการเอสเอ็มอี ได้แก่ มาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยประกาศให้กลุ่มเอสเอ็มอีในกลุ่มเป้าหมายจำนวน 38 ประเภทกิจการ ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ด้านการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่ 2-8 ปี ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร เป็นต้น โดยกิจการที่อยู่ในข่ายได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวครอบคลุมทุกกลุ่มประเภทกิจการ อาทิ กิจการผลิตปุ๋ยชีวภาพ กิจการผลิตของเล่น อัญมณี และเครื่องประดับ กิจการผลิตยยางล้อสำหรับยานพาหนะ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมด้านการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีในการพัฒนาศักยภาพการผลิต และการแข่งขัน ผ่านการจัดกิจกรรมของหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BOI Unit for Industrial Linkage Development) หรือหน่วย Build ซึ่งเป็นหน่วยงานในด้านเป็นสื่อกลางด้านการให้ความรู้ และจัดกิจกรรมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เป็นเวทีสำหรับเอสเอ็มอีได้แสดงศักยภาพการผลิต ก่อให้เกิดการพัฒนาและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมสนับสนุนหรือการรับช่วงผลิตให้มีความต่อเนื่อง
“บีโอไอตระหนักดีถึงความสำคัญของกลุ่มเอสเอ็มอี โดยเฉพาะในส่วนของการเป็นผู้ผลิตเพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรมสนับสนุนหรือการรับช่วงผลิต ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและวางรากฐานที่มั่นคงให้แก่อุตสาหกรรมในประเทศ ทั้งนี้การพัฒนาเอสเอ็มอีนอกจากจำเป็นที่จะต้องได้รับการส่งเสริมและสนับสุนจากทุกภาคส่วนแล้ว สำหรับผู้ประกอบการเองควรต้องให้ความสนใจในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้มีขีดความสามารถในด้านการแข่งขันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญให้ประเทศก้าวข้ามการเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลางและช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวดวงใจ กล่าว
ด้าน นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หน่วย Build ได้จัดให้มีกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย กิจกรรมตลาดกลางซื้อขายชิ้นส่วน และกิจกรรมจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ได้แสดงศักยภาพการผลิตและการเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมเชื่อมโยงรองรับภาคอุตสาหกรรมหลากหลาย
สำหรับในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2558 หน่วย Build กำหนดที่จะจัดกิจกรรมใหญ่ อาทิ การนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน เข้าร่วมงานและเปิดบูธในงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ในระหว่างวันที่ 14-17 เมษายน 2558 นอกจากนี้จะกำหนดจัดให้มี กิจกรรมงานแสดงรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรม (ซับคอนไทยแลนด์) โดยเป็นนิทรรศการอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย และเอเชีย ที่จะเป็นเวทีสำหรับเอสเอ็มอีในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ร่วมแสดงศักยภาพของการเป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพ เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ประกอบการรับช่วงการผลิตทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมงานกว่า 300 ราย