กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--Chomchaviwan
ทีเอ็มบี เดินต่อขยายฐานลูกค้ารายย่อย ด้วย TMB Open Architecture ชูจุดแข็งเหนือใคร ด้วยการเลือกการลงทุนได้ตามความต้องการและหลากหลาย ผลตอบแทนเลิศ กองทุนดีๆ ยี่ห้อดังๆ ครบที่ทีเอ็มบี
ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อย ด้วย TMB Open Architecture “กองทุนดีๆ ยี่ห้อดังๆ ครบที่ทีเอ็มบี” หลังประสบความสำเร็จจากลูกค้ารายใหญ่ ย้ำจุดแข็ง ผู้นำด้านการลงทุนกับทางเลือกหลากหลาย และพร้อมเป็นที่ปรึกษา แนะนำการลงทุนกว่า 450 สาขาทั่วประเทศ มั่นใจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ารายย่อยที่นิยมการลงทุนในกองทุนรวม ตั้งเป้าสิ้นปี 2558 เติบโตกว่า 50 % จากปีก่อน
นางมารี แรมลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจรายย่อย ทีเอ็มบี กล่าวว่า ทีเอ็มบี ถือเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยธนาคารแรก ที่เปิดกว้างเสรีภาพแห่งการลงทุนตามความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าในทุกระดับ ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทลายข้อจำกัดเรื่องการสังกัดค่ายของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพิ่มอิสระ โอกาส และทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยเมื่อกลางปี 2557 ทีผ่านมา ทีเอ็มบีได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 4 แห่ง ได้แก่ บลจ.อเบอร์ดีน บลจ.ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล บลจ.ทหารไทย และบลจ.ยูโอบี ประเทศไทย ในการให้บริการกองทุนรวมในรูปแบบ Open Architecture ซึ่งจนถึงวันนี้นับว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ
“ตอนนี้มีลูกค้ารายย่อยให้ความสนใจใช้บริการกองทุนรวมในรูปแบบ Open Architecture ตามแนวคิด กองทุนดีๆ ยี่ห้อดังๆ ครบที่ทีเอ็มบี ด้วยจุดแข็งคือ ลูกค้าสามารถเลือกการลงทุนได้ตามความต้องการและหลากหลาย เพราะการบริหารการลงทุนแบบเฉพาะด้านของ 4 บลจ.แต่ละแห่งที่เราเลือกมาถือเป็นข้อได้เปรียบกว่าสถาบันการเงินอื่นๆ เรียกได้ว่า ทีเอ็มบี รวมรวบกองทุนรวมดีๆ ผลตอบแทนติดอันดับทุกกอง มาไว้ที่ ทีเอ็มบี ที่เดียวก็ว่าได้ บวกกับยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาการลงทุนที่อยู่ในทุกสาขา ทั่วประเทศ กว่า 450 สาขา รวมถึงสาขาที่ตั้งอยู่ในอาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ตามความสะดวกและรูปแบบการใช้ชีวิต ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการแนะนำและคำปรึกษาการลงทุนจากทีมงานที่มีประสบการณ์สูง สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมในแต่ละประเภทแต่ละระดับความเสี่ยงได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและสามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัว” นางมารี กล่าว
สำหรับตอนนี้มีจำนวนลูกค้าที่นิยมลงทุนในรูปแบบกองทุนรวมอยู่กว่า 201,000 ราย โดยมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และกลุ่มลูกค้ารายย่อย เป็น 35:65 สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม (AUM) ที่ซื้อขายผ่าน ทีเอ็มบี ณ สิ้นปี 2558 ตั้งเป้าอัตราเติบโตที่ 50% อยู่ที่ประมาณ 240,000 ล้านบาท จากฐาน 154,000 ในช่วงสิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา
“ทีเอ็มบียึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราจึงมุ่งมั่นมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เราเชื่อมั่นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า TMB Open Architecture เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ ทีเอ็มบี เปลี่ยน... เพื่อให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้น ลูกค้าของทีเอ็มบีจะได้รับความสะดวก มีประสิทธิภาพทางการเงินเพิ่มขึ้น และได้รับประสบการณ์ที่ดีในการมาใช้บริการกองทุนรวมกับเรา ผ่านพัฒนาการครั้งสำคัญของการลงทุนในกองทุนรวมที่เปิดกว้างมากยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่นี้ไป” นางมารี กล่าวปิดท้าย